ทุกคนมีสิทธิได้ผลบุญค่ำคืนอัลก็อดรฺและอย่าทำสิ่งงมงาย
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้
ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา
[email protected], http://www.oknation.net/blog/shukur
ขอบคุณภาพจาก http://www.muslimthaipost.com/upfile/2015/07/08/ramadan.jpg
ด้วย พระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์พระองค์ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกคน
1.ภาพรวม
ซูเราะฮฺ อัลก็อดรฺ เป็นซูเราะฮฺ มักกียะฮฺ(ประทานก่อนท่านศาสนฑูตมุฮัมมัดอพยพ) ซึ่งกล่าวถึงการเริ่มประทานอัลกุรอานลงมา และได้กล่าวถึงความประเสริฐของคืนอัลก็อดรฺที่มีเหนือกว่าวันอื่น ๆ และเดือนอื่น ๆ โดยที่ในคืนนั้นมีรัศมีแสงสว่าง และความกระจ่างแจ้งอันศักดิ์สิทธิ์ และกลิ่นไอแห่งความเมตตาของพระเจ้าได้แผ่คลุมไปยังปวงบ่าวของพระองค์ผู้ศรัทธา เป็นการให้เกียรติในคืนแห่งการพระราชทานอัลกุรอานอันชัดแจ้ง นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงการลงมาของมะลาอิกะฮฺผู้ทรงคุณธรรมจนกระทั่งรุ่งอรุณ โอ้มันช่างเป็นคืนที่ยิ่งใหญ่เสียจริง ๆ เป็นคืนที่ดียิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺกว่าหนึ่งพันเดือน ดังนั้นทุกคนมีสิทธิได้ผลบุญค่ำคืนลัยลาตุลกอดรฺเมื่อเขาทำความดียิ่งกว่าหนึ่งพันเดือนโดยไม่ต้องไปค้นหาว่าจะมีปรากฎการณ์อะไรบ้างในอายะฮฺที่ 3: คืนอัลก็อดรฺนั้นดียิ่งกว่าหนึ่งพันเดือน
2.หลักฐาน
กุรอานซูเราะฮฺ อัลก็อดร (Al-Qadr)
ความหมายโดยสรุป :เป็นบัญญัติมักกียะฮฺมี 5 อายะฮฺ
อายะฮฺที่ 1: แท้จริงเราได้ประทานอัลกุรอานลงมาในคืนอัลก็อดรฺ
อายะฮฺที่ 2: และอะไรเล่าจะทำให้เจ้ารู้ได้ว่าคืนอัลก็อดรฺนั้นคืออะไร
อายะฮฺที่ 3: คืนอัลก็อดรฺนั้นดียิ่งกว่าหนึ่งพันเดือน
อายะฮฺที่ 4: บรรดามะลาอิกะฮฺและอัลรูฮฺ (ญิบริล) จะลงมาในคืนนั้น โดยอนุมัติแห่งพระเจ้าของพวกเขาเนื่องจากกิจการ-ทุกสิ่ง
อายะฮฺที่ 5: คืนนั้นมีความศานติจนกระทั่งรุ่งอรุณ
3.อะไรคือลัยละตุลกอดัร?
ลัยลุตุลกอดัรคือค่ำคืนหนึ่งที่อัลลอฮ์ ได้เลือกให้เป็นค่ำคืนที่มีความประเสริฐในช่วงคืนหนี่งของเดือนรอมาฏอนเหมือนดำรัสของพระองค์ ใน ซูเราะห์อัลก็อดร ความว่า
“ผู้ใดที่ได้ถือศีลอดในเดือนรอมาฏอน ด้วยกับความศรัทธา และมีความหวัง เขาได้รับการอภัยโทษจากบาปที่ผ่านมาของเขา
และผู้ใดที่ได้ยืนขึ้น ( หมายถึงการเคารพภักดี เช่นการละหมาด อ่านอัลกุรอาน ) ในค่ำคืนลัยละตุล ก็อดรฺ ด้วยกับความศรัทธา และมีความหวัง
เขาจะถูกอภัยโทษจากบาปที่ผ่านมาของเขา “
(บันทึกโดย บุคอรีย์ 2014 มุสลิม / 759)
4. ค่ำคืนใดเป็นคืนอัลก็อดรฺ ?
