เหมือนอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ไม่มีผิดเลยครับว่า ท่านประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาโดนัล ทรัมป์ ท่านนี้ มีความต้องการที่จะแสดงความเป็นฮีโร่อยากเป็นผู้ไกล่เกลี่ยเหตุการณ์ความขัดแย้งวุ่นวายกรณีของกาตาร์กับซาอุดีอาระเบียและพรรคพวกที่ร่วมกันบอยคอตกาตาร์ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา วันก่อนเหมือนกับว่าทรัมป์มีความสุขเสียเหลือเกินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มาวันนี้เกิดนึกอยากจะเป็นตัวกลางในการเจรจาความขัดแย้งนี้ขึ้นมา เลยทำการทาบทามเชิญผู้นำกาตาร์ให้เสด็จไปเยือนกรุงวอชิงตัน ผลปรากฏว่าเจ้าผู้ครองกาตาร์บอกว่า “ฉันไม่ไปหรอก..ฉันจะอยู่ในกาตาร์นี่แหละ ไม่ต้องการออกนอกประเทศไปไหนทั้งสิ้นในช่วงเวลานี้....ยามนี้บ้านเมืองของฉันถูกปิดล้อมอยู่ตอนนี้..ฉันไม่ไป” ผมว่าอามีรหรือเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์คงจะมีเหตุผลอื่นอีกมากมายกว่านี้ก็เป็นไปได้ที่ไม่ได้ออกข่าวให้ชาวโลกอย่างเรารับรู้ หนึ่งในนั้นน่าจะนึกในใจว่า เอ่ะเจ้านายทรัมป์จะมาไม้ไหนอีกล่ะรอบนี้ คนแบบนี้เล่นละครสร้างภาพเก่งจริงไรจริง มักเข้าทำนองที่เป็นแบบว่า “ตบหัวแล้วลูบหลัง” อะไรประมาณนั้น
พญาอินทรีย์ โดนเลยครับงานนี้ กาตาร์ปฏิเสธการเชิญของสหรัฐ....สหรัฐหน้าแตก..!!
ณ เวลานี้ชาวกาตาร์เดือดร้อนวุ่นวายกันไปทั่วเพราะถูกตัดขาดจากสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องด้านการคมนาคมขนส่ง การเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางเรือ ทางการอากาศ การขาดแคลนอาหารที่ส่งมาจากซาอุดีอาระเบียและประเทศที่รวมตัวกันตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์ ไม่ใช่เฉพาะชาวกาตาร์เท่านั้นที่เดือดร้อน คนอื่นๆก็พลอยเดือดร้อนเหมือนกัน นั้นคือพลเรือน/ผู้คนของชาติต่างๆ ที่ร่วมกันบอยคอตนั้นแหละเดือดร้อนไปด้วย ตัวอย่างเช่น พวกเขาอยากเข้าไปทำธุระ อยากไปเที่ยวในกาตาร์ ช่วงนี้เข้าไปไม่ได้ รัฐบาลของพวกเขาไม่อนุญาตให้เข้าไป เป็นต้น ล่าสุดมีรายงานว่าสำนักข่าวที่ใหญ่ที่สุดพอๆกับสำนักข่าวบีบีซีหรือซีเอ็นเอ็นที่ชื่อว่าสำนักข่าวอัลจาซีร่าก็ถูกโจมตีทางระบบ ใช้การไม่ได้ ปิดเป็นการชั่วคราว ยังไม่รู้ชะตาเลยว่าสำนักข่าวนี้จะเปิดให้ได้ใช้งาน บริการถ่ายทอดข่าวให้คนทั่วโลกให้ติดตามชมกันได้อีกทีเมื่อไร
ถามว่า สิ่งเหล่านี้ ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ใครเป็นผู้บ่งการ...???
ได้ข่าวว่าพี่ใหญ่อย่างซาอุดีอาราเบียที่เป็นหัวขบวนหลักในการบอยคอตกาตาร์ครั้งนี้ ได้รวมหัวกันกับพรรคพวกชาติอาหรับมุสลิมที่ทำการตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์กำลังร่างข้อเรียกร้องหรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ คือเงื่อนไขต่างๆ เพื่อยื่นให้ทางรัฐบาลกาตาร์ให้ทำตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้เพื่อที่จะได้กลับมาเหมือนเดิม คือจะได้ทำการฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม งานนี้กาตาร์เองคงไม่ยอม คณะบริหารหรือรัฐบาลของกาตาร์เขามีจุดยืนของเขา ไม่อยากให้ใครเข้ามาแทรกแซงในการดำเนินนโยบายต่างประเทศและนโยบายต่างๆที่เป็นกิจการภายในของเขา นี่แหละคือกาตาร์ เรียกได้ว่าจิ้วแต่แจ๋วเลยทีเดียว
ตอนนี้เพื่อนบ้านอาหรับที่สามารถเป็นที่พึ่งได้จากบรรดาสมาชิกกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับหรือจีซีซี (GCC) คงเหลือแค่เพียงประเทศคูเวตประเทศเดียวแล้วที่ยังไม่ตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์ ซึ่ง ณ เวลานี้เราคงต้องลุ้นกันว่าคูเวตจะช่วยกาตาร์ได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพราะในอดีตเมื่อสามสี่ปีก่อน คูเวตเคยช่วยคลี่คลายเรื่องราวในทำนองนี้มาแล้วให้กับทางกาตาร์คืนดีกับซาอุดีอาระเบียสำเร็จมาแล้ว จากกรณีข้อพิพาททางการทูต ออกในลักษณะแนวเดียวกันกับครั้งนี้นี่แหละ รอบนั้นกว่าจะสำเร็จ กว่าจะคืนดีกันได้ก็ใช้เวลากันเกือบปีเหมือนกันคือประมาณแปดเดือนเลยทีเดียว แต่มีสัญญาณในทางที่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาแล้วครับ คือว่าเจ้าผู้ครองคูเวตได้เสด็จเยือนกาตาร์เป็นการส่วนพระองค์เพื่อพบปะหารือกับเจ้าผู้ปกครองรัฐกาตาร์แล้ว คงต้องรอลุ้นกันล่ะครับว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไป อย่างไร
แต่ที่แน่ๆ กาตาร์ไม่แคร์ทรัมป์ ไม่แคร์สหรัฐอเมริกา
เผลอๆ ไปๆ มาๆ สหรัฐอเมริกาเองนั้นแหละครับจะต้องแคร์กาตาร์.....
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ต่อไป โปรดติดตาม
