หน่วยงานราชการ ภาคประชาสังคม และองค์กรพัฒนาเอกชน ได้แจกเสื้อผ้าหรือเงินของขวัญ รับเทศกาลฮารีรายอให้แก่เด็กกำพร้ากว่า 6,000 คน ที่สูญเสียบิดามารดาไปกับเหตุการณ์รุนแรงในสามจังหวัด ที่ดำเนินต่อเนื่องมากว่า 13 ปี ขณะที่ ประชาชนชาวไทยมุสลิมจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา และออกมาจับจ่ายเสื้อผ้าและอาหารเพื่อเตรียมเข้าสู่เทศกาลรายออีดิ้ลฟิตรี ที่จะเริ่มในวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน

ส่วนในวันพฤหัสบดี (22 มิถุนายน 2560) นี้ หน่วยงานหลายแห่งในพื้นที่จัดกิจกรรมมอบความสุขให้แก่เด็กกำพร้าโดยการมอบเสื้อผ้าชุดใหม่ ในราคาประมาณ 500 บาทให้กับเด็กๆ ได้ใส่ฉลองวันฮารีรายอที่เป็นเสมือนวันครอบครัวสำหรับพี่น้องชาวมุสลิม

ที่ศาลาว่าการอำเภอเมืองสุไหงปาดี นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้เป็นประธานในกิจกรรม โครงการ “เช็ดน้ำตาเด็กกำพร้าในวันอีดิ้ลฟิตรี” ให้กับเด็กๆ ประมาณสองร้อยคน โดยได้กล่าวว่า การให้ความรัก การดูแล และกำลังใจแก่เด็กกำพร้าเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ก็ยังต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เยาวชนที่จะเป็นอนาคตของชาติต่อไปในภายภาคหน้า

“เด็กกำพร้าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการดูแล และได้รับกำลังใจจากผู้ใหญ่ การให้ความรัก ความอบอุ่น และสานความฝันของเด็กๆ ให้มีความหวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ใหญ่ทั้งหลายต้องมีหน้าที่ในการช่วยดูแลเด็กๆ เหล่านี้ให้เติบโตเป็นอนาคตของชาติ และต้องรักษาไว้ซึ่งความดีงาม ความสมัครสมานสามัคคี เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชนต่อไป” นายศุภณัฐกล่าว

ด้านนายแวอาแซ แวมามุ ประธานชมรมอิหม่าม อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ชาวมุสลิมมักออกมารวมตัวกันที่มัสยิดในวันอีดิ๊ลฟิตรี หรือวันฮารีรายอ เพื่อประกาศว่าตนเป็นผู้ชนะจากการต่อสู้กับชัยฏอน แต่เด็กกำพร้าไม่มีโอกาสเช่นนี้ จึงต้องมีการสนับสนุนและให้กำลังใจแก่เด็กเหล่านี้

“ในวันอีดิ๊ลฟิตรี เป็นวันที่มุสลิมทุกคนได้ประกาศตนว่าเป็นผู้ที่มีชัยชนะจากการต่อสู้กับชัยฏอน ซึ่งมุสลิมทุกคนจะออกมารวมตัวกันที่มัสยิด ซึ่งเป็นสถานที่ละหมาดฮารีรายอ และสวมเครื่องแต่งกายที่สวยงาม แต่เด็กกำพร้าไม่มีโอกาสเหมือนเด็กทั่วไป ผู้ใหญ่จะต้องเป็นผู้ส่งเสริมและให้กำลังใจให้เขาเดินต่อไปได้” นายแวอาแซกล่าว

ด.ช.อารีฟีน สาและ เด็กกำพร้าจากจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ตนเองดีใจที่ได้รับเสื้อผ้าชุดใหม่จากผู้ใหญ่ใจดีและได้เงินมาฉลองรายอ ทั้งนี้ สัญญาว่าจะเป็นเด็กดีและตั้งใจเรียนเพื่อหาเงินช่วยเหลือตากับยาย

คนจับจ่ายใช้สอยมากกว่าปีที่แล้ว

นอกจากนั้นในวันฮารีรายอ ประชาชนชาวไทยมุสลิมจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ชายแดนภาคใต้ และออกมาจับจ่ายเสื้อผ้าและอาหารเพื่อเตรียมเข้าสู่เทศกาลรายออีดิ้ลฟิตรี ทำให้มีประชาชนรอใช้บริการที่สถานีรถไฟเป็นจำนวนมาก โดยหลายหน่วยงานในพื้นที่ร่วมจัดกิจกรรมมอบความสุขให้แก่เด็กกำพร้า

เทศกาลรายออีดิ้ลฟิตรีในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน คือวันจ่ายเพื่อเตรียมเฉลิมฉลองเทศกาลออกบวช ตามที่สำนักจุฬาราชมนตรีประกาศการดูดวงจันทร์ได้กำหนดวันที่ 1 เดือนเซาวาล หรือออกบวชเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลอีดิ้ลฟิตรีประจำปี ฮ.ศ.1438 ให้เป็นวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2560

นางปัทมา แหละหลี แม่ค้าขายนาฬิกาจากจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจจะไม่ดี และราคาสินค้าจะสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่ามีการจับจ่ายใช้สอยมากกว่าปีก่อนเล็กน้อย เนื่องมาจากราคายางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้

“ขายของช่วงเทศกาลรายอปีนี้ รู้สึกว่าชาวบ้านมีกำลังซื้อมากกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งที่ต่างบ่นกันว่าเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้รู้สึกกลัวมากว่าจะขายของไม่ได้ แต่พอเอาเข้าจริง ชาวบ้านซื้อมากกว่าปีที่แล้ว ปีนี้ แม้สินค้าทุกอย่างจะแพงกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็มีชาวบ้านซื้อเยอะกว่า เพราะราคายางดีกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มอาชีพอื่นต่างได้รับอานิสงค์มีรายได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา แม้ไม่มากแต่ก็ถือว่าดี” นางปัทมากล่าว

“พยายามซื้อของเท่าที่จำเป็น จำพวกเสื้อผ้าลูกๆและอาหารที่จะเตรียมต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมบ้าน คิดว่าคนอื่นๆก็ทำแบบนี้ แต่ปีนี้ถือว่าดีนิดหนึ่ง ยางราคาไม่ได้ต่ำมาก และฝนก็มีน้อยลง ปีที่ผ่านมา ฝนตกเกือบทั้งเดือนแถมราคายังถูกอีก รายอปีที่แล้วก็เลยแย่กว่า” ด้านนางเสาเดาะ บีแตบูแล ชาวยะลา ที่ออกมาจับจ่ายข้าวของกล่าวแก่เบนาร์นิวส์

เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.benarnews.org/thai/news/TH-deepsouth-orphans-06222017120919.html