ในวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ได้เสนอให้มีการเสนอแผนการขยายสนามบินบ่อทอง ในจังหวัดปัตตานี เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินพาณิชย์ได้ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางของสามจังหวัดชายแดนใต้ และเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค

"เสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ถ้าทำสนามบินตรงนี้ขึ้นมา จะเป็นจุดศูนย์กลางได้ มีเครื่องบินพาณิชย์ลง สามารถเดินทางไปจังหวัดยะลา และ จังหวัดนราธิวาส รวมถึงเปิดเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งเราได้ดูไว้แล้ว โดยจะขยายรันเวย์ออกไปประมาณ 300-400 เมตร" พลโทปิยวัฒน์ แก่ผู้สื่อข่าว

“ชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีปัญหา อีกทั้งเราก็ไปขอกับผู้นำศาสนาแล้ว ซึ่งก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน สามารถย้ายมัสยิดได้โดยมีการศึกษาเบื้องต้นและเตรียมพื้นที่ไว้แล้ว และชาวบ้านเองก็มีพื้นที่รองรับ ซึ่งมีการประเมินงบประมาณว่าทางรัฐต้องชดเชยให้ชาวบ้านและมัสยิดทั้งหมดประมาณ 330 ล้านบาท” พลโทปิยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม

พลโทปิยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อสนามบินบ่อทองสร้างเสร็จ ความเจริญก็จะเข้ามา และเชื่อว่าเมื่อความเจริญเข้ามา ความยุติธรรม ความจริงใจและความถูกต้อง ทุกอย่างจะนำมาซึ่งความสงบสุข

"เราจะเน้นงานด้านพัฒนา สร้างอาชีพ และดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน เมื่อประชาชนมีอาชีพมีงานทำก็จะอยู่ได้ด้วยความสงบสุข" พลโทปิยวัฒน์ กล่าว

ส่วนในเรื่องการทำประชาพิจารณ์จากชาวบ้านนั้น พลโทปิยวัฒน์ กล่าวว่า ก็ยังคงมีความจำเป็นต้องทำเมื่อถึงเวลา ซึ่งในตอนนี้ เป็นเพียงนโยบาย และได้นำเรียนผู้บังคับบัญชา หากตกลงก็จะเป็นขั้นตอนของรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีจะสั่งการลงมาข้างล่างอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ยังกำหนดไม่ได้ว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ ถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นว่าดี ก็อาจจะเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล และทำประชาพิจารณ์ต่อไป คาดว่าปี 2563 จะแล้วเสร็จ ส่วนท่าอากาศยานเบตง จังหวัดยะลา ตอนนี้ เริ่มดำเนินการสร้างแล้ว และคาดว่าจะเสร็จได้ในปี 2562

นายมุสตอฟา จะจากาเยาะ นักปราชญ์ จังหวัดปัตตานี กล่าวแสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้ว่า สถานการณ์ดีขึ้นกว่าก่อนมาก

"หากจะพูดว่าวันนี้บ้านเราดีขึ้นไหม ก็จะพบคำตอบว่า คนในพื้นที่ตอนนี้ออกมาใช้ชีวิตปกติคึกคักมาก บนท้องถนนรถเยอะขึ้นตลอด 24 ชั่งโมง ตามตลาดสดต่างๆ คนเข้าคิวซื้ออาหารและข้าวของเยอะมาก ชาวบ้านไปไหนมาไหนได้ทุกเวลา นี่คือตัวชี้วัดว่า เศรษฐกิจดี ทุกอย่างจะดีขึ้นไปด้วย" นายมุสตอฟา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

นายมุสตอฟา กล่าวอีกว่า รัฐไม่ต้องเน้นการปราบปราม หากต้องการให้พื้นที่มีความสงบ แต่ให้เน้นงานด้านเศรษฐกิจไม่สร้างเงื่อนไข ให้ความยุติธรรมกับทุกคน ทุกอย่างสามารถดำเนินไปได้

“ไม่ต้องถามเลยว่าที่นี่จะสงบเมื่อไหร่ เพราะถ้าทุกคนอยู่ดีกินดี มีการศึกษาที่ดี ปัญหาก็ไม่เกิด”