เตรียมตัวต้อนรับรอมฎอน
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน
ขอบคุณภาพจาก http://th.thaingo.org
ช่วงเวลานี้คือช่วงนับถอยหลังเข้ารอมฎอน ในยุคสมัยของท่านนบีมูฮำมัด (ซ.ล.) บรรดาซอฮาบะฮฺ (สหายหรือผู้ติดตาม) จำนวนไม่น้อยเตรียมตัวต้อนรับรอมฎอนกันเอิกเกริก หลายคนเตรียมตัวกันมาก่อนหกเดือนเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่ปฏิบัติกันทั่วไปคือการถือศีลอดสุนัตหรือแบบไม่บังคับหลายวันติดต่อกัน ดีที่สุดคือการถือศีลอดสามวันต่อเนื่องกันซึ่งท่านรอซูล (ซ.ล.) แนะนำให้ทำในสามวันของทุกเดือนในช่วงเวลาที่เรียกว่า “อัลอัยยามอัลบีฎ” (الأيام البيض) ที่แปลว่าวันขาวซึ่งได้แก่วันที่ 13, 14, 15 ของเดือน สำหรับวันขาวของเดือนชะอฺบานผ่านไปแล้ว วันนี้เป็นวันที่ 17 เดือนชะอฺบานอีกไม่ถึงสองสัปดาห์จะเข้ารอมฎอนแล้ว
สัปดาห์สุดท้ายก่อนรอมฎอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนรอมฎอนสามวัน ท่านนบีมูฮำมัด (ซ.ล.) ไม่แนะนำให้ถือศีลอดทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายสดชื่นที่สุดเมื่อรอมฎอนมาถึง ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันเสาร์ที่ 27 หรืออาจเป็นวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม อดทนรอประกาศจากสำนักจุฬาราชมนตรีกันหน่อย ดังนั้นยังเหลือวันดีๆที่จะให้ถือศีลอดอีกสามวันคือวันจันทร์และวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นวันสำหรับการถือศีลอดสุนัต ดังนั้นจึงควรเป็นวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคมหรือวันพรุ่งนี้ ต่อด้วยวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม และวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม หากจะถือวันอื่นพ่วงไปด้วยก็ไม่ว่ากัน
นอกเหนือจากการถือศีลอดแล้ว การอ่านกุรอาน การละหมาดสุนัต นับเป็นการเตรียมตัวต้อนรับรอมฎอนที่ดี ยังมีอีกวิธีหนึ่งซึ่งท่านนบีมูฮำมัด (ซ.ล.) แนะนำไว้คือการกินแต่น้อย ช่วงนี้จนกระทั่งถึงรอมฎอน ในเชิงโภชนาการแนะนำให้ลดอาหารมื้อเย็นลงโดยทำให้เป็นมื้อเล็กที่สุดของวัน และไม่กินมื้อเย็นหลังหนึ่งทุ่มหรือ 19 น.ไปแล้ว โดยหลังเวลานั้นกระทั่งก่อนนอนเลือกดื่มเฉพาะน้ำเปล่า ส่วนอาหารเช้าให้กินปกติ และอาหารกลางวันอย่าให้มื้อใหญ่นัก โดยสรุปคือลดอาหารลงหนึ่งในสามของที่เคยบริโภคในเดือนอื่น ท่านนบีบอกไว้ว่าอาหารหนึ่งคนเพียงพอสำหรับสองคน จึงควรนำมาปฏิบัติในช่วงนี้และกินน้อยอย่างนี้จนกระทั่งถึงเดือนรอมฎอน โดยระหว่างรอมฎอน ควรงดมื้อดึกและคงความกินแต่น้อยไว้ สุขภาพร่างกายและจิตใจจะดีขึ้นอย่างไม่คาดคิด
รักจะทำบุญทำทาน ไม่ต้องรอให้ถึงรอมฎอน การบริจาคทานซอดาเกาะฮฺเดือนนี้นับเป็นช่วงเวลาที่ดี ยิ่งช่วงใกล้รอมฎอนจะยิ่งมีผลต่อจิตใจ ทำทานกันเถอะ มีพี่น้องที่ยังคงเดือดร้อนอยู่มาก พี่น้องที่เป็นมุอัลลัฟไม่ต้องรอให้เขาเดือดร้อน ควรช่วยเหลือสนับสนุนพี่น้องเหล่านั้นตลอดเวลา ผู้ที่มิใช่มุสลิมหากเขายากจนหรือขัดสนไม่ควรทอดทิ้งเขา การเป็นมือบนต่อคนเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ควรกระทำในอิสลาม
