จงตรวจสอบตัวเอง ...
-------------------
เชค ดร. ยูสุฟ อัล-เกาะเราะฎอวียฺ
เป็นความจำเป็นสำหรับแต่ละคนที่จะหยุดนิ่งชั่วขณะในช่วงท้ายของแต่ละวันเพื่อประเมินตัวของพวกเขาเองและเพื่อที่จะดำเนินไปสู่ความสำเร็จของพวกเขาคือว่า พวกเขาทำอะไรบ้างในแต่ละวัน?ทำไมพวกเขาถึงได้ทำมัน? พวกเขาได้ละเลยอะไรบ้าง?แล้วทำไมพวกเขาถึงได้ละเลยมัน?
มันจะเป็นการดีถ้าหากมีการตรวจสอบตัวเองก่อนที่จะล้มตัวลงนอน ช่วงเวลาของการตรวจสอบและการประเมินตัวเองนี้จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวไปข้างหน้า มันเป็นช่วงเวลาที่บุคคลหนึ่งได้นั่งลงเพื่อพิพากษาเหนือตัวเขาและตรวจเจตนารมณ์และแรงผลักดันต่างๆ มันเป็นช่วงเวลาที่ผู้ศรัทธาตรวจสอบการกระทำของพวกเขา และพิพากษาเพื่อที่จะตำหนิหรือชำระความผิด ด้วยวิธีการนี้เองบุคคลหนึ่งจะพัฒนาจากขั้นของจิตใจที่อธรรมต่อตัวเองไปสู่ขั้นหนึ่งของจิตใจที่ประณามตัวเอง ซึ่งตำหนิตัวเองเมื่อเขาถลำเข้าไปสู่ความชั่วหรือตกไปสู่การคิดในสิ่งที่ไม่ดี
มีหะดีษหนึ่งได้รายงานว่า “บุคคลที่ฉลาดจะแบ่งเวลาออกเป็น 4 ช่วงและหนึ่งในสี่ช่วงนั้นคือช่วงที่เขาต่อสู้ด้วยการตรวจสอบตนเอง”
ท่านอุมัร อิบนุ ค็อฏฏอบ เคาะลิฟะฮฺคนที่ 2 รดิยัลลอฮุ อันฮุ กล่าวว่า “ท่านจงตรวจสอบตัวเองก่อนที่ท่านจะถูกสอบสวนในวันแห่งการตัดสินและจงชั่งการกระทำของท่านก่อนที่มันจะถูกชั่ง ท่านเคยตีขาของท่านเองในคืนหนึ่งแล้วท่านก็พูดกับตัวเองว่า“บอกฉันซิว่าเจ้าได้ทำอะไรมาบ้างในวันนี้?”
ท่านมัยมูน อิบนุ มะฮฺรอน รดิยัลลอฮุ อันฮุ ซึ่งเป็นเศาะฮาบะฮฺที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งของท่านนบีเคยพูดว่า “บุคคลที่เคร่งครัดศาสนาจะตรวจสอบและประเมินตัวเขาเองอย่างละเอียดรอบคอบยิ่งกว่าผู้ปกครองที่ทรราชและหุ้นส่วนที่ตระหนี่ถี่เหนี่ยวเสียอีก”
ท่าน หะซัน กล่าวว่า “ผู้ศรัทธาจะตรวจสอบตัวเขาเองนั้นหมายความว่าเขาตำหนิตัวเองเพื่ออัลลอฮฺ การสอบสวนครั้งสุดท้าย(วันแห่งการตัดสิน)อาจผ่านพ้นไปอย่างเรียบง่ายสำหรับบางคนเนื่องจากว่าพวกเขาเคยชินอยู่กับการตรวจสอบตนเองในชีวิตนี้ ในอีกด้านหนึ่งมันอาจจะเข้มงวดต่อผู้ที่ใช้ชีวิตในโลกนี้แบบปล่อยปละละเลยและคิดว่าพวกเขาจะไม่ถูกเรียกไปสอบสวน”
ท่านหะซันได้อธิบายต่อไปถึงการตำหนิตัวเองว่าจะดำเนินไปสู่การปฏิบัติได้อย่างไรว่า “ความคิดล่อลวงให้ทำความชั่วอาจเกิดขึ้นกับผู้ศรัทธา เขากล่าวแก่ตัวเขาเองว่า ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ นี่คือความคิดที่น่าหลงใหลยิ่งนัก ฉันชอบที่จะทำมันแต่ไม่เอาดีกว่า ไม่มีวัน ไปไกลๆเลย! ฉันถูกห้ามไม่ให้สนองตอบต่อเจ้า นี่คือการตำหนิตัวเองก่อนการกระทำ
และผู้ศรัทธาอาจกระทำบางสิ่งด้วยความประมาทเขาจะหวนกลับไปหาตัวเขาเองและกล่าวว่า "เจ้าทำสิ่งนี้ด้วยเหตุผลอันใด” ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ ฉันไม่สามารถหาข้อแก้ตัวสำหรับเรื่องนี้ได้ ฉันจะไม่ทำมันอีกแล้ว อินชาอัลลอฮฺ นี่คือการตำหนิตัวเองหลังจากการกระทำ ...
