มีคำกล่าวเอาไว้ว่า “สรรพสิ่งทั้งหลายไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน แต่สิ่งที่แน่นอนนั้นคือการเปลี่ยนแปลง” ประโยคนี้เข้ากันได้ดีกับสังคมทางการเมืองระหว่างประเทศได้ทุกยุคสมัย
สำหรับในกรณีการคว่ำบาตรกาตาร์ของชาติอาหรับมุสลิมที่นำโดยซาอุดีอาระเบียก็เฉกเช่นเดียวกัน ณ เวลานี้กาตาร์น่าเห็นใจ น่าสงสารมาก เพราะโดนตัดขาดไม่เพียงแต่ทางการทูต ยังมีเรื่องอาหาร การคมมนาคม การขนส่งติดต่อจากเพื่อนบ้านที่ทำการบอยคอตที่มีเส้นทางลำเลียงจากทางพี่ใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบียนั้นถูกตัดขาดไปด้วย
มาถึงเวลานี้..หลายประเทศเริ่มเข้าให้ความช่วยเหลือ เช่น ตุรกีกับรัสเซีย พร้อมที่จะช่วยเหลือซึ่งได้ออกมาประกาศเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนกาตาร์เมื่อสองสามวันก่อนมาแล้ว
แต่ที่น่าสนใจและอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญในการนำสู่การเปลี่ยนแปลงนั้นก็คือการออกมาประกาศตัวสนับสนุนให้ความช่วยเหลือกาตาร์ของสองประเทศที่สำคัญ หนึ่งในนั้นอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน คือ ประเทศอิหร่าน และอีกหนึ่งประเทศอยู่ในเอเชียใต้ คือ ประเทศปากีสถาน
ข่าวออกมาอย่างนี้ ทำเอาฝากฝั่งทางพี่ใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบียกับพวกถึงกับซ๊อคและสตั้นไปห้าวิ...ถามว่าทำไม???
เพราะอิหร่านคือประเทศไม้เบื่อไม้เมา ประเทศคู่กัดและเป็นประเทศที่แข่งขันกันเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลางกับทางซาอุดีฯ ซึ่งตอนนี้เท่าที่ติดตามข่าวคือทางการอิหร่านได้ส่งเครื่องบินห้าลำเพื่อทำการลำเลียงส่งอาหารไปให้พลเมืองชาวกาตาร์
แล้วปากีสถานล่ะ? เพราะปากีสถาน คือประเทศมุสลิมประเทศเดียวที่มีศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ที่ดีที่สุดในโลก ประกาศออกมาว่า “อิฉ้านนี่จะอยู่ข้างกาตาร์ อิฉ้านพร้อมที่จะช่วยกาตาร์น่ะนาย อย่ากังวล ขอให้บอก”
เมื่อเป็นอย่างนี้ บริบทย่อมเปลี่ยนไป แถมเมื่อวันสองวันก่อนทางฝั่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยทางทิลเดอร์สัน ท่านรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของพญาอินทรีย์ ออกมาให้ข่าวว่า ขอเรียกร้องให้ชาติที่ทำการบอยคอต (ที่นำโดยซาอุดีฯ) ตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์นั้น เพลาๆ ลงหน่อยได้ไหม มีอะไรค่อยๆ พูดคุยกัน อย่าเยอะน่ะ...ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นช่วงเดียวกันกับที่ทางตุรกีและรัสเซียประกาศช่วยเหลือกาตาร์
มาวันนี้ เมื่ออิหร่านและปากีสถาน ประกาศตัวเลือกยืนข้างกาตาร์ พร้อมจะช่วยเหลือกาตาร์..
ชัดเจนเลยครับทีนี่.....การเปลี่ยนแปลงก็ย่อมจะเกิดขึ้น พอเรื่องนี้ออกมาสู่ชาวโลก ทางซาอุดีอาระเบียกับทางยูเออี (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ออกข่าวแถลงการณ์ให้ประชาคมโลกรับรู้กันเลยคือว่า ทั้งสองชาติอาหรับนี้ (คือซาอุดีฯ และยูเออี) มีนโยบายเตรียมผ่อนคลายความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับกาตาร์ โดยมีคำสั้งให้ใช้นโยบายผ่อนปรนแก่ครอบครัวชาวกาตาร์-ยูเออี และชาวกาตาร์-ซาอุดีฯ ตามหลักพื้นฐานด้านมนุษยธรรม
เอาล่ะสิครับ.....ผมบอกเลยว่างานนี้มีผลิกไปผลิกมา ลุ้นกันต่อไปเรื่อยๆ
ผมไม่อยากจะทายหรือทำนายไปก่อนเลยครับว่ามันจะจบอย่างไร
โปรดรอติดตามตอนต่อไป