Skip to main content

มูฮำมัดอายุบ ปาทาน    
   

      บรรยากาศทางการเมืองที่เข้มข้นขึ้น แต่สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ก็ระอุขึ้นไม่แพ้กัน เหตุร้ายรายวัน ยังสร้างความสูญเสียให้แก่พี่น้องไทยพุทธและมุสลิมอย่างต่อเนื่อง แม้จำนวนของมุสลิมที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงจะมีมากกว่า แต่ในระยะหลังที่ไทยพุทธถูกกระทำมากขึ้น ทำให้น่าครุ่นคิดไม่น้อย

      เหตุการณ์ระเบิดร้านอาหารเจ๊แดงกลางเมืองยะลา มีผู้บาดเจ็บ 6 คน เหตุการณ์ยิงรถปลัดอบต.คลองมานิง อ.เมืองปัตตานี มีผู้เสียชีวิต 3 คน และเหตุการณ์คนร้ายตัดต้นยางเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส พร้อมทั้งทิ้งกระสุนปืนและจดหมายขู่ให้ย้ายออกนอกพื้นที่

      ยังไม่รวมถึงเหตุการณ์ลอบยิง ลอบฆ่ารายวันอีกหลายเหตุการณ์ ซึ่งไทยพุทธตกเป็นเหยื่อ ขณะเดียวกันการลอบยิงโต๊ะอิหม่าม โต๊ะครู ผู้นำศาสนาซึ่งเป็นมุสลิมก็เกิดขึ้นในจำนวนที่ไม่น้อยไปกว่ากัน

       นี่คือสัญญาณอันตรายว่า การตอกลิ่มร้าวแห่งความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคน 2 เชื้อชาติ 2 ศาสนา กำลังหวนกลับมาอีกครั้ง

      เป็นความพยายามสร้างความบาดหมางแคลงใจ หลังปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยก่อความไม่สงบซึ่งถูกควบคุมเข้าค่ายฝึกอาชีพกลับภูมิลำเนา ทั้งสองประเด็นอาจไม่เกี่ยวกัน แต่หากถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อยั่วยุ สถานการณ์อาจพลิกกลับไปอย่างน่าวิตก

      อย่าลืมว่านับแต่เหตุการณ์ความไม่สงบปะทุขึ้นมาเกือบ 4 ปี นั้น คนไทยพุทธในพื้นที่นั้น มีความรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งมาโดยตลอด หากยังจำกันได้ถึงครั้งหนึ่งที่คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ หรือ กอส. เคยถูกตั้งคำถามจากคนไทยพุทธในพื้นที่ว่า เอาใจแต่มุสลิม

      พูดกันอย่างตรงไปตรงมา ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในวันนี้ คนไทยพุทธรู้สึกว่ากำลังตกเป็นเหยื่อความรุนแรงที่มุสลิมเป็นผู้ก่อขึ้นมา ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะได้ยินเสียงเรียกร้องถึงการให้รัฐบาลใช้ความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา และถึงที่สุดเมื่อมาตรการของรัฐบาลมิอาจรับประกันถึงความปลอดภัยได้ พวกเขาจึงเรียกร้องขอติดอาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง

      ปรากฏการณ์ช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ เรียกได้ว่า เป็นศักราชแห่งการก่อความรุนแรงต่อกลุ่มไทยพุทธ ทั้งจำนวนเหตุการณ์และการพัฒนารูปแบบความรุนแรง ไล่มาตั้งแต่ กลุ่มไทยพุทธบ้านสันติ อ.ธารโตอพยพหนีภัยเข้ามาอยู่ในเมืองยะลาแบบยกหมู่บ้าน กรณีฆ่าแล้วเผาบัณฑิตสาว จนญาติแห่ศพประท้วงหน้าศาลากลางจ.ยะลา ตามมาด้วยการฆ่าผู้โดยสารรถตู้เบตง-หาดใหญ่

      นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความรุนแรงที่พุ่งตรงสู่ไทยพุทธ ขณะเดียวกันหลังจากไทยพุทธตกเป็นเหยือ ก็จะมีเหตุการณ์ที่มุสลิมตกเป็นเหยื่อตามมาแทบจะทันที ซึ่งมีนัยน่าครุ่นคิดว่า นี่คือการพยายามสร้างรอยร้าวความบาดหมางคลางแคลงใจหรือไม่

      เหตุการณ์รุนแรงค่อยๆ บรรเทาลง ในช่วงหลังยุทธการปิดล้อม ตรวจค้น และถอนแกนออกนอกพื้นที่

      ยังไม่อาจสรุปได้อย่างชัดเจนว่า ความรุนแรงระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ เป็นผลต่อเนื่องหลังจากมีการปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมเข้าฝึกอาชีพ เพราะอาจเป็นการสร้างแรงกดดันตอกย้ำ ความหวาดระแวงต่อกันระลอกใหม่

        แต่สัญญาณที่ปรากฏขึ้นนี้  เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักให้มาก เพื่อป้องกันมิให้ความรู้สึกเกลียดชังต่อกันถูกยั่วยุขึ้นอีกครั้ง

- ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นสถานการณ์ชายแดนใต้

  กับ มูฮำมัดอายุบ ปาทาน ได้ที่ bangyub.multiply.com