พลเอกอักษรายันพูดคุยเพื่อสันติสุขยังไม่ล้ม
ในวันพุธ (1 พฤศจิกายน 2560) นี้ พลเอกอักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องการพูดคุยเพื่อสันติสุขที่ดำเนินมากว่าสองปีแล้ว ระหว่างทางการไทยและกลุ่มผู้เห็นต่าง ว่า ยังดำเนินอยู่ต่อไป ไม่ได้ล้มเหลวตามที่มีสื่อมวลชนคาดการณ์แต่อย่างใด
ทางด้านสมาชิกอาร์เคเค หรือหน่วยปฏิบัติการจรยุทธ์ของขบวนการบีอาร์เอ็น ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้รายหนึ่ง กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า หน่วยของตนยังได้รับคำสั่งให้มีการปฏิบัติการตามปกติ ไม่ว่าจะมีการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยหรือไม่ก็ตาม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11-12 กันยายนนี้ คณะกรรมการทำงานทางเทคนิคร่วมของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข ได้เดินทางไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อพูดคุยกับผู้เห็นต่าง ที่รวมตัวเป็นองค์กรมาราปาตานี เพื่อระบุชื่ออำเภอหนึ่งแห่ง เพื่อจัดตั้งเป็นพื้นที่ปลอดภัย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากที่ทางมาราปาตานีได้เสนอรายชื่ออำเภอที่มีความเป็นไปได้มาให้ทางฝ่ายไทย 5 อำเภอ ในก่อนหน้านี้ แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถระบุชื่อ หรือรับรองการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย จนถึงขณะนี้
“ผมยืนยันว่ายังดำเนินการต่อ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทางฝั่งโน้นเขาก็ไม่มีปัญหาอะไร ที่สื่อออกไปหรือวิเคราะห์ในช่วงนี้เป็นข้อมูลเก่า ที่ว่าทางฝั่งโน้นนั้นไม่ยอม ตัวจริงตัวปลอม หรือเรียกร้องอย่างนั้นอย่างนี้ นี่คือปัญหา เขาไม่ได้พูดอะไรเลย และไม่มีเงื่อนไขใหม่” พลเอกอักษรา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์
"เขา (มาราปาตานี) ก็คุยอยู่ แล้วก็จะตกลงเรื่องพื้นที่ปลอดภัย และทีมเทคนิคเขาเพิ่งลงพื้นที่ไปและเพิ่งขึ้นมาเมื่ออาทิตย์นี้ เพื่อไปดูพื้นที่เพื่อเตรียมตามขั้นตอน เขาคุยกันตลอด" พลเอกอักษรา กล่าวเพิ่มเติม
นายอาบู ฮาฟิซ อัลฮากิม โฆษกมาราปาตานี จากมาเลเซีย ได้กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ ในความคิดเห็นล่าสุด พ้องกันกับ พลเอกอักษรา ว่า การเจรจาสันติภาพไม่ได้หยุดชะงัก
"แม้ว่าจะไม่มีการพูดคุยกับผู้ประสานงาน [ในมาเลเซีย] แต่การสื่อสารและการเจรจายังคงดำเนินต่อไป ขณะที่เรากำลังเตรียมการเรื่อง 'พื้นที่ความปลอดภัย' และประชาชนชาวไทย มีงานพระราชพิธีพระบรมศพของกษัตริย์" อาบู ฮาฟิซกล่าวถึง พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในกรุงเทพฯ
หลังจากการเจรจาของคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 11-12 กันยายนนี้ ยังคงมีความรุนแรงเกิดขึ้นอยู่บ้างประปราย โดยเหตุรุนแรงครั้งใหญ่เกิดขึ้นพื้นที่อำเภอสายบุรี ปัตตานี เมื่อวันที่ 22 กันยายน นี้ ซึ่งมีทหารพรานเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บอีก 5 นาย ในเหตุระเบิด และในวันที่ 9 ตุลาคม ขบวนรถจักรยานยนต์ลาดตระเวณของทหารพรานนาวิกโยธิน ถูกโจมตีด้วยระเบิด มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย
จากนั้นมา ได้มีสื่อมวลชนบางฉบับ รายงานคำพูดของสมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็นว่าจะไม่ยุติความรุนแรง จนกว่ารัฐบาลไทยจะเจรจากับกลุ่มของตนโดยตรง รวมทั้ง การเผยแพร่ข้อมูลที่ล้าสมัยทางออนไลน์ การที่มาราปาตานี ได้ยื่นเงื่อนไขอื่นๆ ให้ทางคณะเจรจายอมรับ ซึ่งพลเอกอักษรากล่าวว่า เป็นข้อมูลเก่า ที่สร้างความสับสนว่าเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นใหม่
“ข้อเรียกร้องต่างๆ การไม่ยอมวางอาวุธ มันเป็นของเก่า และไม่เข้าใจว่ามาลงทำไมตอนนี้... เขาไม่ได้เรียกร้องอะไรใหม่ ส่วนข้อเรียกร้องสามข้อเป็นเรื่องเก่าที่คุยกันตั้งแต่ปี 58 มันสร้างความสับสน ให้กับคนที่ไม่รู้ คิดว่าเพิ่งเป็นข่าวตอนนี้” พลเอกอักษรา กล่าว
สมาชิกอาร์เคเค: ปฏิบัติการเมื่อมีโอกาส
“ตอนนี้ เป้าหมายที่วางไว้ ฝ่ายเรายังเป็นฝ่ายนำเจ้าหน้าที่ ยังมีคำสั่งให้ป่วนต่อเนื่อง ยังไม่มีคำสั่งให้หยุดหรือพักช่วง ไม่ว่าจะมีการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยหรือไม่ก็ตาม มีแค่บางช่วงที่หาโอกาสยากก็เว้นช่วงไป ยังมีเป้าใหม่ก่อเหตุต่อไป” สมาชิกอาร์เคเคที่ระบุชื่อตนเองว่านายสุไลมาน และไม่เปิดเผยนามสกุล กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
"ส่วนตัวก็ยังมองว่า การต่อสู้ด้วยอาวุธยังเป็นวิธีที่ทำแล้วได้ผลที่สุด ตอนนี้ วิธีอื่นก็เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นแค่ฉากจัดแสดงเท่านั้น ยังไม่มีวิธีไหนที่จะทำให้รัฐเห็นชาวบ้านเป็นชาวบ้าน” นายสุไลมาน กล่าวเพิ่มเติม
ส่วนพลเอกอักษรา ได้กล่าวเพิ่มเติมแก่เบนาร์นิวส์ว่า อาจจะยังมีกลุ่มที่สร้างความรุนแรงอยู่ แต่การที่ประชาชนสนันสนุนกระบวนการสันติภาพ จะทำให้กลุ่มที่ใช้ความรุนแรงหายไป
"เราอย่าไปสร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่มที่สนับสนุนความรุนแรง ซึ่งยังมีอยู่ อาจจะเป็นกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มอิทธิพล กลุ่มผิดกฎหมายในพื้นที่ ซึ่งอาจไม่ใช่กลุ่มขบวนการก็ได้ แล้วเราไปให้ความชอบธรรม แล้วไปสร้างกลุ่มพวกนี้ขึ้นมา... หากเราสนับสนุนการพูดคุย ก็คือการปฏิเสธความรุนแรง” พลเอกอักษรา กล่าว
เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.benarnews.org/thai/news/TH-peace-talks-1101201715