อย่าสิ้นหวังในการสำนึกผิดและขออภัยโทษ
บรรจง บินกาซัน
เมื่อลูกเก้งลูกกวางคลอดออกมาจากท้องของแม่มันได้ไม่นาน มันก็สามารถวิ่งได้อย่างคล่องแคล่ว และด้วยความคึกคะนอง บางครั้งมันจึงวิ่งห่างออกไปจากแม่ของมัน แต่เมื่อมันพบอันตราย มันจะรีบวิ่งกลับมาหาแม่ของมันทันทีเพื่อความปลอดภัย
สัญชาติญาณกลัวภัยซึ่งทำให้ลูกสัตว์รีบหันหลังกลับมาหาแม่ของมันเพื่อความปลอดภัยนี้ถูกนำมาใช้สื่อให้เห็นถึงการที่ใครคนหนึ่งคนใดสำนึกผิดแล้วรีบกลับตัวกลับใจหันมาขออภัยโทษต่อพระเจ้าโดยหวังการให้อภัยโทษจากพระองค์ ศัพท์วิชาการอิสลามในภาษาอาหรับเรียกอากัปกิริยานี้ว่า “เตาบ๊ะฮฺ”
ในโลกนี้ไม่มีมนุษย์คนใดที่มีความสมบูรณ์ ดังนั้น จึงไม่มีมนุษย์คนใดไม่ทำความผิด แม้แต่ผู้ศรัทธาในพระเจ้า สาเหตุสำคัญที่ทำให้มนุษย์ทำความผิดก็เนื่องจากเขาหันหลังให้พระเจ้าและใช้ชีวิตด้วยความคึกคะนองโดยไม่รู้ว่ามีอันตรายอยู่ข้างหน้า แต่เมื่อเขาได้รับเคราะห์กรรมจากความคึกคะนองของเขาแล้ว เขาจึงรู้สึกผิดและอยากได้รับการให้อภัย
ฆาตกรถูกจับตัวได้ยังต้องถูกนำตัวไปขอขมาลาโทษต่อญาติของเหยื่อและหวังการอภัยโทษจากศาล แต่มีความผิดหลายอย่างที่ไม่ได้ทำให้ใครเสียชีวิต แต่เป็นความผิดที่เกิดจากการละเมิดคำสั่งห้ามของพระเจ้าซึ่งผู้กระทำสำนึกว่าเป็นบาป เช่น การผิดประเวณี การกินเหล้าเมายา และเขารู้ดีว่าเขาต้องได้รับโทษในโลกหน้า เขาจึงรู้สึกทุกข์ใจและอยากจะได้รับการอภัยโทษเพื่อความสบายใจ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เขาจะขออภัยจากใคร
ด้วยเหตุนี้ ศาสนาจึงบอกมนุษย์ให้รู้ว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงเมตตาและผู้ทรงให้อภัย ถ้าการทำผิดเกิดขึ้นจากวิญญาณที่บงการร่างกายให้มนุษย์ทำชั่ว วิญญาณต้องหันไปสำนึกผิดและขออภัยโทษต่อพระเจ้าผู้ทรงมีอำนาจแต่ผู้เดียวในวันพิพากษา
ศาสนาคริสต์และอิสลามจึงมีคำสอนเรื่องการสำนึกผิด การขออภัยโทษของมนุษย์และการให้อภัยบาปของพระเจ้า
ในศาสนาอิสลาม มุสลิมถูกกำหนดให้อ่านคำขออภัยโทษต่อพระเจ้าในการละหมาดวันละห้าเวลา แม้เสร็จละหมาด มุสลิมยังถูกกำหนดให้ขอการอภัยโทษจากพระเจ้าอีก เพราะการได้รับอภัยโทษจากพระเจ้าคือเงื่อนไขแรกที่พระเจ้าจะรับมนุษย์เข้าสวรรค์ คำขอสำคัญที่มุสลิมขอให้แก่ศพผู้ตายก็คือ “โอ้อัลลอฮฺ โปรดอภัยโทษแก่เขาและโปรดเมตตาต่อเขาด้วยเถิด”
