ข้อคิดจาก ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ หลังสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
โดย อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้
ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา
[email protected], http://www.oknation.net/blog/shukur
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และผู้เจริญรอยตามท่าน
ผมได่รับข้อคิดจากทัศนะของ ดร.วิสุทธิ์ บิลลาเต๊ะ เกี่ยวกับเหตุการร์ภายหลังสามจังหวัดชายเเดนใต้ที่เสียงส่วนใหญ่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งท่านได้ให้ทัศนะดังนี้
คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจไม่เหมือนคนในภาคใต้ตอนบนที่มีความภักดีต่อพรรคการเมืองบางพรรคอยู่เหนือเหตุผลใดๆ แต่ในฐานะมุสลิมที่ต้องยึดอิสลามเป็นวิถีชีวิต และในฐานะชนกลุ่มน้อยในประเทศซึ่งคนส่วนใหญ่มิใช่มุสลิม ย่อมต้องมองถึงสิทธิและเสรีภาพที่จะดำรงอัตลักษณ์ความเป็นมุสลิมไว้ให้ได้ มากกว่าจะมองว่าฝ่ายใดชูประเด็นอะไร
ภายใต้สภาวการณ์ชนกลุ่มน้อยที่ต้องการดำรงรักษาอัตลักษณ์ของตัวเอง ย่อมต้องอาศัยปัจจัยสำคัญคือสิทธิและเสรีภาพในการคัดเลือกผู้แทนและผู้ปกครองที่เข้าใจและพร้อมตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าว ซึ่งอาจทำได้ไม่ง่ายนัก หากประเทศตกอยู่ใต้เงื้อมเงาเผด็จการอำนาจและผู้ปกครองไม่ได้มาจากประชาชนโดยตรง
ผู้นำเผด็จการบางคนอาจมีความเข้าใจและเห็นใจ กระทั่งเปิดโอกาสให้มุสลิมปฏิบัติตนตามหลักศาสนาได้อย่างกว้างขวาง แต่ภายใต้ระบบรวมศูนย์อำนาจย่อมไม่มีหลักประกันว่าจะมีผู้นำเช่นนั้นตลอดไป บทเรียนของเผด็จการอำนาจในอดีตทิ้งบาดแผลร้าวลึกที่ยังไม่อาจลบเลือนได้ อย่าว่าแต่ในประเทศที่มุสลิมเป็นคนกลุ่มน้อยเช่นในประเทศไทยของเรานี้เลย
แม้แต่ในประเทศมุสลิมกันเอง การปกครองแบบรวบอำนาจก็ได้สร้างความเจ็บปวดร้าวราน ความตกต่ำด้านปัญญา และความเสียหายที่ประเมินค่ามิได้ให้เห็นกันอยู่
จึงไม่แปลกที่มุสลิมในสามจังหวัดจะแสวงหาบรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตยที่ให้เสรีภาพทางศาสนามากกว่า
ประเด็นทางศาสนาและการศึกษาในรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีส่วนในการตัดสินใจของประชาชนแน่นอน แต่ก็ไม่ควรมองข้ามประเด็นการโหยหาเสรีภาพในการเลือกผู้นำที่พร้อมจะเข้าใจพวกเขาด้วย
จนแม้แต่นักการเมืองในพื้นที่เอง หากไม่มีความผูกพันและยึดโยงกับประชาชน ก็ย่อมไม่อาจรักษาอำนาจอิทธิพลเอาไว้ได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ที่ยังเป็นที่เคารพนับถือ ก็เพราะพวกเขายังเป็นปากเสียงให้กับประชาชนได้อยู่นั่นเอง