Skip to main content

ปกรณ์ พึ่งเนตร
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


 

           พล..บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วิเคราะห์แบบตรงไปตรงมาถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 ปีว่า ปัญหาสำคัญของฝ่ายรัฐคือการข่าวที่ยังขาดประสิทธิภาพ

          "กลุ่มที่ก่อเหตุอยู่ทุกวันนี้มีการเตรียมการมานานพอสมควร แต่ว่าเราเคยมีการข่าวที่ดี มีการเข้าถึงประชาชน จึงสามารถกดเขาอยู่ เปรียบเทียบได้กับไฟสุมขอน เมื่อมีขี้เถ้าหมกอยู่ไฟก็ไม่คุขึ้นมา แต่ภายหลังไปเขี่ย จึงลุกขึ้นมาอีก เริ่มจากปี 2547 เกิดเหตุปล้นปืน เริ่มเป็นสัญญาณว่าเขามีขีดความสามารถในการก่อเหตุรุนแรงได้มากขึ้น"

           "การที่นโยบายเก่า (รัฐบาลชุดที่แล้ว) มองว่าพวกนี้เป็นกลุ่มกระจอก จึงให้ถอนทหารออกไป เป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้อง เพราะทำให้เกิดเงื่อนไขขึ้นในพื้นที่ เดิมที พตท.43 (กองบัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหารที่ 43) จะมีทหารพรานเป็นสายข่าว ซึ่งทหารพรานก็มาจากชาวบ้าน การข่าวจึงค่อนข้างแม่นยำ แต่ต่อมาไปเลิกเสียหมด ทำให้ข่าวขาดช่วงไป แม้จะตั้งคนใหม่ การเข้าไปใหม่ก็เป็นเรื่องยาก เพราะสายข่าวที่มีประสิทธิภาพต้องฝังตัวเป็นสิบๆ ปี"

          "ที่สำคัญการส่งคนนอกเข้าไปในพื้นที่เป็นไปไม่ได้เลย นอกจากจะไปได้คนของเขาเข้ามา แต่พอได้คนในพื้นที่มา การสกรีนคนก็มีปัญหาอีก เราทำได้แค่ระดับหนึ่ง เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ (กรณีหน่วยข่าวกรอง 251)  นั่นก็คิดว่าสกรีนดีแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ"

          "สมัยก่อนเราเป็นฝ่ายนำตลอดเวลา พวกนี้อยู่ป่าอยู่ดง แต่เดี๋ยวนี้เขาเข้ามาในเมือง มีเครือข่ายการสื่อสารที่ทันสมัย พูดง่ายๆ คือเรารู้เขาแค่ระดับหนึ่ง แต่เขารู้เราถึงขนาดการวางแผน การปฏิบัติ หรือการจัดกำลัง ทำให้รู้การเคลื่อนไหวของเราตลอด แต่เรากลับไม่รู้ความเคลื่อนไหวของเขาเท่าที่ควร เพียงแต่ว่าเวลาไปจับกุมได้ ก็อาศัยการซัดทอดตรงโน้นตรงนี้ ก็ไปจับต่อ ไปค้นบ้าน ไปเจอหลักฐานเพิ่ม แต่ไม่มีที่เป็นสายข่าวของเราเองแล้วมาบอกข้อมูลต่างๆ มันไม่มี ฉะนั้นจึงต้องสังคายนากันใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็สังคายนากันอยู่แล้ว"

          พล..บุญรอด ยอมรับด้วยว่า จนถึงขณะนี้ทางการยังไม่รู้โครงสร้างระดับบนของกลุ่มก่อความไม่สงบ

          "เรายังไปไม่ถึงข้างบน เขามีการตัดตอน มีการคอมพาร์ท (compart : แบ่งเป็นส่วนๆ , ตัดช่วง) ภาษาข่าวเรียกว่า คอมพาร์ท นีด ทู โนว์ (compart need to know) คือเขาจะรู้เหนือขึ้นไป 1 ระดับ รู้ข้างๆ คือระดับเดียวกันกับเขา และข้างล่าง 1 ระดับ แต่ไม่รู้จักนายของนายเขาอีกที แน่นอนว่าหัวหน้าอาจจะอยู่นอกประเทศ ฝ่ายการเมืองก็เคลื่อนไหวไปไหนต่อไหน แต่ที่ปฏิบัติการอยู่เป็นฝ่ายกองกำลัง"

