Skip to main content

 

แถลงการณ์ กลุ่มด้วยใจ และ Children Voice for Peace Project

กรณีเหตุการณ์ระเบิดในวันที่ 19 เมษายน 2559

ขอให้ทุกฝ่ายให้การปกป้องและคุ้มครองเด็กและผู้บริสุทธิ์ ใน จังหวัดชายแดนใต้

เผยแพร่วันที่ 19 เมษายน 2559

 

ความเสียใจต่อกรณีเหตุระเบิดในวันที่ 11 เมษายน 2559 เวลา 17.30 น.ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟจะนะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ยังไม่จางหาย ก็เกิดเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟบ้านตาแปดในวันที่ 19 เมษายน 2559 ที่ บริเวณหน้าร้านขายของชำ บ้าน ตาแปด หมู่ที่ 5 ตำบล ปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ทำให้มี ผู้เสียชีวิต 1 คน ได้รับบาดเจ็บ 14 คน ซึ่งมีเด็กได้รับบาดเจ็บด้วย 1 คน

ตลอดระยะเวลา 12 ปี ของความรุนแรงมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเสียชีวิต 85 ราย บาดเจ็บ 7 ราย ทั้งนี้ในสถานการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธ นอกจากที่รัฐบาลต้องปราบปรามการก่อความไม่สงบภายใต้กฎหมายไทยแล้วรัฐบาลยังต้องดำเนินการทั้งมาตรการทางกฎหมายและในทางปฏิบัติให้เกิดการปกป้องและคุ้มครองเด็กอย่างจริงจัง

กลุ่มด้วยใจขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้ที่ได้รับ ขอประณามการใช้ความรุนแรงโดยระเบิดจากทุกฝ่ายในพื้นที่สาธารณะจนส่งผลให้มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอเรียกร้องให้ผู้ที่กระทำ

 

1. ยุติการใช้ระเบิดและความรุนแรงทุกรูปแบบที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้ชีวิตปกติในพื้นที่สาธารณะ

 

2. ให้ผู้ที่ใช้ความรุนแรงในการต่อสู้ประกาศต่อสาธารณะชนว่าจะเคารพหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในการป้องกันผลกระทบมิให้เกิดผลกระทบต่อพลเรือนโดยเฉพาะเด็กจะต้องได้รับการคุ้มครอง

 

การระเบิด 2 ครั้งในระยะเวลาที่ห่างกันไม่ถึง 10 วัน ในพื้นที่สาธารณะดังที่เกิดขึ้นที่สถานีรถไฟทั้งที่อำเภอจะนะ และ บ้านตาแปดอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ในลักษณะเดียวกัน จึงสะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างของนโยบายและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่จึงขอเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่ดังนี้

 

1. ขอเรียกร้องให้รัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบและความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนได้ดำเนินการแสวงหาแนวทางในการสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชน

 

2. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยไม่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกฎหมาย โดยเฉพาะการเคารพต่อหลักการห้ามทรมานโดยเด็ดขาดและการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม

 

และขอเรียกร้องให้ประชาชน

 

1. ให้ความร่วมมือในการป้องกันเหตุโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่รวมไปถึงการหาข้อมูลข่าวสารในการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันเหตุระเบิด

 

2. สนับสนุนการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี