Skip to main content

สำนักสื่อ Wartani 

ขอบคุณทุกคนเป็นอย่างยิ่งที่เข้ามาอวยพรวันเกิดครับ รู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ แม้ว่าทุกคนจะรู้วันเกิดของเราจากโปรแกรมเตือนผ่านเฟซบุ๊ค ไม่ใช่การจดผ่านความทรงจำ (อย่างเมื่อก่อน ใครจำวันเกิดใครได้นี่วิเศษนัก) แต่เพียงแค่ทุกคนให้เวลามาเขียนอวยพรนี่ก็ดีมากแล้ว รู้สึกขอบคุณจริงๆ

อย่างผมนี่บอกตรงๆว่ายังทำอย่างนั้นไม่ได้ ยังยึดติดอยู่กับคนที่รู้จักมักคุ้นในชีวิตจริงถึงจะกล้าอวยพร แต่นี่หลายคนถือว่าเพื่อนในโลกเสมือนก็เหมือนเพื่อน ยังอุตส่าห์มาอวยพร คนแบบนี้ ผมถือว่าเป็นคนละเอียดละออกับชีวิต และให้เวลากับมิตรภาพค่อนข้างมาก (ซึ่งผมทำได้ไม่ดีนัก)

 
 
วันนี้วันหยุดแต่ตื่นเช้าเป็นพิเศษ จนลูกสาวยังแปลกใจถามว่าทำไมพ่อตื่นเช้าจัง(ปกติจะ 9 โมงเป็นอย่างต่ำ ก็เพราะสะสมความเหนื่อยล้ามาทั้งสัปดาห์) ตอนแรกคิดว่าจะไปทำบุญที่วัดป่าแห่งหนึ่งแถวบ้านที่เคยไปเป็นประจำ แต่เมื่อคืนอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ใน M2F มีครอบครัวรันทดที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องแบกรับ พ่อแม่ป่วย น้อง ลูก พิการ อยู่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แถวบ้านนี่เอง เลยคิดว่าจะเสาะหาที่อยู่ไปมอบเงินให้ครอบครัวนี้ดีกว่า
 
อ่านข่าวนั้น ผมก็คิดไปเลยถึงเรื่องราวของ "อันวัร" อันเป็นเรื่องราวที่ผมและน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ในชายแดนใต้พูดถึงอยู่ตอนนี้ซึ่งข้อหา เรื่องราว หรือที่มาที่ไป อาจหาอ่านได้ในเพจ “เพื่อนอันวาร์” ที่เพิ่งก่อตั้งกันขึ้นมา และผมจะไม่พูดซ้ำในที่นี้
 
เราหารือกันว่าจะทำเพจ "เพื่อนอันวาร์" ขึ้นมา เพื่อเป็นชุมชนพบปะกันระหว่างคนที่รู้จักอันวัร และมีความทรงจำที่ดีต่อเขา ทั้งยังเป็นแหล่งที่จะอัพเดทเรื่องราวของเขาจากคนที่ไปเข้าเยี่ยมที่เรือนจำ จ.ปัตตานี อย่างน้อยที่สุด การพูดถึงเขาอยู่เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จะสร้างความรับรู้ให้กับสังคมไทยได้ว่าการจะยัดเยียดให้ใครเป็นขบวนการนักรบปัตตานีสักคนไม่ใช่เรื่องที่ควรจะทำกันง่ายๆ อย่างที่อันวัรเจอ
 
ในมุมมองของผม การยัดข้อหาให้ใครสักคนเป็นขบวนการนักรบปัตตานี ไม่ต่างอะไรกับกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เพียง "เชื่อว่า" ก็เปลี่ยนชีวิตใครคนใดคนหนึ่งได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่กระบวนการยุติธรรมมันเต็มไปด้วยทัศนคติ ความอคติ มันก็แปรเปลี่ยนเป็นความอยุติธรรมได้เพียงพลิกฝ่ามือ
 
การก่อตั้งเพจ “เพื่อนอันวาร์” ขึ้นมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีคนให้ความสนใจมากด Like เพจ และแชร์ข้อความกันเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งคือเพื่อนของอันวัร อีกส่วนหนึ่งคือพี่ๆ สื่อมวลชนที่รู้จักมักคุ้นกับอันวัร ทั้งที่เป็นคน “ซีแย” และมลายูด้วยกันเอง แต่บางกลุ่ม ไม่ได้รู้จักกับอันวัรเลย แต่การอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พวกเขารู้ซึ้งถึงปัญหาของกระบวนการยุติธรรมของรัฐไทยเป็นอย่างดี
 
