Skip to main content
font-style:normal">กองบรรณาธิการ สำนักสื่อ font-style:normal">wartani 
 
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้ กอ.รมน.และทัพภาค 4 เชิญทุกฝ่ายในความขัดแย้งไปคุย และให้เข้ามอบตัวสู้ในกระบวนการยุติธรรม  พร้อมกำชับคุมอาวุธเพื่อรับมือการก่อเหตุเดือนเม.ย. ชี้แจงว่าไม่ได้อยู่ในภาวะสงครามยังต้องใช้กฎหมายไปตามปกติ อีกด้านนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ตั้งข้อสังเกตแย้งว่าเป็นพื้นที่สงคราม ต้องพูดความจริง ส่วนในโลกโซเชี่ยลมีเดียตื่นตัวการรณรงค์เพื่อให้เกิดพื้นที่ความปลอดภัยต่อเด็ก
 

พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะ รอง ผอ.รมน. ได้กล่าวถึงกรณีเหตุลอบยิงประชาชน 2 เหตุการณ์ในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา คือ เหตุการณ์ยิงสองพ่อลูก และ เหตุยิงครอบครัว อส.อับดุลฮากิมที่กำลังเป็นข่าวครึกโครมอยู่ขณะนี้ ว่า เครือข่ายแนวร่วมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอาจชูประเด็นนี้เพื่อปลุกกระแสจนนำไปสู่การก่อเหตุแก้แค้นต่อเป้าหมายอ่อนแอ และเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ระหว่างคนทั้งสองศาสนา

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งการให้ มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 เชิญทุกกลุ่มที่มีความขัดแย้งกันภายในท้องถิ่นเข้ามาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง เพื่อให้มอบตัวต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรม พร้อมกับกำหนดมาตรการควบคุมอาวุธปืนทุกประเภทอย่างเป็นรูปธรรม โดยรวมเข้ากับระบบฐานข้อมูลอาวุธปืนของ ศชต. และให้หน่วยงานนำยุทโธปกรณ์พิเศษที่ได้รับมอบมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมมาตรการ รปภ. ทั้งเชิงรับและเชิงรุก ให้สามารถแจ้งเตือนแนวโน้มการเกิดเหตุ และติดตามความเคลื่อนไหวของคนร้ายได้เมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้นแล้วด้วย
 
“ ขอทำความเข้าใจว่า สภาพพื้นที่ จชต. ยังอยู่ในระดับการต่อสู้ของกลุ่มที่มีความคิดเห็นต่างกับรัฐ เป็นเรื่องภายในประเทศ ไม่ใช่สถานการณ์สงคราม ตราบใดที่มีการละเมิดกฎหมาย ฝ่ายเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายตามกระบวนการของกฎหมายปกติ โดยอาศัยการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาล” ผบ.ทบ.ได้ชี้แจงไว้
 

วันเดียวกัน พลโท วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 อ.บันนังสตา เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งที่ประชุมได้ให้น้ำหนักการหารือเกี่ยวกับเหตุคนร้ายยิงครอบครัวของ นายอับดุลฮากีม ดาราเซะ อส.บันนังสตา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 เม.ย. จนทำให้บิดา มารดา และหลานสาวของนายอับดุลฮากีมเสียชีวิต ส่วนหลานชายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในที่ประชุมมีข้อสรุปในเบื้องต้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความขัดแย้งของกลุ่มคน 2 กลุ่ม 2 ตระกูลที่ตอบโต้ล้างแค้นกันไปมาจนสร้างความสูญเสียทั้งสองฝ่าย ฉะนั้นจะต้องมีการจัดหาคนกลางหรือผู้นำศาสนาจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เข้าไปเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งโดยด่วน -อ้างข่าวจาก สำนักข่าวอิศรา (http://www.isranews.org/south-news/other-news/item/28790- bannangstar_28790.html)

ตูแวดานียา ตูแวแมแง ผอ.สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา และนักคิดนักเขียน ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีการชี้แจงของผบ.ทบ. ผ่านโฆษก กอ.รมน. โดยแสดงความเห็นและตั้งสังเกต ว่า “ถ้าไม่ใช่ปัญหาระหว่างประเทศแล้ว NGO ระหว่างประเทศเช่น HDC,PACTA และ ICRC แล้วรัฐมาเลเซีย มาเกี่ยวข้องได้ไง ถ้าไม่ใช่ภาวะสงครามแล้ว การที่กองทัพไทยประกาศใช้กฎอัยการศึกและทาง BRN ประกาศสู้เพื่อเอกราชปาตานี หมายความว่าอย่างไร ตลอดระยะเวลา10ปีถ้าคนปาตานีไม่เห็นด้วยกับการต่อสู้เพื่อเอกราชของ BRN การเคลื่อนไหวของกองกำลังจรยุทธ์ในเมืองและชุมชนคงไม่สามารถก่อเหตุได้มากครั้งและถี่ที่สุดในจำนวนการก่อเหตุของขบวนการต่อต้านรัฐทั่วโลกในรอบปีที่ผ่านมา เรื่องนี้ต้องพูดความจริงเพื่อการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนต่อไป” 

                                    (ภาพจากเฟสบุ๊ค Anumat Umar Rattanaphan)           

ขณะเดียวกัน ก็มีความเคลื่อนไหวในโลกโซเชี่ยลมีเดีย โดยเฉพาะในเวปไซด์ชื่อดังอย่างเฟสบุค (www.facebook.com) มีการโพสต์และแชร์ต่อๆกันในประเด็นเรื่องของการรณรงค์ปกป้องการละเมิดสิทธิเด็ก จากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ หัวข้อที่โพสต์กันส่วนใหญ่ คือ
 
“The world must act now to SAVE PATANI and Patanian's CHILDREN..”
“STOP! VIOLENCE to CHILDREN #Save PATANI”
“Save Children หยุดทำร้ายเรา ให้โอกาสสันติภาพได้ผลิบาน”
“ #Save_Patanian_Children #SavePatani “
 
กระแสการตื่นตัวในเฟสบุคดังกล่าว ได้ทำให้คนหนุ่มสาวและประชาชนในพื้นที่ที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ต ต่างสะท้อนถึงความอัดอั้นต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นกับเด็กผ่านการรณรงค์แบบออนไลน์ นับเป็นเรื่องดีในพื้นที่ความขัดแย้งแห่งนี้ อย่างน้อยก็ยังมีพื้นที่แสดงออกด้วยแนวทางสันติวิธี

 

***ภาพที่ใช้ในการรณรงค์ที่ถูกเผยแพร่ในโซเซียลมีเดียทางทีมงานได้นำมารวบรวมไว้ในอัลบั้บมภาพ "Save Children of Patani" Campaign.
 
กดลิงค์  https://drive.google.com/folderview?id=0ByJDozF0QE4MRWpmcWdOaFZObGM&usp=sharing