สำหรับเกี่ยวกับคืนอัลก็อดรฺท่านอิบนู หาญัรได้กล่าวไว้ บรรดานักวิชาการมีทัศนะที่ไม่ตรงกันหลายทัศนะด้วยกัน ประมาณ 40 ทัศนะ แต่นักวิการส่วนใหญ่มีความเห็นว่ามันอยู่ในช่วง 10 คืนสุดท้ายของเดือนรอมาฏอน
หะดีษ(วัจนศาสนฑูตมุฮัมมัด)ที่รายงายโดยท่าน อาบูสะอีด อัลกุดรีย์ แท้จริงท่าน ศาสฑูต ได้กล่าวความว่า
“พวกท่านจงแสวงหามัน ( หมายถึงคืนอัลก็อดรฺ ) ในช่วงสิบคืนสุดท้าย”
(บันทึกโดย บุคอรีย์ 2018 มุสลิม 1167)
และบรรดานักวิชาการส่วนใหญ่เห็นว่า ลัยละตุลกอดรนั้นจะเกิดในคืนคี่ ดังวัจนะของท่านศาสนฑูตที่ว่า
“ พวกท่านจงแสวงหา คืนอัลก็อดรฺในคืนที่คี่ ของสิบคืนสุดท้าย ”
(บันทึกโดย บุคอรีย์ 2017)
และนักวิการบางท่านมีความเห็นว่าค่ำคืนอัลก็อดรฺนั้นคือค่ำคืนที่ 27 ซึ่งเป็นทัศนะของบรรดา ซอฮาบะห์ (เพื่อนศาสนฑูต)กลุ่มหนึ่ง โดยที่ท่าน อุบัย บิน กะฮบฺ กล่าวว่า “มั่นใจว่า มันเป็นค่ำคืนที่ 27 โดยที่ท่านได้สาบานเพื่อยืนยันถึงความหนักแน่น” ในเรื่องนี้เหมือนที่มีบันทึกในซอเอียะ มุสลิม 762 / อัตติรมีซีย์ 3351
อาบูสะอีดได้กล่าวว่า ฝนได้ตกยังพวกเราในคืนที่ 21 โดยที่มันรั่วในมัสยิดที่ละหมาดของท่านศาสนฑูต ฉัน( หมายถึงอาบูสะอีด ) ได้มองไปยังท่าน โดยที่เมื่อท่านเสร็จจากการละหมาดที่หน้าของท่านเปียกไปด้วยดินโคลน และน้ำ
(บันทึกโดย บุคอรีย์ 2018 มุสลิม 1167)
นี่คือที่มีรายงานในวัจนะของท่าน
5. ข้อเร้นลับที่คืนอัลก็อดรฺไม่ได้ถูกบอกไว้อย่างชัดเจน
ข้อเร้นลับที่คืนลัยละตุลก็อดรฺไม่ได้ถูกบอกไว้อย่างเช่นเจน เพื่อต้องการให้ปวงบ่าวนั้นได้พยายามในการทุ่มเทในการเคารพต่ออัลลอฮ์ ในทุกๆคืนและมีความหวังว่าทุกคืนนั้นเป็นคืนอัลก็ก็อดรฺ โดยที่เดือนนี้คือเดือนแห่งการเคารพต่ออัลลอฮฺ และการภักดีต่ออัลลอฮฺและจากหะดีษของท่าน ต่อไปนี้คงจะเป็นข้อเร้นลับ
“แท้จริงฉันได้ออกมาเพื่อที่ต้องการที่จะบอกถึงคืนอัลก็อดรฺ แล้วก็มีคนทะเลาะกัน ฉันเลยลืมมันไปและหวังว่า มันเป็นการดีแก่พวกเจ้า ดังนั้นพวกท่านจงแสวงหามัน”
(บันทึกโดยบุคอรีย์ 2023)
6. การเข้าใจผิดของ มุสลิมบางในการแสวงหาค่ำคืนอัลก็อดรฺ
หลายคนแสวงหาค่ำคืนนี้โดยวิธีแปลกๆเช่น มีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น เช่นน้ำเต็มบ่อที่ไม่เคยเต็ม ต้นไม้โน้มเอียงจนลืมทำการเคารพภักดี พอได้ยินข่าวก็ไปมุ่งดู บางคนถึงเอาน้ำมารักษาโรค ดื่มให้เกิดศิริมงคลจนละทิ้งการเอียะติกาฟและเสี่ยงการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ
กล่าวโดยสรุปทุกคนพบแน่และได้บุญแน่ในเดือนรอมฎอนไม่คืนใดก็คืนหนึ่งหากเขาทำความดีแล้วความดีของเขาจะถูกทวีคูณถึง หนึ่งพันเดือนหรือประมาณ 83 ปี 3 เดือน
หวังว่าทุกคนได้รับความดีนี้ grikt ในค่ำคืนที่มีศิริมงคล ผู้ใดไม่ได้พบกับค่ำคืนนี้ ก็เท่ากับว่าความดีอันมากมายได้ผ่านเขาไป และผู้ที่ไม่ได้พบกับมันนั้นเป็นความขาดทุนอย่างมากมาย และมุสลิมนั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะแสวงหาค่ำคืนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกับความดีและความมีศิริมงคล ด้วยกับการสร้างชีวิตชีวาให้กับค่ำคืนนี้ด้วยความศรัทธา และหวังในผลบุญที่อัลลอฮฺได้เตรียมไว้ให้ และให้ทุ่มเทในการประกอบความดีเหมือนที่ท่านศาสนฑูตได้ปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่างไว้
มีรายงานจากท่านหญิง ฮาอิชะห์
“ ท่านนะบี นั้นทุ่มเทความพยายาม ไม่เหมือนกับคืนอื่นๆ ( หมายถึงสิบคืนท้ายๆของเดือนรอมาฏอน )”
(บันทึกโดยมุสลิม)
และอีกประการหนึ่งที่จะต้องทำให้มากก็คือการขอดุอาร์(พร)ต่ออัลลอฮ์ ให้มากๆโดยเฉพาะดุอาร์ที่รายงานโดยท่านหญิงฮาอิชะห์
اللهم إنك عفو تحب العفو فا عف عني
“ โอ้อัลลอฮ์ แท้จริงท่านเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ท่านรักการอภัยโทษ ขอพระองค์ทรงอภัยโทษ ให้แก่ฉัน”
7. เครื่องหมายของคืนลัยละตุลก็อดรฺ
ผู้ที่ได้รับความดีนี้ส่วนหนึ่งในคืนอัลก็อดรฺจะมีความรู้สึกสบายใจ มีความสงบของจิตใจ มีความสุขในการประกอบความดีโดยที่ไม่มีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเหมือนในค่ำคืนก่อนหน้านี้
หมายเหตุเนื้อส่วนหนึ่งปรับแต่งจาก แปลเรียบเรียง อิสมาอีล กอเซ็มใน http://www.cicot.or.th/2011/main/content.php?page=&category=24&id=1744