ตามเหตุการณ์ความไม่สงบที่ยังไม่เห็นจุดจบในแผ่นดินปาตานี (จังหวัดชายแดนภาคใต้) ณ โลกโซเซียลมีเดีย มีคนบางคนเอาภาพของศัพผู้เสียชีวิตจากเหตุการ ไม่ว่าจะเป็นศพของทหาร ผู้บริสุทธิ์หรือสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ
คนเหล่านี้มักจะเอาภาพศพนองเลือดที่ตนเองคิดว่าเป็นศัพของคนที่มาจากฝ่ายที่เป็นศัตรู ไม่ใช่โพสต์ภาพอย่างเดียว แต่คนเหล่านี้ก็ยังใส่คำบรรยายประเภทที่ว่า
JA">“สมน้ำหน้า” “อยากได้ภาพแบบนี้ทุกวันเลย” “ตายแค่นี้ น้อยไปไหม” “ไอ้สัตว์” “ไอ้เหี้ย” ฯลฯ (จริงๆ แล้วมีคำบรรยายที่รุนแรงกว่านี้มากมาย) คนที่ลงคอมเมนต์ก็ไม่แพ้กัน มีคนจำนวนไม่น้อยที่แสดงความดีใจหรือความสะใจที่ตนได้จากภาพของศพ เพราะศพในภาพนั้นเป็นศพของศัตรู
ผมไม่เคยรู้กฎศาสนาใดๆ ที่ให้ศาสนิกชนแสดงความดีใจหรือความสะใจต่อการเสียชีวิตของศัตรู ในตรงกันข้าม ผู้ที่ยึดถือหลักศาสนาก็ต้องให้เกียรติต่อผู้เสียชีวิตและเฉลยศึก ในขณะเดียวกัน ผมก็ไม่เคยเห็นว่า มีกฎหมายระหว่างประเทภที่อนุญาตให้คนในสังคมกระทำเช่นนี้ด้วย
JA">
ขอเ้น้นอีกครั้งว่า การกระทำเช่นนี้ มีอยู่ในทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนฝ่ายรัฐ (ทหาร) และฝ่ายที่สนับสนุนฝ่ายขบวนการ (โดยเฉพาะ BRN) ผมเชื่อมั่นว่า การกระทำเช่่นนี้ไม่ได้มาจากนโยบายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่บ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์ที่เสื่อมลง
หลังจากกระบวนการสันติภาพเริ่มต้นตั้งแต่วันที่
mso-fareast-language:JA">28 ก.พ. 2556 จำนวนนักสร้างสันติภาพก็เพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการที่น่ายินดี แต่สิ่งที่น่าเสียดายและน่าเศร้าก็คือ ในสังคมไทย (รวมถึงสังคมมลายูปาตานี) ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ต้องการสันติภาพ แต่กลายเป็น “นักสร้างความเกลียด” ผมถือว่า การกระทำเช่นนี้ ไร้ประโยชน์ทั้งสิ้นและไร้มนุษยธรรมหรือไร้ความเป็นมนุษย์ด้วย
ถึงแม้ว่าจะใช้ถ้อยคำอย่างไรเพื่อสร้างความชอบธรรมต่อการกระทำของฝ่ายที่ตนสนับสนุนก็ตาม การแสดงความดีใจและความสะใจจากภาพศพของฝ่ายที่ถือว่าเป็นศัตรูนั้นไม่อาจจะมีความชอบธรรมใดๆ
mso-fareast-language:JA">