ทหารพรานเสียชีวิต 6 นาย ในเหตุซุ่มโจมตีที่อำเภอจะแนะ นราธิวาส
นราธิวาส
ในวันพฤหัสบดี (27 เมษายน 2560) นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรจะแนะ จังหวัดนราธิวาส รายงานว่า เกิดเหตุเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 6 นาย โดยคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดเฉพาะกิจ ทพ.1114 และยิงซ้ำ บนถนนสายริแง ในพื้นที่ตำบลผดุงมาตร อำเภอจะแนะ นราธิวาส
ร.ต.ท.สายลม รอดอุปโป รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรจะแนะ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดใส่รถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 11 กองร้อยที่ 1114 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางลงไปตรวจสอบพื้นที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะแนะ อีกนายหนึ่งที่ได้ลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ กล่าวว่า เหตุการโจมตีครั้งนี้ เกิดขึ้นที่ริมถนนบ้านริแม ม.3 ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ซึ่งนอกจากการใช้ระเบิดและอาวุธสงครามยิงเจ้าหน้าที่แล้ว คนร้ายยังได้จุดไฟเผาศพเจ้าหน้าที่อีกด้วย
“คนร้ายวางระเบิดพร้อมใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่ รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ซึ่งนั่งมา 6 คน ระหว่างกลับจากทำธุระ จากนั้นคนร้ายยังราดน้ำมัน จุดไฟเผา ก่อนหลบหนีคนร้ายได้เอาอาวุธของเจ้าหน้าที่ไปด้วย และได้โปรยตะปูเพื่อสกัดเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ โชคดีที่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือได้ทัน ไฟยังไม่ทันไหม้เยอะ ผมเชื่อว่าคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์” เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ท่านดังกล่าว กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์
สำหรับรายชื่อทหารที่เสียชีวิตทั้ง 6 นาย คือ 1. ส.อ.พรชัย สงเคราะห์ 2. อส.ทพ. วีรวิทย์ ธรรมนาม 3. อส.ทพ. มาโนช ไมตรีสัมพันธ์ 4. อส.ทพ. ธารา กอบเกตุ 5. อส.ทพ. ธนะพงษ์ ทวีประยูร และ 6. อส.ทพ. ยุพยงค์ มุงธิราช โดยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 นาย และอีก 2 นาย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ผู้สื่อข่าวเบนาร์นิวส์ในพื้นที่ ได้รายงานเพิ่มเติมโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า คนร้ายได้ยึดปืนเอ็ม.16 ไปด้วย รวมหกกระบอก
เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนวันคล้ายวันครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ จังหวัดปัตตานี ซึ่งมีสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนติดอาวุธ ถูกสังหารเสียชีวิตในตัวมัสยิดรวม 32 คน ส่วนเจ้าหน้าที่เสียชีวิตนอกมัสยิดสองนาย
ทางด้าน พลเอกสำเร็จ ศรีหร่าย อดีตรองแม่ทัพ กองทัพภาคที่ 4 กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า ปกติบีอาร์เอ็น มีนโยบายก่อเหตุใหญ่และมักจะทำพร้อมๆ กัน ในหลายพื้นที่ทุกๆ รอบสามเดือนอยู่แล้ว
“เหตุวันนี้ เป็นเป้าหมายอันดับที่หนึ่งของเขา คือ ทหาร เป็นเป้าหมายหลัก แสดงว่าในพื้นที่จะแนะ มีการจ้องมานานแล้ว... บีอาร์เอ็น มีนโยบายว่าสามเดือนจะก่อเหตุการณ์ใหญ่พร้อมกันหนึ่งครั้ง แต่ไม่ได้กำหนดว่าต้องตรงกับวันสำคัญเสมอไป” พลเอกสำเร็จ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์
ในห้วงเดือนเมษายนนี้ ได้เกิดเหตุวินาศกรรมป่วนเมืองครั้งใหญ่มาแล้วสองครั้ง คือ ในระหว่างวันที่ 6-7 เมษายน 2560 ได้เกิดเหตุระเบิดและเผาเสาส่งไฟฟ้า เผายางรถยนต์บนถนนสายต่างๆ ในนราธิวาส ปัตตานี และสงขลา จนเป็นเหตุระบบไฟฟ้าและโทรศัพท์ขัดข้องในบางพื้นที่
และเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 ได้เกิดเหตุผู้ก่อความไม่สงบได้ใช้อาวุธเข้าโจมที่ฐานปฎิบัติการของหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ 13 อำเภอ ของสี่จังหวัดชายแดนใต้เป็นเหตุให้มีสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบเสียชีวิต 2 ราย จากระเบิดของตนเองที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ส่วนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหนึ่งราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลของประเทศมาเลเซียได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อความไม่สงบมีแผนการที่จะก่อเหตุรุนแรงในอำเภอสะบ้าย้อยอีก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยพยายามจัดการ “พูดคุยเพื่อสันติสุข” โดยส่งตัวแทนรัฐบาลเข้าพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่ใช้ชื่อว่า “องค์กรมาราปาตานี” พยายามหารือ และกำหนดข้อตกลงการสร้างความสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการเจรจาซึ่งมีรัฐบาลมาเลเซียเป็นตัวกลางอำนวยความสะดวก และให้ใช้พื้นที่ในการเจรจา
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 คณะพูดคุยเพื่อสันติสุข และองค์กรมาราปาตานีได้บรรลุข้อตกลงในกรอบการดำเนินการเพื่อจัดตั้ง “พื้นที่ปลอดภัยนำร่อง” เพื่อเป็นการทดลองตั้ง หนึ่งอำเภอเป็นพื้นที่ปลอดภัย เบื้องต้นได้ให้ทั้งสองฝ่ายเสนอพื้นที่ที่น่าจะเป็นไปได้ในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 5 พื้นที่ เพื่อเสนอแล้วจะคัดเลือกให้เหลือเพียงหนึ่งพื้นที่
นอกจากนั้น ในวันนี้ ร.ต.อ.ปรีชา ราชโยธา พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายมาหะหมัด วาแม อายุ 40 ปี เสียชีวิต ในสวนยางพารา บ้านละโอ ม.2 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เหตุเกิดขณะผู้ตายกำลังขับขี่ รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักหลังเสร็จงานในสวนยางพาราของตนเอง ส่วนประเด็นและสาเหตุนั้น ร.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่าอยู่ระหว่างสอบสวนและสืบสวน