อัสนียาพร นนทิพากร
กรณีเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังทำการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรง และได้เกิดการปะทะกันขึ้นหลังจากได้มีการเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัวนานนับ 9 ชั่วโมง ส่งผลให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 3 ราย หลบหนีไปได้ 2 ราย จับกุมตัวไว้ได้ 3 ราย บริเวณโรงเรียนยุวอิสลาม บ้านน้ำใส ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เมื่อ 9 มกราคม 2558
สืบเนื่องจากผลการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุลอบวางเพลิงโรงเรียน 6 แห่ง ในพื้นที่อำเภอทุ่งยางแดง และอำเภอมายอ เมื่อ 12 กันยายน 2557 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 12 คน และจากผลการดำเนินกรรมวิธีซักถาม ผู้ก่อเหตุให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ทำการลอบเผาโรงเรียน และยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่บางส่วน
จากการเปิดเผยข้อมูลของผู้ก่อเหตุรุนแรง ทำให้ทราบถึงโครงสร้างการจัดกำลังของผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับ Kompi ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่อำเภอทุ่งยางแดง, มายอ และอำเภอปะนาเระ โดยมีนายมะรูดิน ตาเฮ เป็นหัวหน้า
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2558 เจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวของนายมะรูดิน ตาเฮ หัวหน้าKompi ได้ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่บ้านน้ำใส ตำบลลูโบ๊ะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี
วันที่ 9 มกราคม 2558 เวลา 01.00 น. หน่วยรับผิดชอบในพื้นที่ได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการพิสูจน์ทราบ จนทราบว่านายมะรูดิน ตาเฮ พร้อมพวกได้หลบซ่อนตัวอยู่บริเวณบ้านของบาบอ โรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามวิทยามูลนิธิ
เวลา 03.00 น. หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ร่วมกับกองกำลัง 3 ฝ่าย ฉก.ทพ.43, นปพ.431, สภ.มายอ และ ผู้นำชุมชน ได้สนธิกำลังเข้าทำการติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมายบริเวณโรงเรียนยุวอิสลาม บ้านน้ำใส ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานีทันที ในการปฏิบัติได้รับความยินยอมจากนายอับดุลเลาะมัน เจ๊ะแว บาบอเจ้าของโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามวิทยามูลนิธิ
เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้ากองกำลังที่เข้าร่วมติดตามจับกุมได้ปรึกษาหารือ และวางแผนในการปฏิบัติ โดยเน้นการเจรจาให้นายมะรูดินฯ ออกมามอบตัวใช้การเจรจาต่อรอง แต่ผู้ก่อเหตุรุนแรงไม่ยินยอมออกมามอบตัวแต่ประการใด
จวบจนกระทั่งเวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ประสานบาบอ และผู้นำชุมชน และนายอับดุลเลาะมัน เจ๊ะแว บาบอของโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามวิทยามูลนิธิช่วยเจรจาให้ นายมะรูดินฯ พร้อมพวกออกมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ แต่ไม่ได้รับการสนองตอบแต่อย่างใด
เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดกั้นพื้นที่และใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าไปในตัวบ้านพัก พร้อมเจรจาต่อรองให้ออกมามอบตัว ขณะเจ้าหน้าที่กระชับวงล้อม นายมะรูดินฯ พร้อมพวกได้ขว้างลูกระเบิดขว้าง แบบ M-26 จำนวน 2 ลูก เข้าใส่เจ้าหน้าที่แต่ระเบิดทั้ง 2 ลูกไม่ทำงาน พร้อมทั้งได้วิ่งฝ่าวงล้อมใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเป็นการกรุยทาง จึงเกิดการปะทะกันขึ้นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย แต่สามารถหลบหนีไปได้ 2 ราย และควบคุมตัวไว้ 3 ราย
