Skip to main content

 

ความดีมีพลัง

 

บรรจง บินกาซัน

 

 

ตามกฎวิทยาศาสตร์ สสารไม่สูญหายไปไหน มันเพียงแต่เปลี่ยนสภาพเป็นสิ่งอื่น เช่น เมื่อไม้ถูกเผาไฟ ไม้จะกลายเป็นขี้เถ้าและพลังความร้อน

กฎวิทยาศาสตร์เป็นเช่นใด กฎทางศาสนาก็เป็นเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้ ความดีที่มนุษย์ทำไว้จึงไม่สูญสลายเช่นกัน แต่มันอาจกลายเป็นพลังและการตอบแทนอันยิ่งใหญ่ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นหรือได้ยิน

มีเรื่องเล่าจากนบีมุฮัมมัดถึงเรื่องพลังแห่งความดีที่เป็นคุณประโยชน์ต่อผู้ทำว่า :-

ครั้งหนึ่ง มีชายสามคนออกเดินทางไปด้วยกัน ระหว่างเดินทางได้มีฝนตกหนักและทั้งสามคนต้องไปหลบอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง หลังจากที่คนทั้งสามได้เข้าไปในถ้ำ ปรากฏว่าหินก้อนใหญ่ได้ถล่มลงมาปิดปากถ้ำจนคนทั้งสามออกไปไม่ได้

ทั้งสามคนพยายามที่จะหาทางออก แต่ก็ไม่สำเร็จ ดังนั้น หนึ่งในผู้เดินทางสามคนจึงได้พูดกับเพื่อนร่วมทางอีกสองคนว่า “ลองนึกถึงความดีที่ท่านทำเพื่อพระเจ้าและวิงวอนขอความช่วยเหลือต่อพระองค์ดูซิ บางทีพระองค์อาจช่วยท่านให้พ้นจากอันตรายได้”

หนึ่งในนั้นจึงกล่าวว่า “โอ้อัลลอฮฺ ฉันมีพ่อแม่วัยชราและภรรยากับลูกเล็ก ฉันเป็นคนเลี้ยงสัตว์ เมื่อฉันกลับมาบ้านในตอนเย็น ฉันจะรีดนมแพะและนมวัวกลับมาด้วย หลังจากนั้น ฉันจะนำไปให้พ่อแม่กินก่อน วันหนึ่ง ฉันจำเป็นต้องออกจากบ้านไปไกลเพื่อหาฟางหญ้าและไม่สามารถกลับบ้านได้จนกระทั่งค่ำมืด แต่ฉันก็รีดนมแพะเช่นเคยและนำนมไปให้พ่อแม่ของฉัน แต่ท่านหลับแล้ว ฉันจึงยืนอยู่ตรงศีรษะท่านโดยไม่เอาไปให้ลูกๆของฉันกินก่อน แม้ลูกของฉันจะร้องอยู่แทบเท้า แต่ฉันก็ยังคงยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งเช้า โอ้อัลลอฮฺ ถ้าหากพระองค์เห็นถึงสิ่งที่ฉันทำเพื่อหวังความโปรดปรานของพระองค์แล้ว โปรดช่วยเราให้พ้นจากถ้ำนี้ด้วยเถิด”

พอกล่าวจบ ก้อนหินที่ปิดปากถ้ำอยู่ก็ขยับนิดหนึ่งจนเขาเห็นท้องฟ้า แต่ก็ยังไม่พอที่จะออกมาจากถ้ำได้

คนที่สองกล่าวว่า “โอ้อัลลอฮฺ ฉันมีญาติผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งฉันรักเธอเกินกว่าที่ผู้ชายคนใดจะรักผู้หญิง ฉันต้องการจะมีเพศสัมพันธ์กับเธอ แต่เธอปฏิเสธ และมันเป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะหาเงินหนึ่งร้อยดีนาร์เพื่อให้เธอเป็นของขวัญแต่งงาน เมื่อฉันคิดจะมีเพศสัมพันธ์กับเธอ เธอกล่าวว่า “บ่าวของอัลลอฮฺ จงเกรงกลัวพระองค์และจงอย่าทำลายความบริสุทธิ์นอกจากโดยวิธีการที่ถูกต้อง” ฉันจึงลุกออกมาและให้เงินตามที่เธอต้องการโดยมิได้แตะต้องเธอ โอ้อัลลอฮฺ ถ้าหากพระองค์ทรงรู้ว่าฉันทำสิ่งนี้ไปเพื่อพระองค์ ขอได้โปรดช่วยฉันให้พ้นจากความทุกข์นี้ด้วยเถิด”

