เมื่อโลกอาหรับเร่งปรับจากเศรษฐกิจน้ำมันสู่เทคโนโลยี
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน
ข่าวมีว่าอีกไม่เกิน 8 ปีนับจากนี้ โลกคมนาคมจะเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันแก๊สโซลีนไปสู่ไฟฟ้า ข่าวที่ว่านี้ทำเอาหลายชาติอาหรับพากันปรับตนเองเป็นทิวแถว ดูไบเป็นรัฐหนึ่งในประเทศยูเออีปรับนโยบายสู่เศรษฐีเทคโนโลยีโดยดึงเอานักธุรกิจต่างชาติที่มีฐานะให้เข้ามาเปิดธุรกิจในดูไบมีการปรับปรุงกฎหมายให้เอื้อต่อการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ปรับแม้กระทั่งกฎหมายล้มละลายทางธุรกิจด้วยเห็นว่าคนล้มละลายเหล่านั้นมีประสบการณ์ด้านธุรกิจเต็มเปี่ยมขอเพียงให้โอกาสด้วยเงื่อนไขดีๆหาหนทางป้องกันความเสียหายที่คนเหล่านั้นอาจเข้ามาสร้างปัญหารอบใหม่ไว้ ดูไบเชื่อว่าหากกำหนดกติกาไว้ดีย่อมได้ประโยชน์จากประสบการณ์ของคนเหล่านั้นอย่างแน่นอน
สิ่งที่ดูไบเร่งทำในวันนี้คือสร้างแม่เหล็กดึงดูดคนหนุ่มสาวที่สนใจธุรกิจสตาร์ทอัพด้านไอทีหรือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้หันมาเริ่มธุรกิจในดูไบ สิ่งสำคัญคือดึงดูดหนุ่มสาวที่ประสบความสำเร็จกับสตาร์ทอัพทางเทคโนโลยีเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้เข้ามาต่อยอดธุรกิจในดูไบ รัฐช่วยทั้งด้านเงินทุน ทั้งมาตรการด้านภาษี สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจด้านนี้ รวมถึงการแปลงสภาพเมืองดูไบที่มีประชากรสามล้านคนให้กลายเป็นสวรรค์ของคนหนุ่มสาวที่หันมาทำธุรกิจสตาร์ทอัพ
หนึ่งในแม่เหล็กที่ดึงนักธุรกิจสตาร์ทอัพให้แห่แหนเข้าไปในดูไบคืองานประชุมสัมมนาด้านสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า The Step Conference เป็นการยืนประชุมไม่มีที่นั่ง โดยตอนต้นปี ค.ศ.2017 งานนี้ดึงธุรกิจสตาร์ทอัพซึ่งส่วนใหญ่เป็นด้านเทคโนโลยีเข้าสู่ดูไบได้มากถึง 2,000 ราย ในงานนี้นักธุรกิจสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จระดับสูงพากันนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตนเองรวมทั้งแนะนำธุรกิจใหม่ๆผ่านการสัมมนาทางวิชาการที่กล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในการรวมพลคนสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
อะลา อัลซัลลัล (Ala’ Alsallal) หนุ่มอายุ 31 ชาวปาเลสไตน์ที่เกิดในจอร์แดน ความยากแค้นจากการเป็นคนอพยพทำให้หนุ่มคนนี้เกิดแนวคิดการระดมเงินซะกาตจากชุมชนให้นำมารวมกันก่อนแบ่งส่วนหนึ่งให้ตนเองนำไปใช้ร่ำเรียนในประเทศกรีซก่อนกลับมาตั้งบริษัทสตาร์ทอัพชื่อ “ญะมะลูน” (جملون Jamalon) ในจอร์แดนเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ขายหนังสือออนไลน์ในโลกอาหรับมากถึง 12 ล้านปก เฉพาะภาษาอาหรับมีมากถึง 150,000 ปกเทียบกับ Amazon ชื่อดังของสหรัฐอเมริกาที่มีไม่กี่พันปกเท่านั้น ความสำเร็จของ Jamalon คือใช้เทคโนโลยีจัดพิมพ์หนังสือเองช่วยลดค่าจัดส่งได้มหาศาล ราคาต่อปกลดลงฮวบฮาบ วันนี้สตาร์ทอัพของอะลามีมูลค่าทางการตลาดมากถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าไปเปิดสำนักงานอยู่ในดูไบ ส่งเงินซะกาตคืนกลับให้ชุมชนของตนเองจำนวนมหาศาล
โรนัลโด มูชาวาร์ (Ronaldo Mouchawar) หนุ่มซีเรียจากเมืองอะเล็ปโป้ที่กลายเป็นผงจากสงครามกลางเมือง หนุ่มคนนี้หนีสงครามเข้ามาทำธุรกิจค้าขายออนไลน์ในดูไบโดยเปิดเว็บไซด์ชื่อ Souq.com สร้างความนิยมให้กับคนอาหรับที่ก่อนหน้านั้นไม่ถึงสิบปีแทบไม่มีใครในโลกอาหรับซื้อสินค้าออนไลน์เลย แต่ Souq.com เปลี่ยนพฤติกรรมคนอาหรับให้ซื้อขายผ่านออนไลน์มากถึง 25% การเติบโตของ Souq.com ทำให้ Amazon.com ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาขอเข้ามาร่วมหุ้นด้วยมูลค่าถึง 600 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง
นี่คือตัวอย่างความสำเร็จของคนอาหรับรุ่นใหม่ที่กำลังเร่งเปลี่ยนโลกอาหรับจากเศรษฐกิจน้ำมันไปสู่เศรษฐกิจเทคโนโลยี เป็นบทเรียนให้กับหนุ่มสาวมุสลิมยุคใหม่ในประเทศอื่นให้ก้าวตาม