ข้อมูลผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิตจำนวน 3 ราย ซึ่งแต่ละคนมีข้อมูลบุคคลที่น่าสนใจ มีรายละเอียดดังนี้
คนที่ 1 นายมะรูดิน ตาเฮ เสียชีวิตบริเวณห้องพักนักเรียนร้าง ด้านหลังอาคารเรียน พร้อมตรวจพบปืนพกบริเวณศพ นายมะรูดินฯ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ หัวหน้า Kompi รับผิดชอบในพื้นที่อำเภอทุ่งยางแดง,อำเภอมายอ และอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี มีหมายจับ ป.วิ.อาญา จำนวน 5 หมาย ด้วยกัน
หมายจับที่ 1 เหตุลอบวางเพลิงเผาอาคารเรียนของโรงเรียนบ้านพ่อมิ่ง เมื่อ 8 มิถุนายน 2550
หมายจับที่ 2 เหตุระเบิดขบวนรถยนต์ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล เมื่อ 26 เมษายน 2554
หมายจับที่ 3 เหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่ตำบลถนน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เมื่อ 28 กรกฎาคม 2555
หมายจับที่ 4 เหตุลิบยิงนางสาวตติยารัตน์ ช่วยแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบาโง และนายสมศักดิ์ ขวัญมา อาจารย์โรงเรียนบ้านบาโง เสียชีวิตทั้ง 2 คน เมื่อ 11 ธันวาคม 2555
หมายจับที่ 5 เหตุลอบยิงนายนิมุ เจ๊ะอาแว ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมโพธิ์ เสียชีวิตและพวกได้รับบาดเจ็บ เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2556
ผู้เสียชีวิตคนที่ 2 นายปาตะ ลาเต๊ะ เสียชีวิตบริเวณห้องพักนักเรียนร้าง ด้านหลังอาคารเรียน พร้อมตรวจพบปืนพกบริเวณศพ นายปาตะฯ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการอำเภอทุ่งยางแดง อดีตทหารกองประจำการ สังกัดกองพลนาวิกโยธินกองทัพเรือ และเป็นครูสอนการใช้อาวุธให้กับสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงฝึกใหม่ มีหมายจับ ป.วิ.อาญา จำนวน 3 หมายดังนี้
หมายจับที่ 1 เหตุลอบยิงนายสุรพล แดงประเทศ เสียชีวิต เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2556
หมายจับที่ 2 เหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่ตำบลถนน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เมื่อ 28 กรกฎาคม 2555
หมายจับที่ 3 เหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อน เสียชีวิต 5 นาย เมื่อ 11 กันยายน 2556
คนที่ 3 นายมาหะมะซาบรี ดอเล๊าะ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ เสียชีวิตบริเวณภายในบ้านของบาบอพร้อมปืนเล็กยาว M-๔ คาร์บาย สืบเนื่องจากได้หลบซ่อนตัวบริเวณฝ้าเพดานบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นห้องลับ นายมาหะมะซาบรีฯ เคยถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2554 เป็นผู้ต้องสงสัยเหตุลอบยิงอาสาสมัครทหารพรานอุสมาน จะรง เสียชีวิตในพื้นที่ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2554 แต่จากผลการซักถามได้ให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวในเวลาต่อมา
ในส่วนผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 คน ที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้นั้น คือนาย อัดนันท์ ยูโซ๊ะ, นายอาฟีซี อาแว ซึ่งทั้งสองคนเป็นนักเรียนในโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามวิทยามูลนิธิดังกล่าว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายบัดรุดีน แจ๊ะแว ลูกชายของบาบอโรงเรียนโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามวิทยามูลนิธิ เนื่องจากเป็นผู้ชักนำบุคคลทั้ง 3 คนเข้ามาในบ้านพัก โดยดำเนินกรรมวิธีซักถาม ณ หน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43
