กองบรรณาธิการสำนักสื่อ Wartani
ผู้เชี่ยวชาญภาษามลายูระบุ ภาษาบนใบปลิวที่บันนังกูแวนั้นเป็นปฏิปักษ์กับภาษามลายู พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ใช้นิติวิทยาศาสตร์ในการค้นหาว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ไม่ยึดหลักฐานจากใบปลิวแผ่นเดียว
ใบปลิวที่พบในที่เกิดเหตุ บ้านบันนังกูแว
จากเหตุการณ์กราดยิงที่บ้านบันนังกูแวเมื่อเช้ามืดวันที่ 23 กพ.ที่ผ่านมาและที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตสองราย กลุ่มผู้ลงมือก่อเหตุได้ทิ้งใบปลิวไว้เป็นข้อความว่า “akhirnya Pengkhianat akhir penGkhiAnaT, Patani MerdeKa” ใบปลิวดังกล่าวกำลังกลายมาเป็นสิ่งที่ผู้สนใจติดตามสถานการณ์เชื่อว่า เป็นหลักฐานสำคัญในคดีเนื่องจากมีเนื้อหาที่บ่งบอกที่มาหรือสาเหตุของการลงมือในครั้งนี้ได้ และก่อนหน้านี้ทางกองบรรณาธิการสำนักสื่อ Wartani ก็ได้พยายามที่จะตีความข้อความบนใบปลิวดังกล่าวไว้ว่า “จุดจบของคนทรยศ จุดจบของคนทรยศ ปาตานีเอกราช”
อย่างไรก็ตามกองบรรณาธิการสำนักสื่อ Wartani ได้มีโอกาสสัมภาษณ์อาจารย์ชินทาโร่ ฮารา ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษามลายูจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อยืนยันถึงความหมายที่อยู่บนใบปลิวฉบับนั้น อาจารย์ชินทาโร่ได้ให้ความเห็นว่า ในทัศนะของนักภาษาศาสตร์พบว่า ข้อความที่เขียนบนใบปลิวนั้นไม่สามารถจะตีความได้ "ผู้เขียนไม่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในภาษามลายู และตีความไม่ได้เลย"
อาจารย์ชินทาโร่ ฮารา | ภาพโดย Meen Photographer
อาจารย์ชินทาโร่ ระบุว่า "มันมีประโยคว่า Patani Merdeka (ปาตานีเอกราช) ประโยคเดียวที่เขียนไว้อย่างถูกต้อง ส่วนประโยคอื่นๆนั้นเขียนขึ้นบนโครงสร้างไวยากรณ์ที่อาจจะเรียกได้ว่าเขียนตามใจชอบและเป็นปฏิปักษ์กับภาษามลายูโดยสิ้นเชิง อีกทั้งก็ไม่ตรงกับโครงสร้างของภาษาใดๆเลย" นอกจากนั้นยังย้ำว่า ในข้อความทั้งหมด มีแค่คำอย่างเดียวเท่านั้นที่เป็นภาษามลายู ขณะที่โครงสร้างประโยคไม่ใช่ภาษามลายู ในฐานะนักวิชาการตนจึงไม่กล้าตีความ
ส่วนเรื่องการค้นหาว่าใครเป็
ข้อความที่อ.ชินทาโร่ ฮาร่า โพสต์บนเฟสบุ๊ค เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 57
และเมื่อเช้าของวันที่ 24 ก.พ. 2557 พบใบปลิวต้อบโต้ กรณีการกราดยิงสองสามีภรรยาที่บันนังกูแว ซึ่งถูกพบในหมู่บ้านดังกล่าว และถูกเผยแพร่อีกครั้งในโซเชียลมีเดีย