เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา นายกฯอภิสิทธิ์ ได้ร่วมหารือกับคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตาม เร่งรัดและประเมินผลการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของวุฒิสภา ณ วุฒิสภา ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าร่วมฟังในฐานะอนุกรรมาธิการจัดทำรายงานของคณะกรรมาธิการฯตามที่ทางศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ได้เคยเสนอเนื้อหาบางส่วนแล้วทางเวบไซต์นี้
หลังจากที่นายกฯได้รับฟังข้อเสนอจากคณะกรรมาธิการฯในประเด็นที่ขอให้รัฐบาลส่งสัญญาณชัดเจนว่าควรต้องมีการพูดคุยสันติภาพ (Peace Talk) กับผู้เห็นต่างจากรัฐกลุ่มต่างๆ นายกฯได้ตอบว่าไม่เคยปฏิเสธการพูดคุยกับกลุ่มขบวนการ หากทางกลุ่มมีข้อเรียกร้องชัดเจนที่อยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและข้อเรียกร้องดังกล่าวนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่จริงๆ รวมทั้งไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ทั้งหมดนี้สามารถพูดคุยกันได้ แต่ต้องคำถามให้ได้ด้วยว่าจะมีหลักประกันใดที่จะดูแลคนไทยพุทธในพื้นที่
นอกจากนี้ นายกฯยังได้แสดงความเป็นห่วงว่าปัจจุบันกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนั้นมีหลายกลุ่มและยังไม่เป็นเอกภาพ การพูดคุยใดๆที่เกิดขึ้นจึงต้องระมัดระวังไม่ให้กลายเป็นเหยื่อทางการเมืองของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่อาจจะต้องการสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีจากนายกฯในฐานะผู้นำรัฐบาลว่าการพูดคุยสันติภาพซึ่งเป็นการใช้การเมืองนำการทหารอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุดแนวทางหนึ่งไม่ได้ถูกปิดตายและยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาอยู่
ความขัดแย้งไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน ไม่เคยมีคำว่าสายเกินไปที่จะพูดคุยเจรจากัน คู่ขัดแย้งสามารถพูดคุยกันได้เสมอหากมีความจริงใจที่จะคุย ในแต่ละฝ่ายมักจะมีผู้ที่ต้องการใช้สันติวิธีจริงๆอยู่เสมอ ขอแค่หาคนๆนั้นให้เจอแล้วคุยกันให้จริงจังและต่อเนื่อง จากกลุ่มเล็กจะขยายเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วกระบวนการสันติวิธีดังกล่าวนี้จะพาทั้งสองฝ่ายไปสู่ทางออกในที่สุด