เมื่อเกิดเรื่องราวของอันวัรขึ้น และผู้คนให้ความสนใจ อันวัรเลยคล้ายเป็นตัวแทนคำบอกเล่าถึงปัญหาใหญ่หนักที่ซุกซ่อนอยู่ในแกนกลางของปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขานั่นเอง กรณีแบบอันวัรเกิดขึ้นมานับร้อยๆ กรณี เพียงแต่พวกเขาไม่มีพื้นที่บอกเล่า ไม่มีใครรู้จัก แม้จะมีนักสิทธิมนุษยชนลงไปทำงาน และต้องปะทะกับแนวคิดรัฐชาติและความมั่นคงแบบไทยๆ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากสื่อมากนัก
 
กระทั่งปัญหานั้นมันมาตกอยู่กับอันวัร ซึ่งเป็นสื่อมวลชน เป็นคนในภาคประชาสังคม เป็นคนใกล้ตัวที่พี่ๆ เพื่อนๆ นักข่าวรู้จักดี พวกเขาจึงถือโอกาสนี้ใช้อันวัรเป็นสิ่งสะท้อนความคิดความทุกข์ของพวกเขาต่อกระบวนการยุติธรรมไทย
 
 
 
เพื่อนคนไทยพุทธ หรือ ซีแย บางคนอาจจะเปิดเพจนี้แล้วรับไม่ได้ เพราะมันเต็มไปด้วยเรื่องเล่า ความเชื่อ และการก่นประณามกระบวนการยุติธรรมของรัฐไทย บางอย่างฟังดูเหมือนอคติ แต่ผมกล้ายืนยันว่า หากโครงสร้างความยุติธรรมมันถูกต้อง การถูกกระทำมันจะไม่ถูกส่งสมมานานขนาดนี้ และก็คงไม่เกิดเรื่องเล่าและเบ้าหลอมแห่งความคิดเช่นนี้ขึ้น
 
บางอย่างมันอาจดูเหมือนความอคติ จนกระทั่งบางคนดูเหมือนจะมีแนวคิดความรุนแรง แต่ก็ให้ทำความเข้าใจเถิด เมื่อมีเหตุก็ต้องมีปัจจัย โปรดตั้งสติเรียนรู้และทำความเข้าใจ เพราะ 9 ปีที่ผ่านมา คนในพื้นที่ชายแดนใต้จำนวนมากก็ตั้งสติ เรียนรู้ และอดทนเช่นเดียวกัน
 
การงานและชีวิตกลางกรุงเทพฯ อาจทำให้ผมใช้เวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่าจะเอาเวลามาจมกับเรื่องนี้ แต่เพียงแค่คิดถึงหัวใจของ “รอมละห์” ภรรยาสาวของอันวัร คงมีหัวจิตหัวใจไม่ต่างจากแม่ที่ต้องแบกรับสมาชิกครอบครัวที่พิกลพิการ เธอและเขาเพิ่งแต่งงานและวาดฝันอนาคตร่วมกัน แต่ทุกอย่างมาพังทลายเสียสิ้น
 
ลองเข้าไปในป่าลึกเพียงห้วงเวลา 1วัน 3 วัน 5 วัน หรือหนึ่งเดือนโลก เมื่อออกมาโลกและเรื่องราวอาจเปลี่ยนไปจนเราตามแทบไม่ทัน แต่โลกของเมีย ไหนจะพ่อ แม่ และญาติพี่น้องอีก 12 ปีหลังกำแพงคุกของอันวัร มันจึงนานนับชั่วกัปกัลป์ของหลายชีวิต นี่คือความเป็นจริงที่จำเป็นต้องยืนยันถึงความสำคัญของเรื่องเล่า “เพื่อนของอันวาร์”
 
ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมและเพื่อนอันวัรจำเป็นต้องทำ และต้องเร่งทำด้วย เราคุยกันหลายอย่างในสิ่งที่จะลงมือทำภายใต้กฎหมายและช่องทางที่มี ซึ่งในโอกาสวันคล้ายวันเกิดปีนี้ ของขวัญสำคัญที่สุดที่ผมอยากได้ และจะหลับตาประณมมือขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของผม คือขอให้หัวใจของอันวัร และครอบครัวมีพลังใจอันมั่นคงแข็งแรง
 
ส่วนการที่อันวัรจะสามารถออกจากเรือนจำสู่อ้อมกอดของครอบครัวได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือร่วมใจลงมือทำ ของเพื่อนอันวาร์ทุกคน.
 
ณรรธราวุธ เมืองสุข
หมู่บ้านเล็กๆ ชานเมืองกรุงเทพฯ
4 พ.ค. 56
 
อ้างอิงข้อมูลจากเพจ "เพื่อนอันวาร์ - Save Anwar" 
 
 

 
ข้อมูล ชื่อ-สกุล และสถานที่ทำงานของอันวาร์ล่าสุด
(ก่อนที่เขาจะถูกจำกัดอิสรภาพ)
 
นายมูฮำหมัดอันวัร หะยีเต๊ะ หรือ อันวาร์ อิสมาอีล
ผู้สื่อข่าวประจำสำนักสื่อ Wartani
 
อ้างอิงข้อมูลโดย บรรณาธิการสำนักสื่อ Wartani