ไทย-มาเลเซีย ร่วมรักษาความปลอดภัยพื้นที่ชายแดน
สงขลา และ นราธิวาส
2017-06-05
ในวันจันทร์ (5 มิถุนายน 2560) นี้ พล.ต.สิทธิพร มุสิกะสิน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 พร้อมด้วยผู้บัญชาการกองกำลังในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ได้เดินทางไปประสานการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงกับทหารมาเลเซีย ในรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อร่วมการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดนสองประเทศ
โดย พล.ต.สิทธิพร มุสิกะสิน ผบ.พล.ร.5 และ พ.อ.วรเดช เดชรักษา ผบ.ฉก.ร.5 ได้พบปะกับ พ.ท.ฟอซี่ ผบ.พัน.ร.24 RAMD ที่บริเวณ ฐานปฏิบัติการซาฮาร่า บ้านดุเรียนบุรง ปาดังเบรัค รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 และทหารสังกัดกองพันที่ 24 กองพลทหารราบที่ 2 ของมาเลเซีย ได้ร่วมเดินทางไปบริเวณด่านประกอบ ในพื้นที่อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา และอำเภอปาดังเบรัค รัฐเกดะห์ มาเลเซีย เพื่อสาธิตร่วมการรักษาความปลอดภัยด้วย
"ขอให้การลาดตระเวนในครั้งต่อไป คำนึงถึงความปลอดภัยของทั้งสองฝ่าย เพื่อไม่ให้ใครเข้ามาใช้พื้นที่ที่เอื้อต่อการกระทำที่ผิดกฎหมาย" พล.ต.สิทธิพร มุสิกะสิน กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
ความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัยร่วมของไทย-มาเลเซียในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากพลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางตรวจราชการและตรวจเยี่ยมกำลังพลในสามจังหวัดชายแดนใต้ เมื่อสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งทาง ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ชุดหน่วยงานขนาดเล็กเข้ามาดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่เขตชายแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย เพื่อป้องกันการเข้าออกที่ผิดกฎหมาย และการนำอาวุธ-กระสุน เข้ามาในพื้นที่
รวมทั้งได้มีการจัดกำลังชุดเฉพาะกิจลาดตระเวนในพื้นที่สำคัญ ทั้งพื้นที่ป่าเขา บริเวณลำน้ำ เพื่อดำเนินการรักษาความปลอดภัย ซึ่งในวันนี้ มีกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมดูแลความปลอดภัยตามเขตแดน และพื้นที่ต่างๆ อย่างหนาแน่น
ซึ่ง พลเอกเฉลิมชัย ผบ.ทบ. เป็นห่วง และให้ความสำคัญต่อการลักลอบขนระเบิด และวัตถุประกอบระเบิด เข้ามาตามแนวชายแดน
ทั้งนี้ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. พร้อมคณะ เดินทางไปยังกองร้อยที่ 2 ป้องกันชายแดน บ้านศรีพงัน ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยมีพลโทปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.วิชาญ สุขสม ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ให้การต้อนรับ ผู้บัญชาการทหารบกได้ฟังบรรยายสุรป การปฎิบัติงานป้องกันชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อความมั่นคง จากพันเอกสุรเดช สุกนุ้ย หัวหน้าฝ่ายยุทธการ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส
แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้านพื้นที่จังหวัดนราธิวาส มีพื้นที่ครอบคลุม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอจะแนะ อำเภอสุคิริน อำเภอแว้ง อำเภอตากใบ และอำเภอสุไหงโกลก มีระยะทาง 151 กิโลเมตร มีช่องทางถูกต้องตามกฎหมายเพียง 3 ช่องทาง นอกนั้น เป็นช่องทางผ่อนปรนและช่องทางเถื่อน ซึ่งในบางพื้นที่ดังกล่าว พบปัญหาการลักลอบข้ามแดน การเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ปัญหาบุคคลสองสัญชาติ ยาเสพติด ของหนีภาษี และการขนย้ายวัตถุระเบิดเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
เลขานุการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลชี้แจงการปิดช่องทางผ่อนปรนในสุไหงโกลก
นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขานุการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้กล่าวถึงกรณีที่นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก ภาคธุรกิจ ได้มายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2560 เรื่องการเปิด-ปิดด่านชายแดนว่า ก่อนหน้านั้น ตนได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอ และฝ่ายหน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งเห็นผลตรงกันว่าต้องมีการดูแลด่านตรวจในเขตชายแดนอย่างเข้มงวด เนื่องจากงานการข่าวมีการแจ้งว่าในช่วงเดือนรอมฎอน อาจมีผู้ไม่หวังดีข้ามฝั่งมาก่อเหตุร้ายได้
นายภาณุ กล่าวว่า สำหรับช่องทางผ่านแดนที่มีการผ่อนปรนในสุไหงโกลกนั้น พี่น้องประชาชนสามารถเดินทางข้ามแดนไปมาใน 2 ช่องทาง คือ ท่ามูโน๊ะ และ ท่าประปา แต่สำหรับท่าเรืออีก 5 แห่ง ที่ยังไม่ได้รับการประกาศเป็นเขตผ่อนปรนอย่างเป็นทางการนั้น เมื่อมีการประกาศกวดขันในช่วงเวลาดังกล่าว ก็อาจจะส่งผลให้ต้องปิดลง แต่เป็นเพียงชั่วคราว
"จากการข่าวที่ได้รับทำให้ฝ่ายความมั่นคงต้องเข้มงวด หากต้องปิดท่าดังกล่าว ก็เป็นไปตามงานการข่าว จะปิดแค่ชั่วคราวเท่านั้น จะกี่วันคงต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เราไม่ได้มีการประกาศยกเลิกช่องทางเข้า-ออก ทั้ง 7 แห่ง ซึ่งหากจำเป็นก็ต้องมีการหารือ เพื่อฟังเสียงส่วนใหญ่" นายภาณุ กล่าวเพิ่มเติม
เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.benarnews.org/thai/news/TH-deepsouth-border-06052017152435.html