แม่ทัพภาค 4: พบทุจริตเงินหนุนโรงเรียนในปัตตานีกว่า 700 ล้าน
ปัตตานี
ในวันจันทร์นี้ พล.ท.ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้แถลงข่าวเปิดเผยถึงการตรวจพบทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนในจังหวัดปัตตานี จำนวนเงินกว่า 700 ล้านบาท โดยทางการพบว่า บางโรงเรียนได้ให้การสนุบสนุนการแบ่งแยกดินแดน
พล.ท.ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยในงานแถลงข่าวที่ มทบ. 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานีว่า พบการทุจริตในโรงเรียนเอกชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี คิดเป็นการทุจริตถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ของเงินงบประมาณทั้งหมด และพบโรงเรียนบางแห่งและบุคคลากรทางการศึกษาบางคน ปลูกฝังแนวคิดเกลียดชังรัฐ
“เงินอุดหนุนการศึกษาของจังหวัดปัตตานี ปีละ 1,260 ล้านบาท โรงเรียนบางแห่งมีพฤติกรรมทุจริตงบประมาณของรัฐ เบียดบังทุจริต 760 ล้านบาท ทำให้เยาวชน เสียโอกาสทางการศึกษา หรือเสียประโยชน์อันพึงได้ ประมาณปีละ 101,000 คน จากนักเรียน 165,072 คน ครูเสียประโยชน์ที่พึงได้เป็นค่าตอบแทน 4,000 คน” พล.ท.ปิยะวัฒน์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
พล.ท.ปิยะวัฒน์ ระบุว่า การตรวจค้นโรงเรียน 5-6 แห่ง ในจ.ปัตตานี เป็นการขยายผลจากการที่หน่วยเฉพาะกิจ ฉก.ปัตตานีได้เข้าตรวจสอบโรงเรียนบากงพิทยา บ.บากง ต.บางเขา อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561 ซึ่งพบเอกสารปลุกระดมมวลชนเพื่อสร้างความวุ่นวาย และก่อให้เกิดความแตกแยก ถังดับเพลิง และถังแก๊สปิกนิก ในลักษณะอำพรางซุกซ่อน ไม่ได้อยู่ในที่ที่ควรอยู่ อาจใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่น่าสงสัย พบการสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อำพรางเป็นบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน
“โรงเรียนบากงพิทยา จ่ายเงินเดือนให้กับนายซาการียา หัดสมัด สมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง และเป็นผู้ก่อเหตุร้ายหลายคดี ประกอบด้วย การก่อเหตุเผาหัวจ่ายน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ดอนยาง กราดยิงบ้านประชาชนริมถนน หมายเลข 43 แยกดอนยาง หนองจิก บาดเจ็บ 8 ราย และระเบิดเผาสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ดอนยาง ถูกจับกุมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ปัจจุบัน ถูกควบคุมตัวในเรือนจำระหว่างดำเนินคดี พบจ่ายเงินเดือนให้ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน” พล.ท.ปิยะวัฒน์ระบุ
พล.ท.ปิยะวัฒน์ ระบุเพิ่มเติมว่า พบพฤติกรรมอำพรางสนับสนุนเงินผ่านบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นเครือญาติของนายเมาลานา สาเมาะ แกนนำสั่งการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ต.ท่ากำชำ และนายอับดุลสะตอปา สุหลง แกนนำสั่งการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ต.ตุยง อ.หนองจิก จว.ปัตตานี อีกด้วย
นอกจากนั้น พบการจ่ายค่าตอบแทนครูน้อยกว่าที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดยโรงเรียนค่าตอบแทน รายละ 7-8 พันบาทต่อเดือน จากที่ควรได้รายละ 15,000 บาท ตามวุฒิจริง โดยอ้างว่าเป็นความสมัครใจของครู เพื่อนำเงินส่วนต่างมาเฉลี่ยให้บุคลากรที่ไม่ได้บรรจุตามวุฒิ พบการจ่ายค่าเสี่ยงภัยของครูน้อยกว่าที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด จากรายละ 2,500 บาทต่อเดือน จ่ายเพียง 1,000-1,500 บาท โดยอ้างว่า ต้องนำมาเฉลี่ยให้ครูที่ไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ซึ่งเป็นการผิดวัตถุประสงค์แห่งรัฐ และทำให้ครูขวัญกำลังใจตกต่ำ
