เยาวชนมุสลิมกับความหวังอุมมะฮ์
ยูซุฟ เบ็ญโกบ ราบัต / โมร็อกโก
หากวันนี้มีใครสักคนหนึ่งถามคุณว่า ในฐานะที่คุณเป็นเยาวชนมุสลิม คุณได้ทุ่มเทอย่างสุดกำลังในการรักษาอิสลามมากนน้อยแค่ไหน ? คำตอบอันหลากหลายคงพวยพุ่งออกมาจากหัวอกของใครหลายๆคน ที่คิดที่จะลงมือทำและอีกไม่น้อยที่ยังคงลุ่มหลงกับดุนยาอันโสมม
โอ้เยาวชนมุสลิมที่รัก บันทึกในครั้งนี้ฉันตั้งใจเขียนมันเพื่อเธอ เพราะฉันได้มองทะลุผ่านนัยต์ตาอันบริสุทธิ์ จนถึงหัวใจของเธอที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง ฉันคิดว่าเธอก็คิดไม่ต่างจากฉันที่ ต้องการให้ประชาชาติอิสลามในวันข้างหน้าเจริญรุ่งเรืองด้วยกับหลักศรัทธาและอารยธรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถบังเกิดขึ้นได้ก็ต้องมาจากพื้นฐานที่ดีและบริสุทธิ์ เราทั้งหลายดำเนินชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เปรียบดั่งนักเดินทางตัวเล็กๆที่ต้องใช้ความสามารถในการเอาชนะอุปสรรคต่างๆนานา บ้างก็ดำเนินต่อไปได้ บางก็หกล้ม แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากการกำหนดแห่งพระผู้เป็นเจ้าทั้งสิ้น
โอ้เยาวชนมุสลิมที่รัก บัดนี้ดุนยาของเราได้เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว เราลองสังเกตุบ้างไหม? รอบตัวของเราทุกวันนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศที่ก้าวหน้าอย่างสุดขีดได้ฉุดรั้งมนุษย์ออกจากการรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า ระบบการเมืองที่อยู่ในเงื้อมมือสกปรกบั่นทอนการพัฒนาของประเทศชาติ วัฒนธรรมตะวันตกที่เข้ามาในสังคมมุสลิมเป็นตัวแปรสำคัญในการสาปสูญของอารยธรรมอิสลาม ระบบแฟนคือตัวที่ทำลายภาพลักษณ์อิสลามและส่งผลให้ผู้ทำปราศจากยางอาย สิ่งเหล่านี้คือความเสื่อมเสียในดุนยาที่เกิดขึ้นโดยน้ำมือของมนุษย์ มันสมควรแล้วกระนั้นหรือ ที่ตาชั่งของเราต้องไปเปอะเปื้อนกับการกระทำอันอัปยศเช่นนี้ ?
โอ้ผู้ร่วมศรัทธาเดียวกัน ท่านศาสนทูตมูฮำมัด (ซ.ล) คือมนุษย์ที่ประเสริฐที่สุดและเป็นมุนษย์ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงรักที่สุด ท่านนั้นมีความเกรงกลัวต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างยิ่ง กี่มากครั้งที่ท่านนบีเคยทำการสักการะต่อพระผู้เป็นเจ้าด้วยกับน้ำตา เพราะเหตุใดที่ท่านถึงตกในสภาพเช่นนั้นทั้งที่ท่านคือผู้ที่บริสุทธิ์และเป็นที่รักของพระองค์ ? อยากให้เราลองย้อนกลับมาดูสภาพของเราในวันนี้ เรามีความพยายามในการปฏิบัติศาสนกิจต่ออัลลอฮ์มากน้อยแค่ไหน ความเกรงกลัวที่มีต่อพระองค์ ความละอายในการทำบาป ภาคผลของเราเพียงพอต่อการกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้าในวันแห่งการพิพากษาแล้วหรือยัง ?