ถ้าผู้ศรัทธาไม่สามารถที่จะรักษาช่วงเวลาสั้นๆนี้ ในการตรวจสอบจิตใจในแต่ละวันได้ ฉะนั้นเขาจะต้องพยายามที่จะทำให้ได้อย่างน้อยที่สุดสองหรือสามสัปดาห์ครั้งหรือครั้งหนึ่งต่อสัปดาห์ ด้วยวิธีการนี้ผู้คนสามารถจัดแผนการที่มีความสมดุลที่อธิบายถึงคุณค่าและทางจิตวิญญาณได้
ผู้ศรัทธาต้องใช้เวลามากกว่าเดิมในการปฏิบัติสิ่งนี้ในช่วงท้ายของแต่ละเดือนและต้องใช้เวลามากกว่าเดิมในช่วงท้ายของแต่ละปี ในขณะส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ นี่คือช่วงเวลาที่จะทบทวนอดีตที่ผ่านมาและวางแผนสำหรับอนาคต นี่คือความลงตัวทางด้านจิตวิญญาณของสมุดบัญชีที่อยู่ในช่วงท้ายของเค้าในปีนี้
ค่านิยมใหม่ๆอย่างหนึ่งที่น่าตำหนิที่ตะวันตกได้ริเริ่มขึ้นมาซึ่งน่าเศร้าที่มีมุสลิมบางคนได้เลียนแบบนั้นก็คือการเฉลิมฉลองงานวันเกิดที่ผู้คนได้รับการเชื้อเชิญไปสังสรรค์และได้รับการบริการด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่เอร็ดอร่อย พวกเขาจุดเทียนจำนวนหนึ่งแต่ละอันแสดงให้เห็นถึงอายุไขในช่วงชีวิตของเจ้าภาพ ของขวัญต่างๆที่ถูกนำมามอบความสนุกสนานที่แสดงให้แก่กันเนื่องในโอกาสพิเศษนี้ แทนที่จะเลียนแบบอย่างมืดบอดหรือเลียนแบบสิ่งที่ไร้ประโยชน์ มันเป็นการดีกว่าสำหรับคนที่เฉลียวฉลาดที่จะฉกฉวยโอกาสพิเศษนี้ที่จะตรวจสอบและไตร่ตรองชีวิตของเขาหรือเธอ
ในช่วงท้ายของแต่ละปีนักธุรกิจที่มีความรอบคอบจะสละเวลาเพื่อที่ทบทวนการงานในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาเพื่อที่จะกำหนดสถานะทางการเงินในช่วงท้าย นักธุรกิจคนนี้ต้องการจะรู้ถึงผลกำไร การขาดทุน ทรัพย์สินและหนี้สินของเขา
ในทำนองเดียวกันผู้ศรัทธาก็ควรจะเรียกร้องตัวพวกเขาเองในการคำนวณการงานตลอดระยะหนึ่งปีของพวกเขาที่ได้สิ้นสุดลงและตรวจสอบในสิ่งที่อัลลอฮฺจะทรงถามพวกเขา(ในวันแห่งการสอบสวน)
หนึ่งปีมิใช่ช่วงเวลาสั้นๆ มันเป็นระยะเวลาเท่ากับสิบสองเดือน คือหนึ่งเดือนเฉลี่ยมี 30 วันแต่ละวันมี 24 ชั่วโมง แต่ละชั่วโมงมี 60 นาที และแต่ละ 60 นาทีมีวินาทีและทุกๆวินาทีจะถูกนับเป็นความโปรดปรานและความเมตตาและเป็นความรับผิดชอบที่อยู่ในมือของแต่ละคน ขอความเมตตาจากอัลลอฮฺจงประสบแด่ท่าน หะซัน อัล บัศรียฺเมื่อท่านกล่าวว่า “โอ้วงศ์วานของอาดัมเอ๋ย พวกท่านหาใช่สิ่งใดไม่ เป็นแค่เพียงมัดหนึ่งวัน เมื่อวันผ่านไป ส่วนหนึ่งของชีวิตท่านก็มลายไป”
อบู อะลี อัด ดักกอก เคยเอ่ยว่า “แต่ละวันที่ผ่านไป คือส่วนหนึ่งของชีวิตที่ถูกเฉือนไป ทิ้งความขมขื่นบนหัวใจ แล้วก็จากไป”