เมื่อกล่าวคำวิงวอนจบ เขาก็เริ่มเห็นความหวังที่จะพ้นออกไปจากถ้ำบ้างแล้วเมื่อหินก้อนใหญ่ที่ปิดปากถ้ำได้ขยับเปิดทางให้อีกนิดหนึ่ง แต่ก็ยังไม่พอที่จะออกไป

ดังนั้น คนที่สามจึงกล่าวว่า “โอ้อัลลอฮฺ ฉันได้จ้างคนมาเก็บเกี่ยวข้าว หลังจากที่เขาเสร็จงานแล้ว ฉันได้ให้ค่าจ้างเขาเป็นข้าว แต่เขาไม่ยอมรับ ฉันจึงใช้ข้าวจำนวนดังกล่าวเป็นเมล็ดพันธุ์ไปเพาะปลูกและได้พืชผลมากมายจนฉันรวยพอที่จะมีฝูงสัตว์เป็นของตัวเอง ต่อมา เมื่อเขามาหาฉันและทวงถามค่าจ้างที่ฉันค้างชำระเขาอยู่ ฉันได้บอกเขาว่า ‘เอาฝูงวัวกับฝูงแกะนี้ไปก็แล้วกัน’ เขากล่าวว่า ‘จงเกรงกลัวอัลลอฮฺและอย่าล้อเล่นกับฉัน’ ฉันบอกเขาว่า ‘ฉันไม่ได้พูดเล่น เอาฝูงสัตว์ไปเลย’ ดังนั้น เขาจึงเอาฝูงสัตว์ไป โอ้อัลลอฮฺ หากพระองค์ทรงรู้ถึงสิ่งที่ฉันทำไปเพื่อเห็นแก่พระองค์ โปรดให้เราพ้นจากความลำบากนี้ด้วยเถิด”

เมื่อเขากล่าวจบ หินก้อนใหญ่ที่ปิดปากถ้ำอยู่ก็ขยับเปิดทางให้จนพวกเขาทั้งสามคนสามารถออกจากถ้ำไปได้

เรื่องราวดังกล่าวทำให้เราได้บทเรียนว่าความดีที่เราทำไว้ไม่สูญหายไปไหน บางครั้งมันกลายเป็นพลังที่สามารถช่วยเราให้รอดพ้นจากอันตรายได้โดยการอนุมัติของพระเจ้า แต่ความดีนั้นจะต้องเป็นความดีที่ทำไปเพื่อพระองค์ด้วยความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น

ปัญหาอยู่ที่ว่าเราได้ทำความดีอะไรและทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อพระองค์หรือไม่ ?

ความบริสุทธิ์ใจเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้พระเจ้ารับการงานที่ดีของเรา เจตนาอันบริสุทธิ์เพื่อพระเจ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการทำงาน นบีมุฮัมมัดกล่าวว่า “การงานทั้งหลายนั้นขึ้นอยู่กับเจตนา” ดังนั้น ถึงงานจะประสบความสำเร็จและออกมาดี แต่หากเบื้องหลังการงานนั้นมีเจตนาเป็นอย่างอื่นที่มิใช่เพื่อหวังความโปรดปรานจากพระเจ้า การงานนั้นก็จะไม่เป็นที่ยอมรับโดยพระองค์ ลงทุนลงแรงทำอะไรไปโดยมีเจตนาไม่บริสุทธิ์เพื่อพระเจ้า การงานนั้นก็สูญเปล่า ถือเป็นการขาดทุน

ดังนั้น ก่อนจะทำอะไรทุกครั้ง เราต้องตรวจสอบเจตนาของเราให้แน่ชัดเสียก่อนว่าเราต้องการได้หน้า ได้ชื่อเสียง ได้คำชมเชย ได้รับผลตอบแทนหรือผลประโยชน์อื่นๆ

การงานที่ดีและมีความบริสุทธิ์ใจเพื่อพระเจ้าตั้งแต่เริ่มต้นไม่เพียงแต่จะทำให้พระองค์รับการงานของเราเท่านั้น แต่ยังทำให้เราทำความดีได้ยั่งยืนด้วย เพราะพระเจ้าทรงนิรันดร์ แต่ถ้าเราทำเพื่อหวังชื่อเสียงหรือผลประโยชน์ สิ่งเหล่านี้ไม่มีความแน่นอนและไม่จีรังยั่งยืน หากไม่ได้รับชื่อเสียงและผลประโยชน์ตอบแทนดังหวัง เราก็ไม่คิดจะทำงานนั้นต่อไปอีกทั้งๆที่งานที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่ดี