มีหลักการง่ายๆอยู่บางประการที่ฉันอยากฝากให้ผู้ร่วมศรัทธาเดียวกับฉันได้ลองคิดและปรับใช้ เพราะผู้ที่เป็นที่รักยิ่งคือผู้ที่น้อมรับความผิดและพร้อมแก้ไขอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ประการแรกคือ ขอให้เราได้ยึดสายเชือกของอิสลามไว้ให้มั่นเพราะถ้าวันหนึ่งวันใดที่เราอาจล้มหรือพลาดพลั้งแต่มือข้างขวาของเราก็ยังคงสามารถที่จะเกี่ยวสายเชือกนั้นไว้อย่างทันการ ดังปรากฏโองการในซูเราะฮ์ อัล-อิงชิก็อก-6 ที่ว่า " โอ้มนุษย์เอ๋ย แท้จริงเจ้าต้องพากเพียรไปสู่พระเจ้าอย่างทรหดอดทนและเจ้าจะพบอัลลอฮ์ "
ประการที่สองคือ ขอให้เราหมั่นตรวจสอบหัวใจของเราอย่างสม่ำเสมอเพราะหัวใจของมนุษย์นั้นช่างล้ำลึกและแปรผัน ดังคำกล่าวของนักวิชาการอิสลามที่ว่า หัวใจของมนุษย์เปรียบเสมือนน้ำในกาน้ำที่ตั้งอยู่บนถ่านไฟที่เดือดพล่าน ซึ่งมันจะไม่หยุดเดือดหากไฟยังไม่ถูกดับลง
ประการสุดท้าย เมื่อเรามีการยึดสายเชือกอิสลามซึ่งหมายถึง กุรอ่าน ซุนนะและอิญมาอ์ อุลามาอ์ และมีการตรวจสอบตัวเองอย่างสม่ำเสมอแล้ว ก็มาถึงหน้าที่ของเยาวชนมุสลิมแล้วนั้นก็คือ การดะอ์วะห์ เผยแพร่อิสลามด้วยสติปัญญาและความนุ่มนวล เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้ดำรัสในซูเราะห์ อาลี อิมรอน-110 ทีว่า " พวกเจ้านั้นเป็นประชาชาติที่ดียิ่งที่ถูกอุบัติขึ้นสำหรับมนุษยชาติ ที่จะชักชวนกันในการทำดีและห้ามปรามกันในการทำชั่ว "ซึ่งโองการนี้มีความชัดเจนอย่างยิ่งสำหรับมุสลิมทุกคนที่มึหน้าที่ตักเตือนกัน
ฉันมีความเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงสัมคมหนึ่งๆ ต้องเริ่มมาจากจุดที่เล็กที่สุดก่อน ซึ่งฉันได้พยายามสื่อให้ทุกท่านเห็นว่าถ้าเรามีหัวใจดีมีความบริสุทธิ์ใจ เราก็สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการอนุมัติแห่งพระผู้เป็นเจ้า
ขอให้เยาชนมุสลิมทุกคนที่ได้ยินเสียงนี้ลุกขึ้นและมองไปข้างหน้า ละทิ้งสิ่งไร้สาระบนดุนยา ชักชวนกันในการทำความดีและปลุกผู้ที่ทำชั่วจากฝันร้ายอันสกปรก และพร้อมใจกันเข้าหาความสุขที่แท้จริงทั้งโลกนี้และโลกหน้าด้วยกัน อิงชาอัลลอฮ์
قل إن كنتم تحبون الله فاتبعوني يحببكم الله ويغفرلكم ذنوبكم والله غفور رحيم
ความว่า จงกล่าวเถิด(มูฮำมัด) ว่า หากพวกท่านรักอัลลอฮ์ ก็จงปฏิบัติตามฉัน(ปฏิบัติตามนบี) อัลลอฮ์ก็จะรักพวกท่าน และจะทรงอภัยให้แก่พวกท่านซึ่งบรรดาบาปทั้งหลายของพวกท่าน และพระองค์นั้นทรงเป็นผู้อภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ (อาลีอิมรอน-31)