ในคำสอนของอิสลาม พระเจ้าไม่เพียงแต่เป็นผู้ทรงให้อภัยเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงรักการให้อภัยโทษ และเพื่อให้มนุษย์ได้แน่ใจว่าพระเจ้าทรงรักการให้อภัยและพร้อมที่จะให้อภัยแก่มนุษย์ผู้สำนึกผิด นบีมุฮัมมัดจึงเล่าเรื่องราวของฆาตกรโหดผู้หนึ่งเพื่อยืนยันว่าพระเจ้ายินดีที่จะรับการสำนึกผิดของมนุษย์และให้อภัยความผิดของเขา
นบีมุฮัมมัดเล่าว่าชายผู้หนึ่งเคยฆ่าคนมาแล้วถึง 99 คน เขาจึงไปถามนักบวชคนหนึ่งว่าเขามีโอกาสที่จะได้รับการให้อภัยบาปไหม? นักบวชคนนั้นกล่าวว่าไม่มีโอกาสเพราะเขาฆ่าคนมาเกินพอแล้ว ด้วยเหตุนี้ เขาจึงฆ่านักบวชนั้นอีกคนหนึ่ง แต่หัวใจของเขายังไม่เป็นสุข ดังนั้น เขาจึงไปหานักบวชอีกคนหนึ่งและถามคำถามเดิม เขาได้รับคำตอบว่าเขายังมีโอกาส แต่เขาต้องออกจากเมืองคนชั่วไปอยู่ในอีกเมืองหนึ่งที่มีแต่คนดีๆ
ชายคนนั้นจึงออกเดินทางไปยังเมืองที่เขาได้รับการแนะนำ แต่ระหว่างทาง เขาเกิดตายเสียก่อน มีคนหนึ่งผ่านมาเห็นเทวทูต(มลาอิก๊ะฮฺ)สององค์กำลังถกเถียงกันตรงศพของเขา องค์ที่มาจากนรกต้องการเอาเขาไปนรกโดยกล่าวว่าเขาไม่เคยทำความดีเลย แต่องค์ที่มาจากสวรรค์ต้องการเอาเขาไปสวรรค์โดยอ้างว่าเขาสำนึกผิดแล้วและเขาออกเดินทางมาเพื่อที่จะอยู่กับคนดี คนที่ผ่านมาจึงแนะนำเทวทูตทั้งสองว่าให้วัดระยะทางจากศพของชายผู้นั้นจากเมืองที่เขาจะไปและเมืองที่เขาจากมาว่าระยะทางใดใกล้กว่ากัน
เมื่อวัดระยะทางเสร็จ ปรากฏว่าศพของชายผู้นั้นอยู่ใกล้กับเมืองที่เขากำลังจะไป เทวทูตจึงรับวิญญาณของเขาไปสู่สวรรค์เพราะเขาสำนึกผิดและมีเจตนาว่าจะหาทางขออภัยบาป
สำหรับผู้ทำผิดแล้วอยากหันไปหาอัลลอฮฺเพื่อสำนึกผิดและขอการอภัยโทษ ไม่ยากเลย ทำดังนี้ครับ
1. สำนึกผิดและเสียใจในความผิดที่ตัวเองได้ทำไป
2. สัญญากับอัลลอฮฺว่าจะไม่ทำความผิดนั้นอีก
3. ขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺด้วยการกล่าวว่า “อัสตัฆฟิรุลลอฮัลอะซีม” กล่าวกี่ครั้งก็ได้
4. ถ้าเป็นความผิดถึงขั้นตกศาสนา ต้องกล่าวคำปฏิญาณใหม่
5. ถ้าแต่งงานและทำความผิดถึงขั้นตกศาสนานานเกินกว่าการมีประจำเดือนสามครั้ง นอกจากจะกล่าวคำปฏิญาณแล้ว ต้องทำพิธีแต่งงานใหม่
6. ปฏิบัติศาสนาที่เป็นข้อบังคับให้ครบ อย่าขาดการปฏิบัติที่เป็นสุนัต ทำความดีมากๆเพื่อเพิ่มน้ำหนักความดีในตาชั่ง
ยังไม่สายครับถ้ายังมีลมหายใจ แต่อย่ารอจนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต