เมื่อสถานการณ์มาถึงขั้นนี้แล้ว กาตาร์เองจำเป็นต้องดิ้นรนและเอาตัวให้อยู่รอดให้ได้ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง การออกมาให้ความเห็นกับสื่อของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกาตาร์ว่า “กาตาร์ยืนยันในจุดยืนที่ว่าจะไม่ใช้กำลังทางทหารในการจัดการแก้ไขปัญหานี้” ซึ่งการออกมาให้ความเห็นผ่านทางสื่อในลักษณะเช่นนี้ย่อมส่งผลที่ดีมากกว่าการแสดงท่าทีหรือการแสดงความคิดเห็นแบบก้าวร้าว แข็งกร้าวอย่างแน่นอน เพราะอย่างน้อยประชาคมโลกที่เฝ้าจับตาติดตามสถานการณ์นี้อยู่คงต้องเห็นอกเห็นใจกาตาร์ไม่มากก็น้อย
กาตาร์ต้องการเพื่อน
ณ ตอนนี้กาตาร์เองต้องการเพื่อน ต้องการความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ หรือแม้กระทั้งองค์การระหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เองทางรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศกาตาร์จึงได้เดินทางไปหารือกับทางเยอรมนีและไปรัสเซียตามคำเชิญของทางการรัสเซียเพื่อปรึกษาหารือในกรณีนี้ แต่ประเทศที่เห็นอกเห็นใจกาตาร์ที่ออกสื่อมาให้รับรู้กันแล้วนั้นก็คือตุรกี ซึ่งทางตุรกีพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่กาตาร์ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกองกำลังทหาร ตุรกีพร้อมที่จะส่งเครื่องบินรบและเรือรบให้กับกาตาร์ จะให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมไม่ว่าจะเป็นด้านเครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร ยารักษาโรค เป็นต้น ซึ่งทางประธานาธิบดีของตุรกีเองก็ออกมายืนยันว่ากาตาร์บริสุทธิ์ ไม่เคยปรากฏว่ามีหลักฐานใดๆ เลยที่บ่งบอกว่ากาตาร์เป็นผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ตุรกีพร้อมที่จะสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือกับกาตาร์อย่างเต็มที่
เมื่อตุรกีพร้อม รัสเซียก็พร้อมเช่นกันที่จะช่วยเหลือและยืนเคียงข้างกาตาร์
เอาล่ะสิครับคราวนี้ มันเหมือนกับการมีสองค่ายยักษ์ใหญ่หรือสองขั้วมหาอำนาจสมัยสงครามเย็นเลยไม่มีผิด คือฝั่งหนึ่งมีซาอุดีอาระเบียและพรรคพวกที่ร่วมกันบอยคอตกาตาร์ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาให้การหนุนเชียร์อยู่ข้างหลัง แล้วอีกฝั่งหนึ่งคือประเทศที่ถูกบอยคอตคือกาตาร์ซึ่งมีรัสเซียกับตุรกีหนุนหลัง งานนี้ดูท่าคงจะไม่จบลงง่ายๆ เสียแล้ว ท่าทางน่าจะยาว อีกอย่างหนึ่งตอนนี้เราๆ ท่านๆ ยังคงต้องรอท่าทีจากองค์การระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) หรือแม้กระทั้งองค์การความร่วมมืออิสลามหรือโอไอซี (OIC) ว่าจะมีท่าทีอย่างไร เพราะเท่าที่ติดตามข่าวยังไม่เห็นองค์การระหว่างประเทศที่เอ่ยถึงนี้ออกมาให้ความคิดเห็นใดๆเลยในกรณีวิกฤติการณ์ครั้งนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่ารออะไรกันอยู่ แต่เท่าที่รู้คือกาตาร์เตรียมที่จะยื่นเรื่องต่อยูเอ็นและโอไอซีอย่างแน่นอน
ในความเห็นผม ผมว่าสหประชาชาติเองหรือทางโอไอซีเองก็อยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกันว่าจะหาทางออกให้กับวิกฤติการณ์ในครั้งนี้อย่างไร ณ ในเวลานี้ เลยไม่อยากที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆก่อนทั้งสิ้น อาจจะคงต้องรอเวลาสักพักหนึ่งก่อนมั่ง แล้วค่อยออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้ คงอย่างนั้นล่ะมั้ง?
ก็ไม่รู้สิน่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ที่รู้แน่ๆ คือคงต้องรอติดตามตอนต่อไป
