ท่านนบีไม่อาฆาตมาดร้าย
ท่านนบีเคยเผยเเพร่ศาสนาในเมืองฏออีฟ พอไปถึงฏออีฟ ปรากฏว่า ชาวเมืองไม่ต้อนรับ หากไม่ต้อนรับเเละปฏิเสธดีๆ ก็เเล้วไป เเต่ชาวเมืองฏออีฟ พูดจาถากถาง เเละทำร้ายร่างกาย โดยการขว้างปา ทำให้ได้รับบาดเจ็บ เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ
ทันใดนั้นเอง มลาอีกะฮฺแห่งขุนเขาปรากฏกายขึ้น พร้อมกล่าวว่า เพียงเเค่สั่งมาเท่านั้น ข้าจะทำลายเมืองนี้เสียให้ราบ ท่านนบีกล่าวว่า เพียงเเค่อัลลอฮฺไม่โกรธฉัน ฉันก็สบายใจเเล้ว บางทีลูกหลานของเขา อาจจะเป็นคนมีอีหม่าน (ถ้าทำลายตอนนี้ ก็ได้เพียงเเค่ความสะใจเสียเท่านั้น เเต่ลูกหลานภายภาคหน้า ที่จะอีหม่านต่ออัลลอฮฺ ไม่มีสิทธิได้เกิด)
ท่านนบีกลับสู่มักกะฮฺด้วยสภาพที่มีคราบดินอยู่บนศีรษะเต็มไปหมด เเต่ภายหลัง ลูกหลานคนที่เคยโปรยฝุ่นดินลงบนศีรษะท่านนบีนี้เอง ได้ธำรงค์ศาสนาของอัลลอฮฺจนสง่างามบนพื้นปฐพี...
กลับมาดูบ้านเรา ลูกหลานเรา เราอย่าด่วนใช้ความรุนเเรงในครอบครัวเลย ลูกหลานปฏิบัติตัวไม่ถูกใจ ก็ใจร้อน ใช้ความรุนเเรงทั้งวาจาเเละร่างกายให้กัน มันสาแก่ใจช่วงเเรกเท่านั้น พอลูกเสียใจเเล้วก็มานั่งรำพันว่า ฉันควรจะนุ่มนวลกว่านี้ ลูกที่ดูร้ายๆในตอนเเรก กลับเป็นคนดีในภายหลังก็มีเยอะ เพราะเรารีบใช้ความรุนเเรงกับลูก ลูกก็เจ็บ เมื่อลูกเจ็บ ไม่นาน คนที่เจ็บตามมา คือ ใจของเราเองนั้นแหละ..
จากการสอนตัฟซีรนุรุ้ลเอียะฮฺซาน ซูเราะฮฺอันนิสาอฺ โดย บาบออิสมาแอล สปันญัง อัลฟาฏอนี