เพศสภาพและความเข้าใจ
ในเมื่อความขัดแย้งระหว่างสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ–เป็นข้อถกเถียงเป็นอย่างมากในปัจจุบัน จึงมองเห็นได้ว่า สุภาพสตรีเลือกที่จะมีภาวะผู้นำเหนือกว่าผู้ชาย แต่ทว่าเรากลับไปย้อนรอยดูประวัติศาสตร์ของแต่ละยุคสมัย ผู้ชายมักเป็นผู้นำในหลายๆเรื่อง
หากเรากลับย้อนมองในโลกปัจจุบัน ผู้คนเริ่มกลับมาสนใจตนเองมากขึ้นกว่าเดิม ตั้งคำถามกันมากขึ้น แต่กลับหลงลืมสัจธรรมในหลักคำสอนในศาสนาที่ตนได้พึงมี ผมเองก็ขอไม่พูดเรื่องศาสนาหรือไปพาดพิงใครทั้งนั้น เพราะผมเชื่อว่า แต่ละศาสนาย่อมมีหลักคำสอนเอาไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวของตนอยู่แล้ว
ผมอยากให้ทุกคนกลับมามองดูความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ว่า มันถูกหรือที่จะให้ความเป็นผู้หญิงกับเพศที่อ่อนโยนมาเป็นผู้นำหรือผู้ปกครองประเทศ หรืออะไรเหนืออื่นกว่านั้น ทว่าเมื่อความขัดแย้งกับความคิดที่เป็นธรรมชาติ ย่อมเกิดความล้มเหลวอย่างแน่นอน
ในมุมมองของผม ผมมองว่าเป็นสิ่งที่น่ารักด้วยซ้ำไป ที่ใครคนหนึ่งเป็นผู้นำที่เป็นชาย ขณะที่ผู้หญิงมีความรักและเอาใจใส่ มันย่อมทำให้ความเป็นชายที่แบกบั่นภาระมาหนักหนานั้น ได้กลับมาย้อนดูภรรยาผู้น่ารักและเอาใจใส่ จนลืมเรื่องราวที่แบกบั่นมาทั้งวัน
แต่เมื่อความเป็นหญิง ปรารถนาที่อยากมีสิทธิที่เท่าเทียมกัน มันก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องผิดสำหรับความมีเสรีภาพของเธอ แต่เมื่อความเท่าเทียมกันจักเกิดทำให้มีความเป็นตัวตนสูง มันอาจเกิดความคัดแย้งระหว่างทั้งสองเพศนี้ได้
ในความมีอีโก้ ที่แต่ละฝ่ายไม่ยอมถ่อมตนกันหรือลดความเป็นสถานะตนเองลง มันย่อมทำให้เพศทั้งสองอยู่ร่วมกันไม่ได้ แต่เมื่อความเท่าเทียมกันที่ผู้หญิงสามารถทำอะไรก็ได้อย่างที่ผู้ชายสามารถทำได้ มันก็ไม่มีหน้าที่ต้องแบ่งกันอีกแล้ว หากแต่การที่มีใครคนหนึ่งเป็นผู้นำที่ทรงแข็งแกร่ง แต่ผู้ที่รองรับอารมณ์ของเขานั้นช่างโมโหร้ายหรือไม่ยอมใคร แล้วเราจะหาความน่ารักหรือความอบอุ่นต่อเพียงกันได้เช่นใดกันล่ะ
12/02/2017
มูบารัด สาและ