นิทานฮาลาล ตอนที่ 1: คำถามจากผู้ใหญ่ทำไมฮาลาลไทยสู้มาเลเซียไม่ได้
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน
ผมทำงานวิจัยเรื่องฮาลาลมาตั้งแต่ พ.ศ.2535 ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการใช้แล็บหรือห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ได้ทุนวิจัยบ้างใช้ทุนตัวเองบ้าง ภายหลังจึงค่อยๆเติบโตมาเป็นศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อย่างที่เห็น
ความที่เดินทางออกไปบรรยายต่างประเทศบ่อยเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาได้แยะ เจอะเจอผู้คนจำนวนมาก จึงต้องตอบคำถามบ่อยครั้ง คำถามจากคนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฝ่ายการเมืองและข้าราชการที่มีมากที่สุดคือทำไมฮาลาลประเทศไทยสู้มาเลเซียไม่ได้ ผมตอบบ้างไม่ตอบบ้าง กระทั่งเจอคำถามจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจึงเริ่มคิดว่าหากไม่หาหนทางเปลี่ยนความเชื่อดังกล่าวประเทศไทยจะเสียหายไปมากกว่านี้
คำถามจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเกิดขึ้นใน พ.ศ.2556 ที่เมืองพอร์ตดิกสัน มาเลเซีย คุณนิวัตรธำรงค์ บุญทรงไพศาล อดีตรักษาการนายกรัฐมนตรึ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยไปประชุม IMT-GT หรือสามเหลี่ยมเศรษฐกิจอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ท่านถามคำถามนี้กับรองเลขาธิการสภาพัฒน์ บังเอิญเป็นช่วงที่ผมไปบรรยายที่กัวลาลัมเปอร์จึงได้รับแจ้งให้ไปพบท่านรัฐมนตรีที่เมืองพอร์ตดิกสันนั่งรถไปกว่าชั่วโมงเพื่อไปให้คำตอบ
พบกับท่านรัฐมนตรีแล้ว ฟังคำถามแล้วผมกลับผลัดไปให้ประธานฮาลาลมาเลเซียเป็นผู้ตอบโดยเชื่อว่าจะให้คำตอบที่ดีกว่า ผมช่วยนัดหมายการพบกันระหว่างประธานฮาลาลมาเลเซียกับท่านรัฐมนตรีที่สนามบิน KLIA ในวันรุ่งขึ้น คำตอบที่ท่านรัฐมนตรีได้รับฟังสำหรับคำถามของท่านคือ Thailand Halal is the best เป็นคำตอบอย่างจริงใจของประธานฮาลาลมาเลเซียต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เท่านั้นแหละที่ทำให้ผมถูกเรียกตัวไปพบท่านรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล
ท่านรัฐมนตรีถามผมในการพบปะกันอีกครั้งหนึ่งว่าในเมื่อฮาลาลไทยได้รับการยอมรับสูง มีชื่อเสียงดีทำไมจึงได้ยินแต่ข่าวที่ว่าเราสู้มาเลเซียไม่ได้ ผมตอบท่านว่าผมมีข้อมูลไม่มากพอแต่หากให้คิดเร็วๆ ผมว่ามีสองเหตุผลที่จะใช้อธิบาย หนึ่งคือเราทำประชาสัมพันธ์เรื่องฮาลาลไทยในต่างประเทศน้อยมาก สู้มาเลเซียไม่ได้ เรื่องนี้พวกเราช่วยรัฐบาลได้แต่รัฐบาลต้องสนับสนุน
สองคือคนไทยมีทัศนคติเชิงลบต่อคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการ เรามักให้ราคาคนไทยด้วยกันในระดับต่ำ ทัศนคติอย่างนี้ทำให้เราสร้างความเป็นชาตินิยมได้ยาก แข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ลำบาก ผมจึงไม่แปลกใจที่คนไทยด้วยกันมองว่าฮาลาลไทยสู้ฮาลาลมาเลเซียไม่ได้ซึ่งเรื่องนี้เป็นทัศนคติเชิงลบที่ฝังลึก รัฐบาลต้องหาทางรณรงค์สร้างค่านิยมใหม่ให้กับคนไทย อย่างไรก็ตามเรื่องหลังนี้ผมเคยถามเพื่อนชาวมาเลย์ว่าฮาลาลมาเลเซียดีกว่าฮาลาลไทยไหมคำตอบออกมาว่าพวกเขามีทัศนคติกลับกันกับเรา
ผมดีใจว่าหลังจากคุยกับผู้ใหญ่กระทั่งทำให้ท่านได้ประจักษ์แล้ว การสนับสนุนกิจการฮาลาลหลังจากนั้นเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพส่งอานิสงค์ต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่ยังเสียดายคงเป็นเรื่องที่หาทางแก้ค่านิยมของพวกเราคนไทยไม่ได้เท่านั้น ในวันนี้จึงยังเห็นพวกเราคนไทยบางกลุ่มแทนที่จะเชื่อมั่นคนไทยด้วยกันกลับแสดงท่าทีเห็นอกเห็นใจต่างชาติที่หลอกคนไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องเดิมๆ ลองแก้ไขกันตรงนี้ก่อนก็น่าจะดี
ขออนุญาตนำภาพจาก facts.co มาใช้หน่อย ภาพให้อารมณ์ชาตินิยมค่อนข้างดี