ทำความรู้จัก 5 แกนนำ ที่มีอิทธิพลต่อหะมาส (2)
4. อิสมาอีล ฮะนียะฮฺ (อิสมาอีล อับดุสสลาม อะหฺมัด ฮะนียะฮฺ) อดีตนายกรัฐมนตรีปาเลสไตน์ แกนนำหะมาสที่ยังมีชีวิตอยู่
ท่านเกิดเมื่อปี 1963 ในค่ายผู้ลี้ภัยแถบชายฝั่งทะเลของกาซา ครอบครัวของท่านอพยพมาจากหมู่บ้านอัลเญาเราะฮฺ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมือง อัล-อัสเกาะลาน
พ่อของท่านมีนามว่า อับดุสสลาม อะหฺมัด อายาช ฮะนียะฮฺ เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในค่ายผู้ลี้ภัย ทำอาชีพเป็นชาวประมง มีภรรยาทั้งหมด 3 คน ท่านเป็นบุตรชายจากภรรยาคนที่สอง
ชีวิตวัยเยาว์ ท่านผูกพันกับพ่อมาก จึงติดตามไปละหมาดที่มัสญิดเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงละหมาดศุบหฺ ท่านจะเป็นผู้ส่องไฟให้กับพ่อในขณะที่เดินไปยังมัสญิด เพราะถนนหนทางยังไม่มีไฟฟ้าใช้
ท่านได้รับการศึกษาตำราหะดีษ ฟิกฮฺ และท่องจำอัลกุรอานจากเชค มูซา ฆ็อบนุน ซึ่งเป็นอิมามและเคาะฏีบประจำมัสญิดแห่งหนึ่งทางตอนใต้ จนกระทั่งได้เป็นอิมามนำละหมาดตั้งแต่อายุไม่ถึง 15 ปี ความรอบรู้ของท่านส่องประกายออกมาในครั้งที่เชคมูซา อนุญาตให้ท่านขึ้นคุฏบะฮฺวันศุกร์ในขณะที่อายุยังน้อย
ท่านเรียนจบชั้นอนุบาลและชั้นประถมจากโรงเรียนอัลวักกาละฮฺ ซึ่งเป็นโรงเรียนของผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ เรียนจบชั้นษะนาวีย์จาก มะอฺฮัด อัล อัซฮัรฺ ที่กาซา หลังจากนั้นก็เข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยในมหาลัยวิทยาลัยอิสลามียะฮฺ กาซา คณะครุศาสตร์ สาขาภาษาอาหรับ
ท่านชื่นชอบการอ่านและทบทวนบทเรียน ใช้เวลาว่างอ่านหนังสือเล่มใหม่ ๆ ทั้งวารสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเมือง การรายงานข่าว และยังใช้เวลาในการทบทวนอัลกุรอานที่ได้ท่องจำมา ท่านมีห้องสมุดประจำบ้าน มีหนังสือเป็นหลักพัน และยังมีความจำที่ดีรวดเร็วแม่นยำ
ท่านกระตือรือร้นในเรื่องอิสลามอย่างมาก และคลุกคลีอยู่กับกลุ่มของนักศึกษาที่มีความรักในอิสลามซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาของ Muslim Brotherhood ต่อมาได้กลายเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวในนาม "หะมาส"
ในปี 1983-1984 ท่านเข้าร่วมเป็นสมาชิกสภานักศึกษาของมหาวิทยาลัยอิสลามียะฮฺ และในปี 1985-1986 ท่านได้รับตำแหน่งเป็นประธานนักศึกษา เมื่อสำเร็จการศึกษาก็ได้ทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ด้วยพระประสงค์ของอัลลอฮฺ เชค อะหฺมัด ยาซีนได้เลือกมัสญิดทางทิศเหนือของค่ายผู้ลี้ภัยที่อยู่ทางชายฝั่งทะเล เป็นศูนย์กลางในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ปาเลสไตน์ และมัสญิดแห่งนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านของอิสมาอีล ฮะนียะฮฺ ทำให้ทั้งสองท่านได้พบกันเป็นครั้งแรก และท่านก็ได้รับฟังการเรียกร้องของเชคอะหฺมัด ยาซีน
ช่วงที่ท่านดำรงตำแหน่งประธานนักศึกษาอยู่นั้น กองกำลังอิสราเอลเข้ามาปิดล้อมมหาวิทยาลัยและห้ามไม่ให้จัดการเรียนการสอน ท่านกับเพื่อน ๆ นักศึกษาจึงลุกฮือแจกใบปลิวและเขียนบทกลอนต่อต้านรัฐบาลอิสราเอลที่อธรรมกับพวกเขา
