นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาในงานสัมมนาเรื่อง "เหลียวหลังแลหน้าการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้" จัดโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญติดตามเร่งรัดประเมินผลการแก้ปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ วุฒิสภา เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ใจความสำคัญว่า การแก้ปัญหาต้องอยู่กับความจริง ไม่เช่นนั้นจะประเมินสถานการณ์ผิดแล้วมีปัญหาดำเนินการ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การพัฒนาและสร้างโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่มีความคืบหน้ามาก แต่เรื่องความยุติธรรมยังมีปัญหา ส่วนสถิติความรุนแรงมีแนวโน้มลดลง ยืนยันสถานการณ์ในพื้นที่ไม่ได้รุนแรงตามที่เป็นข่าว แต่เข้าใจว่ามีแต่เรื่องความรุนแรง ฝ่ายที่ไม่ต้องการให้สงบรู้เรื่องนี้ถึงพยายามสร้างหัวข่าว เพราะคิดว่าจะไปมีอิทธิพลต่อแนวความคิดของประชาคมโลกมากดดันประเทศไทย
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลเปิดใจกว้างต่อข้อเสนอเรื่องรูปแบบการปกครองหรือเขตพิเศษ แต่ต่างประเทศยังไม่เข้าใจว่าความจริงประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการเลือก ส.ส.ทุกระดับอยู่แล้ว ถ้าอยากมีรูปแบบพิเศษ ไม่มีปัญหาเลย แต่ขอให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเท่านั้น อาจจะเป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจ หรือเขตลงทุนพิเศษก็ได้ เหมือนอ.แม่สอด จ.ตาก โดยมอบหมายให้นายถาวรเสนเนียม รมช.มหาดไทยไปดูเรื่องนี้
เวลา 16.00 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(ผอ.รมน.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการ กอ.รมน. มีผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมประชุมกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ดิษฐพรศศะสมิต โฆษก กอ.รมน. แถลงภายหลังว่าที่ประชุมพิจารณาผลปฏิบัติงานแม่ลาน 54 ดำเนินการระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2553-30 กันยายน 2554 ที่จะนำมาใช้ในพื้นที่อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ตามประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงหลังมีการยกเลิกประกาศตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไปแล้ว รวมทั้งจัดทำแนวการปฏิบัติตามมาตรา21 พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อให้ผู้กระทำความผิดในพื้นที่อำเภอแม่ลานมาแสดงตัวและมอบตัวเพื่อเข้ากระบวนการพิจารณาซึ่งอาจไม่ต้องรับโทษ ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้วระหว่างวันที่19 มกราคม-18 มกราคม 2555 สามารถแสดงความจำนงหรือมารายงานตัวต่อคณะกรรมการรับรายงานตัวได้ทั้งผู้ที่ถูกจับกุมไปแล้ว หรือผู้มีชื่อตามหมายจับในฐานความผิดอาญา
พล.ต.ดิษฐพรกล่าวว่า คณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาว่าความผิดอาญานั้นหนักเบาและเข้าเกณฑ์หรือไม่ ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาและประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงแล้ว ก็อาจมีการประเมินและต่ออายุออกไปอีก ขณะนี้ยับไม่มีการพิจารณานำไปใช้ในพื้นที่อื่น แต่นโยบายของนายกฯต้องการให้ทุกพื้นที่ในประเทศใช้กฎหมายปกติ จึงต้องค่อยพิจารณาไปเรื่อยๆ ในพื้นที่ที่มีความพร้อม ก็สามารถลดระดับของกฎหมายได้
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 หน้า 13