Skip to main content

 

ผบ.ทบ. ประณามผู้นำบีอาร์เอ็นคนใหม่ในเหตุรุนแรงกระทำต่อผู้บริสุทธิ์

 

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์ 
กรุงเทพ และปัตตานี
 
 
 
 
 
TH-suspect-1000
ผู้ต้องหาวางระเบิดเสาไฟฟ้าในสามจังหวัดครั้งใหญ่ คืนวันที่ 6 เมษายน และเหตุขว้างระเบิดป้อมจุดตรวจ เมื่อวันที่ 19 เมษายน ในเขตอำเภอยะรัง (คนปกปิดใบหน้าขวามือ) แถลงข่าวยอมรับว่าตนเองเป็นผู้สมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็น วันที่ 19 พฤษภาคม 2560
 เบนาร์นิวส์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อวันศุกร์ (19 พฤษภาคม 2560) ที่ผ่านมา พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวประณามกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ที่ใช้ความรุนแรงกระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำร้ายเด็กและเยาวชน หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้

“สถานการณ์ภาคใต้ก็น่าห่วง ผมก็ห่วงใยโดยเฉพาะสิ่งที่ผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้วิธีการวางระเบิดในแหล่งชุมชนเลย ผมถือว่าเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก มีคนในพื้นที่ทั้งไทยพุทธไทยมุสลิมไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย โดยเฉพาะบางคนเป็นเด็กเล็ก

“การใช้วิธีแบบนี้ เป็นวิธีการที่เลวร้าย เป็นวิธีการที่มนุษย์เขาไม่ทำกัน” พล.อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนที่ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.)

“ที่ผ่านมาผมจำได้ว่าผู้นำคนก่อน สะแปอิง บาซอ เขาเลิกเรื่องนี้ไปแล้ว แต่คนใหม่กลับมาทำเรื่องนี้ ผมถือว่ายอมรับไม่ได้ ถ้ามีอะไรเผชิญหน้ากัน ถ้ารุนแรงกับทหาร ก็เป็นคู่กรณีคู่ต่อสู้ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ในสมัยก่อนเราเคยคุยกัน แล้วเขาก็ยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้เขาจะไม่ทำ ที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้ทำ หรือทำน้อยสุด กลับมาทำในลักษณะนี้ ผมถือว่าเป็นเรื่องที่เลวสุดๆ ถ้ามีอะไร ถ้าคุยก็คุยกัน ถ้าเราไม่มีอะไรต้องคุย ต้องใช้กำลังกัน เจ้าหน้าที่เขาก็มีหน้าที่ปกป้องดำเนินการ” พล.อ.เฉลิมชัยระบุ

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า เมื่อประชาชนทราบว่า กลุ่มก่อความไม่สงบเปลี่ยนเป้าหมายการโจมตีแล้ว ดั้งนั้น ประชาชนจึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ และขอความร่วมมือให้ประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย

“ฝากพี่น้องประชาชน ถ้ากลุ่มเห็นต่างใช้วิธีการแบบนี้ ท่านเองก็ต้องระมัดระวังตัวเองให้ดี ถ้าจะให้ดีก็ช่วยกันประณาม ให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ฝ่ายรัฐเองก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบเปลี่ยนวิธีการ ที่เคยคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเองหนึ่งพร้อมเข้ามาพูดคุย หยุดการดำเนินการทางทหาร หรือดำเนินการเฉพาะคู่กรณีคือเจ้าหน้าที่รัฐกับเขา แต่ ณ เวลานี้ ต้องมีการเปลี่ยนแบบไป ในการใช้พลังมวลชนในพื้นที่เข้ามาดูแล รูปแบบดูแลชายแดน เขาเข้าออกก็ต้องตัดกำลังไป การข่าว การค้นหา สิ่งเหล่านี้ต้องปรับรูปแบบไปตามสถานการณ์” ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวเพิ่มเติม

การประณามกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบของ พล.อ.เฉลิมชัย ครั้งนี้ สืบเนื่องจากในวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งในพื้นที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 80 ราย โดยในจำนวนนั้น มีเด็กและสตรีรวมอยู่ด้วย และยานพาหนะเสียหาย 149 คัน โดยรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ คนร้ายได้ปล้นไปจากนายนุสน ขจรคำ ชาวลำปางซึ่งย้ายมาอาศัยอยู่ในจังหวัดยะลา โดยภายหลังพบว่า นายนุสนถูกคนร้ายสังหาร และนำศพไปทิ้งไว้ในเขต อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

 

ผู้ต้องหาเป็นสมาชิกบีอาร์เอ็น

 พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้นำผู้ต้องหา 2 ราย มาแถลงข่าวกรณีระเบิดเสาไฟฟ้าในสามจังหวัดครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา และเหตุขว้างระเบิดป้อมจุดตรวจ เมื่อวันที่ 19 เมษายน ในเขตอำเภอยะรัง จ.ปัตตานี

หนึ่งผู้ต้องหาซึ่งเจ้าหน้าที่ปกปิดใบหน้าด้วยไอ้โม่งและไม่ระบุชื่อรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนมีส่วนในการก่อเหตุจำนวน 6 จุด ในเหตุการณ์ 6 เมษายน และเป็นผู้สั่งการในการก่อเหตุ เพราะถูกบังคับให้ทำ แต่พอหลังเกิดเหตุระเบิดบิ๊กซีทำให้เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้งหมด

"รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บิ๊กซี ปัตตานี เพราะทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทำให้รู้ว่าไม่ใช่อุดมการณ์แล้ว เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ยอมรับว่าผมเป็นกลุ่มบีอาร์เอ็น และจะไม่ยอมกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่จะช่วยเหลือทางรัฐเพื่อบ้านเมือง เพราะสิ่งที่ทำเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง" ผู้ต้องหารายเดียวกันกล่าว

 

และในวันเดียวกัน พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้นำตัว นายสุฮัยมี สะมาแอ ผู้ต้องสงสัยประสานงานในการปล้นฆ่านายนุสน ขจรคำ เพื่อชิงรถไปใช้ก่อเหตุระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาปัตตานี มาแถลงข่าวและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้องเรียนตาดีกา ข้างมัสยิดบ้านตาก็อง ต. เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

“นายสุฮัยมี สะมาแอให้การสารภาพว่า ได้ร่วมประชุมวางแผนบริเวณห้องเรียนตาดีกา ข้างมัสยิดบ้านตาก็อง ต.เกาะเปาะ กับนาย อานุวา กาซอ, นายรุสลัน ใบมะ, นายเมาลานา สาเมาะ, นายอิสมาแอ มอซู, นายบุคคอลี หลำโซะ, นายอับดุลอาซิ จะปะกียา, นายมะนาเซ ไซดี และนายมูฮำมัด กาซอ แต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุ ซึ่งตนเป็นเพียงผู้ประสานงานเท่านั้น” พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าว

“สำหรับคนร้ายที่เหลือมั่นใจว่าได้หนีไปหลบซ่อนตัวตามหุบเขา แต่คงจับได้หมด เพราะคดีมีอายุความหลายปี คดีนี้มีคนได้รับผลกระทบมาก ย่อมเป็นจุดเปลี่ยนทำให้สังคมรับไม่ได้” พล.ท.ปิยวัฒน์ระบุ

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.benarnews.org/thai/news/TH-deepsouth-BRN-05192017162527.html