ปักษ์หลังส.ค.เดือด-เสียผู้การฯ งานมวลชน–ปูพรมบึ้มแบงก์ยะลา 22 แห่ง

ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลาบางส่วน ช่วงครึ่งหลังของเดือนสิงหาคม ( 16 – 31 ส.ค.) ยังคงเกิดเหตุการณ์ขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน โดยพื้นที่ของการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่รุนแรงและต่อเนื่องของครึ่งเดือนหลังสิงหาคมนี้ อยู่ในพื้นที่ที่จังหวัดยะลาเสียส่วนใหญ่

เหตุการณ์แรกเป็นเหตุสร้างความสะเทือนใจให้กับกำลังพลในสังกัดหน่วยเฉพาะกิจที่1 ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดยะลา และทำให้ทางกองทัพบกต้องสูญเสียนายทหารชั้นสัญญาบัตร ผู้ที่มีความรู้ความสามารถระดับผู้บังคับบัญชาไป 1 คนคือ พ.อ. สุทธิศักดิ์  ประเสริฐศรี ผู้บังคับการกรมพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากรที่ 2 กองพลพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากร ในฐานะผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 รับผิดชอบพื้นที่ จ.ยะลา. จากการลอบวางระเบิดของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ

ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ทาง พ.อ.สุทธิศักดิ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 6 คน ได้เดินทางด้วยรถยนต์กระบะ 4 ประตู ไปเป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ที่วัดบันนังกระแจะ อำเภอธารโต จังหวัดยะลา และเข้าเยี่ยมพบปะกับชาวบ้านในพื้นที่ ต่อจากนั้นในช่วงบ่ายกำลังจะเดินทางไปเยี่ยมโต๊ะครูและนักเรียนโรงเรียนคัมภีร์วิทยา บ้านบันนังกูแว อ.บันนังสตา จังหวัดยะลา ซึ่งขณะที่รถยนต์แล่นเข้าไปในถนนซีเมนต์ในหมู่บ้าน จากปากทางเข้ามาประมาณ 2 กิโลเมตร ได้เกิดระเบิดขึ้น จนรถกระเด็นไปอยู่ข้างทาง คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่รถอีกครั้ง ก่อนที่จะล่าถอยหลบหนีไป

เป็นเหตุให้ทาง พ.อ.สุทธิศักดิ์  ประเสริฐศรี ผู้บังคับการกรมพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากรที่ 2 กองพลพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากร ในฐานะผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 รับผิดชอบพื้นที่ จ.ยะลา พร้อมกับพลทหารภานุวัตร  ตัญยะ เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถยนต์กระบะทั้งมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 5 ราย คือ ร.อ.วาริช  ทรงโพธิ์  ส.อ.อนุวัฒน์  อินทรแย้ม  ส.อ.วีระพงษ์  จันทรวงษ์  พลทหารสมศักดิ์  อันเจริญ และพลทหารนัทพงษ์  ขามกิ่ง

อีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งท้ายเดือนสิงหาคม เมื่อกลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุวางระเบิดธนาคาร 22 แห่งในพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดยะลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 25 คน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไล่เลี่ยกัน เริ่มเกิดเหตุในเวลา 11.30 น.

พื้นที่อำเภอเมืองยะลา เกิดเหตุลอบวางระเบิดขึ้น 10 จุด ประกอบด้วย 1.ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายะลา ถ.สิโรรส  2.ธนาคารกรุงเทพ สาขายะลา  3.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขายะลา  4.ธนาคากสิกรไทย สาขายะลา ถนนปราจีน  5.ธนาคารนครหลวงไทย สาขายะลา ถนนยะลา 6. ทหารคารทหารไทยสาขายะลา ถนนสิโรรส  7. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขายะลาถนนยะลา  8.ธนาคารออมสิน สาขายะลา  ถนนสิโรรส  9.ธนาคารกรุงไทย สาขายะลา และ 10.ธนาคารกรุงไทยอิสลาม ถนนพิพิธภักดี

มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดธนาคารในเขตอำเภอเมืองยะลาจำนวน 1 ราย คือ พ.ต.สุชาติ  ศรีทองอ่อน ข้าราชการบำนาญ และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวน 24 ราย

ส่วนในพื้นที่อำเภอเบตง เกิดระเบิดขึ้น 6 จุด ประกอบด้วย 1.ธนาคารกรุงไทย 2.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 3.ธนาคารนครหลวงไทย 4.ธนาคารออมสิน 5.ธนาคารกสิกรไทย และ 6.ธนาคารกรุงเทพ  ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ขณะที่อำเภอยะหา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 จุด คือที่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  อำเภอรามัน เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 จุดเช่นกัน ที่ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยในพื้นที่อำเภอยะหาและรามันไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

และสุดท้ายที่อำเภอบันนังสตา ได้เกิดระเบิดขึ้น 2 จุด ที่ธนาคารกรุงไทยและ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย

สำหรับภาพรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 16- 31 สิงหาคม มีทั้งหมด  65  ครั้ง เกิดเหตุการณ์มากที่สุดที่จังหวัดยะลา จำนวน 39 ครั้ง   รองลงมาเป็นจังหวัดปัตตานี  จำนวน  15  ครั้ง จังหวัดนราธิวาส จำนวน  10 ครั้ง  และจังหวัดสงขลาบางส่วนใน 4 อำเภอ จำนวน 1 ครั้ง  โดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหมด 27 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ  3 ราย ประชาชน 24 ราย  ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ มีทั้งหมด 52 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 10 ราย ประชาชน 42 ราย ด้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ทั้งหมด 4 ราย จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดธนาคารในพื้นที่จังหวัดยะลา

ตารางที่ 1 สรุปเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดและ 4 อ.ของจังหวัดสงขลา

ตารางที่ 2 เหยื่อความรุนแรง แยกตามกลุ่มและอาการ

ที่มา : รวบรวมโดยศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย