10 ปี กับเหตุความรุนแรง วิถีคนพุทธก็เปลี่ยนแปลง ไปกับเหตุการณ์ และความสูญเสีย ประเพณี วัฒนธรรม กาลเวลา ที่ถูกเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติศาสนกิจ จุดเทียนเพื่อเวียนเทียนในเวลาเย็น การจัดงานศพ ต้องจัดกกลางวัน ... งานแต่งงานต้องเลี้ยงกันตอนเที่ยง
ประเพณีต่างๆ เริ่มสูญเสียไปพร้อมกับคนพุทธ ในบางหมู่บ้านที่จำเป็นต้องย้ายทิ้งถิ่นฐาน ..การเชื่อมต่อของพี่น้องพุทธ กับพี่น้องมุสลิม เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
เราต้องเริ่มที่จะก้าวพ้นความหวาดกลัว เพื่อกลับเข้าสู่วิถีพุทธ หันหน้าสู่เวลาที่ของการปฏิบัติอย่างที่เราเคยปฏิบัติ หากพื้นที่ บางพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงมากมายนัก จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนตามแนวแห่งวิถี ณ ที่นั้นๆ มันคือสิ่งจำเป็น หากแม้บางพื้นที่ ที่มิได้เสี่ยงภัยมากมาย เราควรต้องเริ่มออกมา เพื่อกลับเข้าสู่วิถีพุทธดั้งเดิมของเรา
หากเรายังคงยึดมั่นกับความกลัว แล้วเปลี่ยนวิถีชีวิต เปลี่ยนเวลาในการทำนุบำรุงศาสนา ต่อไปเช่นนี้ เชื่อแน่ว่า วิถีพุทธ วิธีของการปฏิบัติ จะเปลี่ยนแปลงไปแบบไม่หวนกลับแน่นอน
เรา ไม่ได้หวาดหวั่นจนขนาดเปลี่ยนเวลาในการปฏิบัติศาสนกิจ อย่ากลัวแทนเรา เราต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการปฏิบัติศาสนกิจ เช่นกัน
ในขณะที่ เช้าวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 วันที่สองของการแจ้งให้พระภิกษุสงฆ์ งดบิณฑบาต ยังคงมีพระภิกษุสงฆ์ ออกเดินบิณฑบาต ตามกิจของสงฆ์ ยังคงมีพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธปฏิบัติศาสนกิจตามที่คน มลายูพุทธ ในพื้นที่ พึงกระทำ การที่เราขอคืนวิถีพุทธ เราก็ไม่ได้ไปเบียดเบียนวิถีอื่น ของพี่น้องที่นับถือต่างศาสนากัน
วิถีแห่งศาสนา ย่อมสวยงามในทุกๆ วิถี