Skip to main content

 

 

#Free_Tariq_Ramadan_Campaign

ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน หัวหอกพิสูจน์ความเป็นนิติรัฐของตะวันตก (ตอนที่ 1)

ในกาลก่อน เด็กน้อยอิบรอฮีมโต้แย้งทำให้กษัตริย์นัมรูดจนแต้ม ต้องหาทางกำจัดโดยการเผาในกองไฟ

เมื่อไม่นานมานี้ ตะวันตกก็เคยร่วมกันกำจัดหะซัน อัลบันนา ที่ปลุกกระแสนิยมอิสลาม ท้าทายอิทธิพลความครอบงำของตะวันตกในโลกอาหรับ อย่างเหี้ยมโหดมาแล้ว

มาวันนี้ ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน ผู้เป็นหลานปู่ของหะซัน อัลบันนา ด้วยความสุขุมลุ่มลึก รู้จักวัฒนธรรมตะวันตกอย่างถึงรากถึงแก่น จากการเกิดและใช้ชีวิตที่นั่น ได้เผยแผ่อิสลามเชิงวิชาการ สามารถโต้แย้งนักคิดและนักการเมืองตะวันตก จนทำให้หมดท่าจนแต้มมาทุกราย ตะวันตกที่มีแค่ความคิดฉาบฉวยสร้างภาพ ก็กลัวท่านจนลนลาน ในยุคของบุชถึงกับห้ามตอริค รอมาฎอน เข้าประเทศ รวมถึงการส่งหญิงเปลือยอกขึ้นเวทีรบกวนการบรรยาย

มาวันนี้ ฝรั่งเศสยอมเผาหลักเสรีภาพ หลักกฎหมายของตน ที่เคยอวดอ้างต่อชาวโลกว่าเป็นหลักกฎหมายที่เลอเลิศศิวิไลซ์ เพียงเพื่อต้องการกำจัด ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน

กลุ่ม #Free Tariq Ramadan Campaign ออกแถลงการณ์ ประณามอย่างรุนแรงหลังจากที่ฝรั่งเศสกักขัง ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน ในลักษณะขังเดี่ยว ห้ามการติดต่ออย่างเด็ดขาดโดยไม่มีกำหนด อีกทั้งยังกดขี่ไม่ให้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายเพื่อแก้ต่างให้แก่ตนเอง และมีหลักฐานบ่งชี้ว่ามีเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังข้อหาความผิดทางอาญาที่ถูกนำมากล่าวอ้าง อัยการฝรั่งเศสดำเนินคดีต่อตอริค รอมาฎอน โดยใช้ข้อหาที่เลื่อนลอย หลักฐานหาสาระไม่ได้

กลุ่ม #Free Tariq Ramadan Campaign แถลงว่า นับตั้งแต่วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน ถูกขังเดี่ยวในแดนรักษาความปลอดภัยระดับสูงของคุก Fleury-Mérogis ในกรุงปารีส หลังจากที่ได้ไปยังสถานีตำรวจในกรุงปารีสด้วยความสมัครใจเพื่อให้ปากคำถึงข้อกล่าวหาที่มี ศาลได้ห้ามเยี่ยม ห้ามติดต่อทางโทรศัพท์อย่างเด็ดขาด โดยที่ทางครอบครัวของท่านไม่ทราบว่าจะได้เยี่ยมหรือติดต่อกับท่านได้เมื่อไหร่อย่างไร

ทั้งนี้ ในวันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากการขึ้นศาลให้ปากคำ ผู้พิพากษามีคำสั่งให้กักขัง ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน โดยไม่กำหนดเวลา ตามที่อัยการอ้างว่า ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน กำลังพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ ทั้งๆที่ท่านเดินทางมาให้ปากคำด้วยความสมัครใจ รวมถึงการมาร่วมประชุมกับผู้สอบสวนที่ฝรั่งเศสในสัปดาห์ก่อน โดยที่ท่านเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในความบริสุทธิ์ของตน และไว้วางใจในความยุติธรรมของระบบศาลฝรั่งเศส และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับผู้สอบสวน แต่การณ์กลับไม่เป็นไปตามคาด ผู้พิพากษาเลือกใช้วิธีกักขัง ไม่สนใจทางเลือกอื่นๆที่กฎหมายเปิดให้ใช้เพื่อประกันให้ท่านให้ความร่วมมือในการดำเนินคดี

การทำการอย่างรุนแรงผิดปกติของศาลในครั้งนี้ มีเบาะแสทางการเมือง จุดอ่อนและข้อขัดแย้งกันเองมากมาย

ประการหนึ่ง ข้อกล่าวหาต่อท่านเลื่อนลอยและน่าสงสัยอย่างรุนแรง โจทย์ที่มีนามว่า “Christelle” อ้างว่าถูกท่านข่มขืนในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมือง Lyon เวลาบ่าย วันที่ 9 ตุลาคม 2009 ทนายของ ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน ส่งหลักฐานตั๋วเครื่องบิน ระบุว่า ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน เดินทางจากลอนดอน ถึงไปยัง เมือง Lyon เวลา 18.35 และเข้าบรรยายให้แก่ผู้ฟังนับร้อยคน ในเวลา 20.30 น.

ภายหลังส่งหลักฐานดังกล่าวให้แก่ตำรวจ และมีหลักฐานการรับเอกสาร แต่ตำรวจกลับอ้างว่า เอกสารหายไปและไม่มีในแฟ้มคดี อีกทั้งอัยการก็ไม่สนใจสอบถามหรือนำมาพิจารณา และผู้พิพากษาก็ไม่ได้นำมาประกอบในการพิจารณาสั่งกักขังโดยไม่มีกำหนดโดยไร้ความชอบธรรม

นอกจากนี้ ในปี 2009 มีหลักฐานว่า Michel Debacq เคยสมคบกับ “Christelle” และนักต่อต้านอิสลามตัวฉกาจ 2 คน คือ Caroline Fourest และ Antoine Sfeir เพื่อหาทางฟ้องร้อง ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน ต่อศาลมาแล้ว แต่ Michel Debacq ผู้พิพากษาระดับสูงในศาลอุทธรณ์ของฝรั่งเศสปัจจุบัน ปกปิดการมีส่วนร่วมในคดีฟ้องร้องต่อ ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน เมื่อ 9 ปีที่แล้ว รวมถึงคดีในปัจจุบัน อันเป็นการกระทำที่ขัดกับกฎหมายของฝรั่งเศสทั้งสิ้น

ในเมื่อข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้ จะเชื่อมั่นในความโปร่งใสและความยุติธรรม ในคดีของ ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน ได้อีกหรือ

นอกจากนั้น ในคดีฮินด์ อะยารี ที่อ้างว่า ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน ข่มขืนเธอในปี 2012 แต่ทนายความได้นำข้อความทางเฟสบุ๊ค จำนวนไม่น้อยกว่า 280 ข้อความของเธอที่ส่งให้ ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน ในเวลาหลังจากนั้นราวๆ 2 ปี ซึ่งอะยารี ก็ยอมรับว่าส่งไปจริงภายหลังจากได้ใช้เฟสบุ๊คใหม่ เพราะ ศ.ดร.ตอริค รอมาฎอน ได้บล็อกเฟสอันแรกของเธอ ด้วยเหตุผลนี้ อาจเป็นเหตุผลให้อะยารี ไม่มาศาลตามหมายนัดในวันพิจารณาคดีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

(ติดตาม ตอน 2)

อ่านแถลงการณ์ต้นฉบับที่  Free Tariq Ramadan Campaign