เกร็ดความรู้จากประวัติศาสตร์
"ราชอาณาจักรซาอุดีอารเบีย" เป็นประเทศที่ถือว่าสุราเป็นสิ่งผิดกฏหมาย เนื่องจากสุรานับเป็นสิ่งต้องห้ามในหลักการศาสนาอิสลาม
อย่างไรก็ดีกฏหมายการห้ามยุ่งเกี่ยวกับสุราในราชอาณาจักรนั้นได้ถูกบังคับใช้อย่างจริงจังภายหลังจากการสวรรคตของ "สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอาซิส" ในปี พ.ศ.๒๔๙๖
ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่ราชอาณาจักรซาอุดีอารเบียเปิดสัมปทานรัฐให้บริษัทน้ำมันจากสหรัฐอเมริกาเข้าสำรวจและผลิตน้ำมันในซาอุดีอารเบียอย่างกว้างขวาง
และบรรดาชาวอเมริกันที่เข้ามาทำงานก็ยังนิยมดื่มสุรากันอย่างเปิดเผยในแคมป์บริษัทของตน สร้างความไม่สบายใจให้กับบรรดาเจ้าถิ่นชาวอาหรับเนื่องจาก "สุรา" เป็นสิ่งต้องห้ามตามหลักการของศาสนาอิสลามที่ถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัดมากกว่าพันปีแล้ว
แต่ยังถือเป็นข้ออนุโลมได้บ้าง ด้วยเหตุผลว่าชาวอเมริกันชนมิใช่มุสลิมและมิได้มาตั้งรกรากอาศัยเป็นการถาวรในแผ่นดินซาอุดีอารเบียแห่งนี้
ความพยายามในการบังคับใช้กฏหมายห้ามสุราได้บรรลุผลสำเร็จอย่างเป็นทางการภายในปี พ.ศ.๒๔๙๖ ภายหลังจากการสวรรคตของ "สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอาซิส" ซึ่งรัฐบาลซาอุดีอารเบียภายใต้การนำของ "สมเด็จพระราชาธิบดีซาอูด" พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ และ "มกุฏราชกุมารเจ้าชายไฟซอล" ได้ทรงประกาศใช้
ส่งผลให้มีการสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับสุราอย่างเคร่งครัดต่อบรรดาอเมริกันชนหรือคนงานทั้งมุสลิมและมิใช่มุสลิมก่อนจะพัฒนาเป็นการห้ามโดยทั่วไปมาจนถึงปัจจุบัน.
#KSAseries
#PrinceAlessandro
10-07-2017
รูปที่่ 1 "3 Kings of Kingdom"
"สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอาซิส" ทรงประทับนั่ง
"สมเด็จพระราชาธิบดีซาอูด" ทรงยืนเบื้องขวาของรูป
"สมเด็จพระราชาธิบดีไฟซอล" ทรงยืนเบื้องซ้ายของรูป
สังเกต "ฉลองพระเนตร" (แว่นตา) อันเป็นอุปกรณ์สำเร็จจากตะวันตก เข้ามาในราชสำนักซาอุดีอารเบียอย่างกว้างขวาง จนบรรดาเจ้านายสวมใส่อย่างไม่เคอะเขิน.
รูปที่ 2 บรรยากาศการทำงานของบริษัท "Aramco" ยักษ์ใหญ่ทางพลังงานของโลก ซึ่งมีจุดเริ่มต้นในทะเลทรายซาอุดีอารเบีย ดำเนินกิจการจากสัมปทานรัฐซาอุดีอารเบียร่วมกับสหรัฐอเมริกามานับตั้งแต่วิทยาการการฉายรูปยังเป็นรูปขาวดำอยู่.
รูปที่ 3 ผมชอบรูปนี้
เครื่องบินของ "อนาคตราชอาณาจักร" ตระหง่านท่ามกลางอูฐและปศุสัตว์อันกำลังจะเป็น "อดีต" ของแผ่นดินแห่งนี้มาอยู่ในรูปเดียวกัน.