โดย มูบารัด สาและ
โรคซึมเศร้าและศาสนา
โรคซึมเศร้าในปัจจุบัน เราจะพบได้ว่ามีผู้คนมากมายนักประสบถึงโรคดังกล่าว ทว่าอีกมุมหนึ่งนั้น โรคนี้ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว เพียงว่ามันยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่ด้วยการพัฒนาทางการแพทย์ จึงได้มองเห็นถึงสภาวะดังกล่าว เป็นโรคทางจิตเวช ทำให้เห็นได้ว่า ณ ปัจจุบัน แพทย์ทั้งหลายนั้น ได้แยกกลุ่มผู้ป่วยทางจิตเวชไว้หลายกลุ่มเช่นกัน
ไม่ว่าโรคทางจิตเวชได้ถูกค้นพบ และได้ตั้งชื่อกลุ่มประเภท ซึ่งทั้งหมดนั้น ทางการแพทย์เองก็ยังไม่รู้สาเหตุอย่างแน่ชัดถึงที่มาของโรคดังกล่าว หรือไม่อาจสรุปได้แน่ชัดว่า โรคนี้จะมีพฤติกรรมเช่นไร แม้กระทั่งบางโรค ก็ไม่อาจรู้วิธีรักษาให้หายขาดไปโดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้ การที่ใครจะกล่าวอ้างว่า ศาสนาไม่เป็นที่รองรับหรือรักษาโรคทางจิตเวชนั้นไม่เป็นจริงอย่างแน่นอน เพราะเหตุใดนั้นหรือ ถ้าเราลองมองให้ชัดเจนมากขึ้น การที่ศาสนาได้มายังโลก ก็พึงให้ที่พึ่งของจิตใจ และทำไมศาสนาจึงเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ก็ด้วยเหตุว่า ศาสนานั้นมีหลักคำสอนให้ตระหนักถึงความชั่วและความดีงาม รู้ถึงเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ในแต่ละวัน
ไม่เพียงแค่นั้น สภาวะซึมเศร้านั้น ก็คือระบบคิดหรือขบวนการคบคิดของสมองนั้น ไม่มีภูมิต้านฐานมากพอ กับสภาวะหรือเหตุการที่ตนพึงได้ประสบเจอ ซึ่งศาสนานี่เอง ที่ตระหนักให้เล็งเห็น ถึงคุณค่าของจิตใจมนุษย์ ทำให้เรามองตนเองมีค่ามากขึ้นเท่าเดิม จากคำสอนของศาสนา ไม่ให้ผู้ศรัทธาทั้งหลายฆ่าตัวตายอย่างไร้ค่า จึงเป็นคำสอนที่ว่า ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้านั้น ก็จักมีความยั้งคิดก่อนที่ตนจะคิดสั้นฆ่าตัวตายได้
ฉะนั้นศาสนา ก็ถือว่าเป็นแก่นหลักขององค์ความรู้และความเข้าใจ มันมากกว่าความรู้ใดๆในโลกด้วยซ้ำ เพราะความรู้และการเข้าถึงสัจธรรมอันเที่ยงแท้นั้นมาจากพระเจ้าผู้สร้างมนุษย์เท่านั้น จึงกล่าวไม่ได้ โรคซึมเศร้าไม่สามารถรักษาด้วยศาสนา หากลองศึกษาศาสนาให้ถ่องแท้ เราก็พึงเห็นว่า โลกที่พระเจ้าสร้างมีห้ามิติด้วย เช่น มิติแรก คือในครรภ์มารดา สองในโลกปัจจุบัน สามโลกในหลุมฝังศพ สี่โลกการพิพากษา และสุดท้ายคือ โลกแห่งนิจนิรันดร์(สวรรค์หรือนรก)
หากเราเข้าใจถึงองค์ความรู้นี้ ก็จะเข้าใจถึงสภาวะการสร้างมวลมนุษย์ทั้งหลายของพระเจ้า ซึ่งแท้จริงแล้วการเกิดมาของมนุษย์นั้น ไม่ได้อยู่บนบรรทัดฐานของเสรีภาพของการใช้ชีวิต ทว่าทุกอย่างถูกสร้างอย่างมีกฏเกณฑ์ทั้งสิ้น จึงพูดไม่ได้ว่า พวกที่ไร้การนับถือพระเจ้า จะเล็งเห็นชีวิตโลกนี้อย่างเดียว โดยไม่ตั้งคำถามถึงความเป็นไปและเป็นมาของโลกแต่อย่างใด
สรุปแล้วโรคซึมเศร้านั้น ยาก็มีส่วนในการรักษาความสมดุลของสารเคมีในสมอง แต่หารู้ไม่ มันเป็นเพียงแค่การรักษาที่ปลายเหตุเท่านั้น หากแท้จริงแล้ว เราควรมองลึกถึงสภาวะสติปัญญาของเราด้วย ว่ามีภูมิต้านฐานมากแค่ไหน ต่อสภาวะสังคมอันเลวร้าย เพื่อว่าเราสามารถหาเหตุผลที่ดีกว่ามารองรับสภาวะจิตใจที่แย่และตกต่ำ