Skip to main content

 

รัฐเตรียมปรับปรุงอาหารในเรือนจำภาคใต้ให้ได้มาตรฐานฮาลาล

 

มารียัม อัฮหมัด
สงขลา
 
171221-TH-prison-1000.jpg
เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบเหตุจลาจลด้านในเรือนจำปัตตานี เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม 2559
 มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ศอ.บต. ประชุมร่วมเรือนจำ และสำนักงานอิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเร็วๆ นี้ เพี่อเตรียมการปรับปรุงอาหารในเรือนจำให้ได้มาตรฐานฮาลาล อันเป็นการแสดงการเคารพสิทธิพื้นฐานของผู้ต้องขัง รวมทั้งให้ญาติเกิดความเชื่อมั่น และลดเงื่อนไขการก่อเหตุ ผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาอิสลามถูกควบคุมตัวในเรือนจำ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันมีจำนวนร่วมกว่า 5,000 ราย

นางรอพีอะ สาแม ชาวปัตตานี ซึ่งมีสมาชิกครอบครัวถูกควบคุมตัวในเรือนจำจังหวัดสงขลา แสดงความคิดเห็นต่อโครงการดังกล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ดี และเป็นสิ่งที่ประชาชนในพื้นที่เรียกร้องให้รัฐดำเนินการมาตลอด

“ถ้าทำได้ถือเป็นเรื่องดีเพราะเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ทุกคนเรียกร้องมาตลอด โดยเฉพาะในเรื่องของการนำอาหารเข้าไปในเรือนจำ ญาติที่อยู่ข้างในเล่าให้ฟังว่า ตลอดที่ผ่านมาเคยมีการนำวัตถุดิบจากด้านนอกวางรวมกันกับสิ่งต้องห้ามสำหรับอิสลามบางอย่าง ทำให้อาหารที่กินไปไม่ได้มีฮาลาล” นางรอพีอะกล่าว

การประชุมร่วมครั้งนี้จัดขึ้นที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันอังคาร (19 ธันวาคม 2560) ที่ผ่านมาโดย สำนักสนับสนุนการผลิต และธุรกิจฮาลาล จังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนเรือนจำกลาง สำนักงานอิสลาม สาธารณสุข จากจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมถึงตัวแทนจากศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือเพื่อยกระดับอาหารที่ปรุงโดยครัวของเรือนจำ เพื่อให้ได้อาหารตามมาตรฐานฮาลาล

นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผอ.สำนักสนับสนุนการผลิตและธุรกิจฮาลาล จังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. กล่าวว่า ศอ.บต.พยายามร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาอาหารในครัวของเรือนจำในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง

“มีแผนการดำเนินงานทั้งการให้ความรู้ การประเมินมาตรฐาน การปรับปรุงโครงสร้าง การใช้วัตถุดิบนำเข้า การรับรองมาตรฐาน และการประชาสัมพันธ์ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดเพื่อสร้างมาตรฐานครัวเรือนจำที่ได้มาตรฐานของแต่ละจังหวัด เร่งดำเนินการเพื่อมอบเป็นของขวัญแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอนปีหน้านี้” นายธีรวิทย์กล่าว

นายธีรวิทย์ กล่าวว่า แผนการสำคัญของการยกระดับครั้งนี้คือ 1. ยกระดับมาตรฐานครัวฮาลาลในเรือนจำกลางยะลา เรือนจำอำเภอเบตง เรือนจำจังหวัดนราธิวาส และเรือนจำจังหวัดปัตตานี ให้แล้วเสร็จในปี 2561 ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีความพร้อมแล้ว 2. แต่งตั้งคณะทำงาน พร้อมทั้งหารือกับผู้ประมูลวัตถุดิบนำเข้าภายในเรือนจำ เพื่อวางกรอบ และบูรณาการทำงานการยกระดับมาตรฐาน 3. ประชาสัมพันธ์มาตรฐานครัวฮาลาลในเรือนจำ ทั้งใน และต่างประเทศ และ 4. กำหนดวาระการยกระดับมาตรฐานครัวฮาลาลในเรือนจำแห่งอื่นๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้

นายธีรวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดมุ่งหมายการยกระดับมาตรฐานครัวฮาลาลครั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านสิทธิมนุษยชน และการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเชื่อว่าสิทธิพื้นฐานของผู้ต้องขังจะสร้างความเชื่อมั่นของญาติและบุคคลภายนอก ลดเงื่อนไขการก่อเหตุ และเอื้อต่อการสร้างสภาวะแวดล้อมไปสู่สันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เบื้องต้นกำหนดระยะเวลาการดำเนินการยกระดับไว้ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2561

ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาอิสลามถูกควบคุมตัวในเรือนจำจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 5,086 ราย ในเรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี มีผู้ต้องขังชาย 1,716 ราย ผู้ต้องขังหญิง 80 ราย ในเรือนจำกลางจังหวัดนราธิวาส มีผู้ต้องขังชาย 1,690 ราย ผู้ต้องขังหญิง 140 ราย และเรือนจำกลางจังหวัดยะลา มีผู้ต้องขังชาย 1,350 ราย ผู้ต้องขังหญิง 110 ราย

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.benarnews.org/thai/news/TH-prison-12212017160647.html