ท่านถูกรัฐบาลอิสราเอลจับกุมหลังจากการลุกฮือครั้งแรกผ่านไป 15 วัน ท่านกับเพื่อน ๆ ถูกคุมขังเป็นเวลา 18 วัน
ในปี 1988 ท่านถูกคุมขังอีกครั้งนาน 6 เดือน และในปี 1989 ก็ถูกคุมขังนานที่สุดเป็นเวลาถึง 3 ปี
หลังจากได้รับการปลดปล่อย ท่านก็กลายเป็นหนึ่งในแกนนำของหะมาสในกาซา ถึงแม้จะมีอายุน้อยก็ตาม
ปี 1992 รัฐบาลอิสราเอลได้เนรเทศแกนนำหะมาส และกลุ่มญิฮาด อิสลามีย์ มากกว่า 400 คนออกนอกประเทศเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ซึ่งท่านก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากสิ้นสุดการเนรเทศ ท่านกับมิตรสหายก็กลับไปยังบ้านเกิดอีก และกลายเป็นผู้นำคนสำคัญของหะมาส
ปี 1997 หลังจากที่เชค อะหฺมัด ยาซีน ถูกปล่อยตัวและได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานหะมาส ในช่วงนี้เองท่านก็ได้เรียนรู้งานต่าง ๆ ทางการเมืองจากเชค อะหฺมัด ยาซีน (ซึ่งเป็นช่วงบั้นปลายชีวิตของเชค)
หลังจากที่เชค อะหฺมัด ยาซีน (เราะหิมะฮุลลอฮฺ) จากไปจากการถูกลอบสังหาร ท่านจึงกลายเป็นผู้นำผู้ขับเคลื่อนทางการเมืองคนสำคัญของหะมาส ท่านถูกนับว่าเป็นผู้นำหะมาสที่มีความเป็นกลาง และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีงามกับกลุ่มเคลื่อนไหวต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอัลฟัตฮฺ
บุคลิกของท่านสามารถสัมผัสได้จากใบหน้ายิ้มแย้ม ท่านเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน และรักในการเยี่ยมเยือนพี่น้อง และปรึกษาหารือกับครอบครัวในเรื่องการใช้ชีวิตและไม่ชอบแยกตัวตามลำพัง
ในที่สุดท่านก็ได้รับเลือกเป็นผู้นำปาเลสไตน์คนที่สาม เป็นผู้นำคนแรกของปาเลสไตน์ที่มาจากหะมาส ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงส่วนมากในวันที่ 25 มกราคม 2006
ท่านปกครองโดยใช้ระบบอิสลามและแบบอย่างของบรรดาเคาะลีฟะฮฺผู้ทรงธรรมทั้งหลาย ยานพาหนะส่วนตัวก็ไม่ได้ดีไปกว่ายานพาหนะของชาวเมือง อาหารการกินไม่ได้เลิศหรูไปกว่าอาหารที่ชาวเมือง บ้านที่อาศัยก็ไม่ได้ดีกว่าบ้านของชาวเมืองเลย ท่านเดินตรวจตราความทุกข์สุขของประชาชนของท่านด้วยตัวของท่านเอง ดังที่ท่าน อุมัรฺ อิบนุ อัล ค็อฏฏอบ ปฎิบัติ ท่านช่วยเหลือแบ่งเบาความทุกข์ยากของชาวเมืองด้วยตนเอง ป้อนอาหารให้กับลูกหลานของผู้ที่เสียชีวิตในหนทางของอัลลอฮฺด้วยตนเอง ออกเยี่ยมเยียนบรรดาผู้ทรงความรู้และผู้ชราภาพด้วยตนเอง
ท่านเป็นผู้ที่ประชาชนรัก และเป็นผู้นำที่นำประชาชนของตนเองละหมาด ท่านเป็นผู้นำที่กล่าวคุฏบะฮฺในละหมาดวันศุกร์ เป็นผู้นำที่นำผู้คนของตนในการละหมาดตะรอวีหฺ เป็นผู้นำที่นำประชาชนในการละหมาดตะฮัจญุด เป็นผู้นำที่บรรยายศาสนาแก่ผู้คนของตนในมัสญิด หัวใจของผู้คนถูกรวมอยู่ในหัวใจของท่าน ทหารของท่านล้วนแต่เป็นทหารที่ยึดมั่นในหลักการอิสลาม พวกเขายอมสละชีวิตเพื่อผู้เป็นเจ้าของพวกเขา
อิบนุ ศอลิหฺ & Ummah Islam เรียบเรียง
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
อิควานุลมุสลิมูน (MuslimBrotherhood) (1) : อิควานเป็นกลุ่มแนวคิด?
อิควานุลมุสลิมูน (MuslimBrotherhood) (2) : หะมาส
ทำความรู้จัก 5 แกนนำ ที่มีอิทธิพลต่อหะมาส