พล.ท.ปิยะวัฒน์ ยังได้ ชี้แจงถึงการพบหลักฐานการทุจริตอื่นๆ อีกหลายรายการ เช่น การทำบัญชีรายชื่อนักเรียนไม่ตรงกับจำนวนนักเรียนที่เข้าจริงแล้ว 3 ราย และที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ พบใบเสร็จรับเงินการจัดซื้อหนังสือเรียนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงเรียนยอมรับว่าได้จัดซื้อจริงเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือให้ร้านค้าเขียนใบเสร็จเพื่อให้ได้ประโยชน์จากส่วนต่าง เป็นต้น
ทหารตรวจค้นโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ
ในประเด็นเดียวกัน พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ ยึดเงินสด 1,227,980 บาท และเอกสารหลายรายการ เพื่อตรวจสอบว่า เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาหรือไม่เช่นกัน
“การทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นสิบๆ ปี แต่ไม่มีหน่วยงานไหนกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะสำนักงานการศึกษาเอกชนที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งการเงิน การบริหาร และการเรียนการสอน ทำให้โรงเรียนบางแห่งทำบัญชีผี โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่มี 200 กว่าแห่ง มีการตรวจสอบพบที่เข้าข่ายทุจริตแล้วไม่ต่ำกว่า 100 โรงเรียน” พล.ต.จตุพรกล่าวเพิ่มเติม
ด้าน นายมูฮำหมัด หะยีเต๊ะ ผู้อำนวยการโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ กล่าวว่า ตนเองและโรงเรียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยระบุว่า ในปัจจุบัน โรงเรียนมีนักเรียน 3,584 คน และครู 216 คน ที่ผ่านมามีนักเรียนหลายคนที่จบไปเป็นข้าราชการ ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัด ดังนั้นจึงพร้อมให้ตรวจสอบข้อมูลเต็มที่
“ผมมั่นใจว่า ตัวผมไม่มีอะไร ไม่มีความคิดเกี่ยวข้องกับขบวนการอย่างที่ถูกกล่าวหา รู้สึกงงกับข่าวที่ออก พร้อมชี้แจงทุกเรื่อง และขอความเป็นธรรมกับโรงเรียนและตัวผมด้วย” นายมูฮำหมัด กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
นายมูฮำหมัด กล่าวว่า ทหารเข้าตรวจค้นโรงเรียน ยึดเอกสารทางการเงิน ทะเบียนรถ พร้อมยึดโฉนดที่ดินของบิดาของตน และชาวบ้านกว่า 60 ใบ ค้นที่บ้านแม่ของตน และยึดเงินคนแก่ที่มาพักที่ปอเนาะ เงินที่เก็บจากนักเรียน เงินจากสวนยาง และเงินอื่นๆ ของหลายๆ คนที่ฝากตนไว้อีกด้วย
นอกจากนี้ พล.ต.จตุพร กล่าวว่า หลังจากการค้นโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ ก็มีเหตุการณ์โต้ตอบขึ้นมาในพื้นที่ปัตตานีและนราธิวาสตามมา และได้ควบคุมตัวนายมูหัมมัดนาสีรูดดิน เล๊ะนุ๊ นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนปัตตานี ไว้สอบปากคำ
"หลังค้นโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ ในพื้นที่ปัตตานี และ นราธิวาส มีการก่อเหตุขึ้น และเรายังพบเอกสารการฝึกที่บ้านพักเด็ก ซึ่งโรงเรียนจะรู้เห็นหรือไม่ คือสิ่งที่จะต้องมาตรวจสอบต่อไป” พล.ต.จตุพร กล่าว
เผยแพร่ครั้งแรกที่ https://www.benarnews.org/thai/news/TH-school-embezzlement-04022018145411.html