          กระนั้นก็ตาม พล.อ.บุญรอด ย้ำว่า สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ดำเนินการมาเกี่ยวกับปัญหาภาคใต้ เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว

          "นโยบายของรัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาลชุดที่ผ่านมาตรงข้ามกันเลย เราแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี สมานฉันท์ และอัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ในเรื่องเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา จึงมียุทธศาสตร์แก้ปัญหาภาคใต้ทั้งด้านการพัฒนาและป้องกันปราบปรามควบคู่กันไป"

          "โดยยุทธศาสตร์การพัฒนาดำเนินการโดย ศอ.บต. (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) ส่วนยุทธศาสตร์ป้องกันปราบปรามดำเนินการโดย พตท. และ กอ.รมน.ภาค 4 (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4) จากนั้นก็กระจายงานลงไปให้หน่วยต่างๆ รับผิดชอบ แต่กว่าจะเวิร์คได้ก็ช่วงปีใหม่ 2550 และตลอดปีที่ผ่านมาก็ค่อยๆ มีการพัฒนาขึ้นมาตามลำดับ กระทั่งเป็นผลที่พวกเราเข้าใจอยู่ว่า มีแสงสว่างที่ปายอุโมงค์"

          "แต่มันต้องไปอีกยาว ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนได้ทันทีในรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลต่อไป ที่ผ่านมาเรื่องป้องกันปราบปรามเราก็ได้ผล เดิมทีเราเป็นฝ่ายรับ ถูกกระทำอย่างเดียว แต่วันนี้เรารุกเข้าไปค้นหา กวาดล้าง จับกุม ทำให้ได้ข่าวสารนำไปสู่การเปิดยุทธการให้กว้างขวางขึ้น ส่วน ศอ.บต.ก็แก้ไขในด้านที่เรียกว่า ยากแค้นทางจิตใจ ยากไร้ทางวัตถุ เพราะเป็นสงครามประชาชน ทำให้ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจมากขึ้น และสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น เพราะเราเข้าใจมากกว่าเดิม"

          "แต่ต้องยอมรับว่ายุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำให้ปัญหาจบลงอย่างยั่งยืนก็คือการพูดคุยเจรจา แต่ก็ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ประการหนึ่งเป็นเพราะเสียงวิจารณ์ที่เกรงจะเป็นการไปเจรจาเพื่อให้เขาทำเขตปกครองพิเศษ หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ เพียงแต่การยุติปัญหาแบบยั่งยืนเราจะต้องคุยกัน เพื่อให้รู้ว่าเขาต้องการอะไร และเรามีข้อจำกัดว่า ถ้าเป็นเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เรายอมไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงยังไม่ประสบผล เพราะความมุ่งหมายของพวกเขาคือขบวนการแบ่งแยกดินแดน"

           รัฐมนตรีกลาโหม บอกด้วยว่า แม้จะไม่รู้โครงสร้างกลุ่มก่อความไม่สงบในระดับบน แต่วันนี้ทราบแล้วว่ากลุ่มไหนคือ "ตัวจริง"

          "เราทราบว่าใครเป็นตัวจริง กลุ่มไหนเป็นตัวจริง กลุ่มตัวจริงก็คือบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต ส่วนพวกพูโล เบอร์ซาตู ไม่ใช่ตัวจริง พวกนี้ไม่มีขีดความสามารถในการก่อการร้ายแล้ว กลุ่มที่ก่อการร้ายอยู่ในปัจจุบันคือ บีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต เราก็พยายามแก้ไขด้วยการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อกดดันและบีบพื้นที่การเคลื่อนไหว ซึ่งก็ได้ผลอย่างมากในรัฐบาลชุดนี้ เพราะเรายึดหลักสันติวิธีที่นานาประเทศให้การยอมรับ"

          "ผมคิดว่าการที่นโยบายของรัