มีนักข่าวบางท่านติดต่อผมและถามว่า คิดอย่างไรกับข้อเสนอที่ให้คนในสามจังหวัดเลือกผู้ว่าฯ ผ่านการเลือกตั้ง
ตอนนี้ กระบวนการสันติภาพเพิ่งเริ่มต้น อยู่ในระดับการพูดคุยซึ่งมีเป้าหมายหลักคือ การสร้างความไว้วางใจ ฉะนั้น อาจเร็วเกินไปสำหรับฝ่ายรัฐที่จะนำเสนอรูปแบบการปกครองในอนาคต ณ ตรงนี้ เพราะภาวะสงครามกลางเมืองหรือการรบกันยังไม่สิ้นสุด
รูปแบบการปกครองของจังหวัดชายแดนภาคใต้ในอนาคตเป็นประเด็นที่มีความสำคัญมากที่สุดประเด็นหนึ่งไม่ใช่ประเด็นที่สามารถแก้ไขได้โดยมีข้อเสนอจากรัฐบาลอย่างเดียวทั้งฝ่ายรัฐฝ่ายคู่เจรจา(ที่นำโดย BRN) ประชาชนในพื้นที่และสังคมไทยทั่วไปต้องระดมความคิดและพิจารณา
คำถามที่โผล่ขึ้นมาในใจเมื่อผมได้รับคำถามเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯสามจังหวัดนี้คือ“ทำไมเฉพาะสามจังหวัดอย่างเดียวจังหวัดอื่นๆไม่ต้องเลือกผู้ว่าฯ ของตัวเองหรือ”
เมื่อสื่อต่างประเทศมีรายงานข่าวเกี่ยวกับประเทศไทย มักจะมีคำแนะนำว่า ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีอำนาจการปกครองรวบรวมอยู่ที่สูงกลางในระดับสูง (Thailand is a highly centralized country) จังหวัดที่ประชาชนสามารถเลือกผู้ว่าฯ ได้ก็มีแค่สองจังหวัดที่อยู่ในภาคกลาง
สำหรับคนที่มาจากประเทศที่ทุกจังหวัดเลือกผู้ว่าฯของตัวเองผมก็รู้สึกตกใจกับระบบการปกครองรัฐบาลท้องถิ่นของประเทศไทย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับระบบการปกครองของญี่ปุ่นก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ในช่วงนั้น รัฐบาลจำกัดสิทธิทางการเมืองของประชาชนอย่างมาก และทุกสิ่งทุกอย่างกำหนดโดยชนชั้นสูง โดยประชาชนไม่มีส่วนรวมใดๆ ในการกำหนดนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายระดับประเทศหรือระดับท้องถิ่น
ในประเทศมาเลเซีย ประชาชนในแต่ละรัฐไม่เลือกผู้ว่าฯ (ที่เรียกว่า มุขมนตรี) โดยตรง แต่ผู้ว่าฯ ต้องมาจากพรรคที่ชนะการเลือกตั้งสภาบัญญัิิติแห่งรัฐ ฉะนั้น ประชาชนก็มีส่วนรวมในการเลือก ผู้ว่าฯ ของรัฐ
เมื่อสังเกตสถานการณ์ของประเทศไทย ประชาชนยังมีส่วนรวมในการเมืองท้องถิ่นน้อยมาก เมื่อคุยเรื่องระบบประชาธิปไตยในประเทศไทย บางคนบอกว่า ประเทศไทยยังไม่ mature (แปลว่า ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ยังไม่พร้อม) ที่จะเลือกผู้นำของตัวเอง มีบางคนอ้างว่า คนไทยยังไม่ชินกับระบบประชาธิปไตย ถ้าจะเปิดโอกาสเลือกตั้งผู้ว่าฯ ก็คงจะมีการซื้อเสียงขายเสียง และประชาธิปไตยก็ไม่เวิร์ก
แนวคิดแบบนี้เป็นแนวคิดที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว เขาว่า คนไทยยังไม่ชินกับระบอบประชาธิปไตย แล้วในเมื่อคนไทยถูกปฏิเสธสิทธิทางการเมือง (เช่น การเลือกผู้ว่าฯ) คนไทยจะชินกับระบอบนั้นเมื่อไร และผู้นำที่ได้รับเลือกตั้ง แม้ว่ามีการซื้อเสียงขายเสียงก็ตาม แย่กว่าคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากศูนย์กลางหรือ หรือว่า ผู้ว่าฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากศูนย์กลางเป็นบุคคลที่ปราศจากคอรัปชั่นร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า
คนไทยหลายคนยังคิดว่าระบบประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งไม่เวิร์กสำหรับประเทศไทยผมเองก็ไม่เห็นด้วยกับการซื้อเสียง/ขายเสียงอย่างเด็กขาดซึ่งเป็นพฤติกรรมของคนที่ไม่มีศักดิ์ศรีในตัวเองปัญหาการซื้อเสียง ขายเสียง (อีกนัยหนึ่ง การขายชาติ) เป็นปัญหาที่สังคมไทยต้องแก้ไขเพื่อสร้างประชาธิปไตยอันแท้จริงในสังคม ต้องยอมรับว่า เส้นทางไปสู่ประชาธิปไตยยังยาวนาน แต่การปฏิเสธเลือกตั้งไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหา
ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ปฏิวัติไม่เคยเกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งนั้นคือการรัฐประหาร การประหารเกิดขึ้นเมื่อไร ประเทศไทยก็ต้องถอยหลังหลายๆ ปี
ขอให้ทุกท่านเข้าใจว่า ประชาธิปไตยจะไม่เจริญเติบโตในเมื่อประชาชนเองไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง อย่าให้ความสำคัญแก่รถถังมากกว่าตู้เลือกตั้ง ขอให้พิจารณาว่า อันไหนเป็นอาวุธของประชาชน