แอมเนสตี้ชี้ระเบิดปัตตานีเป็นเหตุสะเทือนขวัญ
วอนรัฐเร่งสอบสวนตามมาตรฐานสากล
แอมเนสตี้ระบุเหตุระเบิดในศูนย์การค้าที่ปัตตานีเป็นเหตุสะเทือนขวัญ เรียกร้องทางการไทยสืบสวนอย่างเร่งด่วนและได้มาตรฐานสากลเพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลตอบสนองต่อเหตุการณ์ระเบิด ณ ศูนย์การค้าในจังหวัดปัตตานี โดยแชมพา พาเทล ผู้อำนวยการแอมเนสตี้สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวว่า “การโจมตีที่ศูนย์การค้าในปัตตานีนับเป็นการกระทำที่จงใจสร้างความสะเทือนขวัญต่อพลเรือน และยังแสดงให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุไม่คำนึงถึงชีวิตของผู้คนแต่อย่างใด"
"ทางการไทยต้องสั่งการให้มีการสอบสวนอย่างอิสระและมีประสิทธิภาพทันที โดยรัฐมีหน้าที่ในการนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้มีการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และไม่บังคับใช้การลงโทษด้วยการประหารชีวิต ทุกขั้นตอนที่ทางการไทยดำเนินการเพื่อยุติและป้องกันการโจมตีกรณีดังกล่าวต้องเคารพพันธกรณีที่ไทยมีต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” แชมพา พาเทล กล่าวเสริม
เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นที่ศูนย์การค้าบิ๊กซีในเมืองปัตตานี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 9 พ.ค. 2560 โดยเป็นเหตุระเบิดสองลูกห่างกันไม่กี่นาที ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 50 คน ซึ่งองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยระบุว่ามีเด็กรวมอยู่ด้วยและได้ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว เช่นเดียวกับองค์กรภาคประชาสังคมอื่นๆ อีกหลายแห่ง
ที่มา https://www.amnesty.or.th/news/press/994