เมื่อเหตุสงบเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่สามารถ ตรวจยึด ลูกระเบิดขว้างแบบM-26 จำนวน 2 ลูก และอาวุธปืนจำนวน 5 กระบอก จากการตรวจสอบอาวุธปืนพบว่าถูกแย่งชิงจาก 2 เหตุการณ์ ด้วยกัน กล่าวคือ
ปืนเล็กยาว AK-102 ถูกแย่งชิงจากเหตุ ผู้ก่อเหตุปล้นปืนจากบ้านของนายสุรินทร์ พัฒนจิรางกูร ผู้ใหญ่บ้าน และเป็นที่พักของชุดคุ้มครองหมู่บ้าน คนร้ายปล้นอาวุธปืน AK – ๑๐๒ ไป จำนวน 3 กระบอก เหตุเกิดในพื้นที่ อำเภอยะหริ่ง เมื่อ 25 พฤษภาคม 2555
ปืนเล็กยาว M-4 Cabine และ ปืนพก 9 มิลลิเมตร ถูกแย่งชิงจากเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อน เสียชีวิต 5 นาย ในพื้นที่บ้านจะมือฆา ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เมื่อ 11 กันยายน 2556
นายบัดรุดีน เจ๊ะแว ให้การยอมรับว่าตนเคยถูกชักชวนปลุกระดมให้เข้าร่วมขบวนการกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เคยผ่านการซูมเปาะ (สาบานตน) แต่ให้การปฏิเสธว่าตนไม่เคยผ่านการฝึกและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรง
นายบัดรุดีนฯ เป็นบุตรของนายอับดุลเลาะมัน เจ๊ะแว ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ที่เกิดเหตุปะทะและเป็นผู้ขออนุญาตเปิดโรงเรียนยุวอิสลามมูลนิธิ นายบัดรุดีน ฯ ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนภายในบ้านตนเองก่อนเกิดเหตุปะทะ 2 วัน โดย นายมาหะมะซาบรี ดอเล๊าะ ซึ่งเป็นเพื่อน เป็นผู้ติดต่อมา ตนเองไม่รู้จักบุคคลอื่นๆ มาก่อน ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วมีผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาทั้งสิ้น 5 คน สามารถหลบหนีจากการปะทะ ไปได้จำนวน 2 คน
นายนัดรุดีนฯ ยังแสดงความเห็นส่วนตัวว่า ผู้ที่เสียชีวิต ไม่มีความประสงค์ที่จะมอบตัวอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่เริ่มเจรจา ตั้งแต่เวลา 03.00-11.00 น. รวมเวลาประมาณ 9 ชั่วโมงก็ไม่มีการตอบรับ และตนเองก็ได้เข้าไปในบ้านเพื่อเชิญชวนให้ออกมามอบตัวในระหว่างเจ้าหน้าที่ปิดล้อม ก็ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด ซึ่งนายนัดรุดดีนฯ ยังให้การยืนยันอีกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ
เห็นใจทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและผู้หลงผิด อัลเลาะห์เข้าใจและจะให้อภัยกับทุกคน ขอให้พี่น้องจงเปิดตาเปิดใจรับสิ่งที่ถูกต้อง...เป็นบทเรียนและผลกรรมของผู้หลงผิดเอง ที่ได้ก่อกรรมทำชั่วไว้ ผู้เขียนไม่อยากซ้ำเติมสมาชิกแนวร่วมเหล่านี้ที่ต้องมาเสียชีวิต เป็นเพราะถูกครอบงำจากขบวนการ ถ้าเจ้าหน้าที่ต้องการความรุนแรงจริงๆ ก็คงจะไม่ใช่เสียชีวิตแค่ 3 คนอย่างแน่นอน การปฏิบัติเป็นไปตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก ภายใต้กรอบของกฎหมาย และเป็นไปตามกฎการปะทะ การปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งทุกขั้นตอนมีบาบอเจ้าของโรงเรียน ผู้นำศาสนา รวมถึงพี่ชายของ 1 ใน 3 ของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิตร่วมเจรจา และร่วมเฝ้าสังเกตการตลอดเวลา ขอให้ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์สุดท้าย…หากมีการมอบตัวคงจะไม่นำมาซึ่งความสูญเสียที่ใครๆ ต่างก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น....