Skip to main content

 

ภาพที่เริ่มเปลี่ยนในภาพยนตร์อเมริกัน

 

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน

 

 

อยากรู้ว่าช่วงไหนคนในสังคมคิดอย่างไร เขาว่าให้อ่านหนังสือหรือชมภาพยนตร์ที่ผลิตในช่วงนั้นๆ ช่วงสองสามปีนี้มีหนังสือและภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับโลกมุสลิมออกมามาก จำนวนไม่น้อยเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายที่มุสลิมมักตกเป็นจำเลย ส่วนพระเอกก็แน่นอนคืออเมริกัน

สามสิบปีมาแล้ว ภาพยนตร์แนวสงคราม พระเอกคืออเมริกันอย่างที่รู้ ผู้ร้ายที่ไม่เคยเปลี่ยนคือเยอรมันและญี่ปุ่น ร่นเวลามาจนเมื่อสิบปีที่ผ่านมานี้ พระเอกในภาพยนตร์แนวรุนแรงยังคงเป็นอเมริกัน ส่วนผู้ร้ายเปลี่ยนมาเป็นอาหรับและมุสลิม แสดงภาพอคติของสังคมอเมริกันให้เห็นกันชัดๆ แต่ครั้นเข้าปี 2017 เริ่มมีแนวโน้มแปลกๆในภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดแทรกเข้ามาให้เห็นเป็นระยะ

วันก่อนได้ดูภาพยนตร์เรื่อง The Wall สร้างใน ค.ศ.2017 ผู้กำกับคือ Doug Liman เขียนบทโดย Dwain Worrell เป็นเรื่องของมือซุ่มยิงหรือสไนเปอร์ซึ่งเป็นทหารอเมริกันสองนายเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ที่ทหารอเมริกัน 8 นายถูกมือซุ่มยิงอิรักหนึ่งนายสังหารทั้งหมด เรื่องราวดำเนินไปโดยทหารอเมริกันที่เป็นพลซุ่มยิงที่รอดชีวิตคนเดียวต้องซ่อนตัวอยู่หลังกำแพง เจรจาผ่านวิทยุกับมือซุ่มยิงอิรักคนเดียวที่มีอยู่

คำพูดคุยกล่าวถึงการรุกรานของทหารอเมริกันในอิรัก ให้ข้อมูลกระทั่งรับรู้ว่าพลซุ่มยิงอิรักเป็นชาวอาหรับที่เรียนในสหรัฐอเมริกาและถูกฝึกฝนวิธีการซุ่มยิงจากทหารอเมริกันท้ายที่สุดมีเฮลิคอปเตอร์พร้อมทหารอเมริกันมารับทหารอเมริกันคนเดียวที่เหลือ จากนั้นจึงพาทการบาดเจ็บออกไปก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะถูกยิงตกพร้อมทหารอเมริกันทั้งหมดเสียชีวิตด้วยฝีมือพลซุ่มยิงอิรักคนนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้พระเอกแม้ไม่ใช่อเมริกันแต่ก็ยังไม่ใช่ผู้ร้าย

อีกเรื่องหนึ่งคือ Unlocked สร้างในปี 2017 เช่นกันโดยผู้กำกับ Michael Apted เขียนบทโดย Peter O'Brien ว่าด้วยสายลับสาวซีไอเอที่ประจำการอยู่ลอนดอนได้รับงานให้สืบหาข่าวการก่อการร้ายระดับสังหารหมู่ที่จะดำเนินการโดยชาวอาหรับในลอนดอน ก่อนหน้านี้มีการระเบิดในปารีสคร่าชีวิตคนไป 24 คน น่าจะมาจากคนกลุ่มเดียวกัน

การสืบสวนกลับกลายเป็นว่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ระเบิดที่ปารีสและเตรียมก่อเหตุในลอนดอนกลายเป็นซีไอเอระดับหัวหน้าที่กล่าวว่าทำเช่นนั้นก็เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดการก่อการร้ายบนแผ่นดินอเมริกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้แม้อาหรับจะยังไม่ได้เป็นพระเอกแต่ผู้ร้ายทั้งหมดกลับเป็นอเมริกัน

ในยุคของการเกลียดกลัวอิสลามในหลายประเทศที่มุสลิมถูกใส่สีตีไข่จนเละเทะ ยังมีหนังสือบางเล่มภาพยนตร์บางเรื่องที่สร้างโดยฮอลลีวู้ดพยายามฉายภาพให้เห็นอีกด้านหนึ่งว่า ข้อเท็จจริงในภาพที่ปรากฏอาจเป็นเพียงข้อเท็จโดยข้อจริงกลับไม่เป็นอย่างภาพที่เห็น ลองตามแนวโน้มที่ว่านี้ไปสักพักอาจได้เห็นอะไรที่เด็ดไปกว่านี้อีกแยะก็ได้