เป็นเวลา 60 ปี กับการหายสาบสูญ ของหะยีสุหลงโตะมีนา ผู้นำศาสนาอิสลามคนสำคัญในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดลูกหลานของตระกูลโตะมีนา มีความพยายามที่จะสื่อสารถึงเรื่องราวของบรรพบุรุษและประวัติศาสตร์ปัตตานี ผ่านการเปิดบ้านให้คนทั่วไปได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ ติดตามรายงานจากนักข่าวพลเมือง
หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ ต้นตระกูล โตะมีนา หนึ่งในผู้นำศาสนาอิสลามและมีบทบาทสำคัญทางการเมืองในจังหวัดชายแดนภาคใต้’ การหายสาบสูญอย่างไร่ร่องรอย’ ของเขา เป็นปีที่ 60 แล้ว หลังจากพยายามรักษาวิถีชีวิตและอัตลักษณ์มลายูในยุคของการสร้างรัฐชาติ
ทุกวันนี้เหลือเพียงบ้านที่เขาสร้างไว้ โดยรุ่นลูกหลาน ได้ร่วมกันสานต่องาน และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านบรรพบุรุษของพวกเขา
คุณบอย หรือ จตุรนต์ เอี่ยมโสภา ทายาทรุ่นที่สาม ตระกูลโตะมีนา เล่าให้ฟังว่า "หลังจากที่มีสุเหร่าหะยีสุหลง หรือ บาลาเซาะห์หะยีสุหลง เมื่อก่อนเป็นโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามแห่งแรกในประเทศไทย ที่ไม่ใช่รูปแบบปอเนาะ เป็นคณะกรรมการประจำจังหวัดปัตตานีแห่งแรกในประเทศไทย พอท่านเสียชีวิตไป เราก็เปิดให้ละหมาดทั้งห้าเวลาเลย และเปิดให้ใช้ข้างหน้าเป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อให้พี่น้องเข้ามาใช้ประกอบศาสนกิจได้"
เรื่องราวของหะยีสุหลงโตะมีนา เป็นเสมือนส่วนหนึ่งของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดความรุนแรงต่อเนื่องกว่าสิบปี แต่ไม่นานมานี้ลูกหลานตัดสินใจที่จะเปิดบ้านหะยีสุหลงเป็นพื้นที่เรียนคัมภีร์อัลกุรอ่าน และประวัติศาสตร์ปัตตานี
ยัสมิน โตะมีนา ทายาทรุ่นที่สี่ ตระกูลโตะมีนา 'ไม่ได้เปิดมาเกือบสิบปีแล้วมั้งคะ มาเปิดอีกทีตอนที่ช่วงเขามาสอนกุรอ่าน มาเปิดหน้าต่าง ปัด กวาด เช็ด ถูบ้าง เพราะนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ'
จตุรนต์ เอี่ยมโสภา ทายาทรุ่นที่สาม ตระกูลโตะมีนา "พอเราเริ่มเปิดบ้าน เริ่มมีโซเชียลมีเดียก็เริ่มมีคนเข้ามา แต่ละคนก็มีคำตอบ กลับออกไปเขาอาจจะค้นคว้าเพิ่มเติมว่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์จริงๆ มันเป็นยังไง หะยีสุหลงคือใคร ทำอะไรไว้บ้าง ซึ่งผมว่าจะทำให้ประวัติศาสตร์ชัดเจนขึ้นว่า 60 ปี ที่ผ่านมาที่สูญหายกับปัจจุบัน ความคิดหรือแนวคิดที่ท่านทำไว้นั้นถูกหรือผิด ให้รู้ตัวเอง รู้รากเหง้าเพื่อแก้ไข ถ้ายิ่งเราปกปิด อะไรที่เราปิดไว้มากๆ มันเหมือนลูกโป่ง พออัดลมเข้าไปเยอะสักวันมันก็ระเบิด ซึ่งมันเป็นอันตรายต่อทุกภาคส่วน เราถึงมีแนวคิดว่าเราควรจะเปิด"
สิบปีของปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องราวของหะยีสุหลง โตะมีนา เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่เริ่มเปิดให้มีการศึกษาที่มาที่ไป และสร้างมุมมองใหม่ๆในสถานการณ์ความขัดแย้งจากอดีตถึงปัจจุบัน และทุกวันนี้ยังคงมีประเด็นมากมาย ที่เริ่มสามารถพูดคุยในพื้นที่สาธารณะ เพื่อสร้างทัศนคติใหม่ ในพื้นที่แห่งนี้
ทีมข่าวพลเมือง รายงาน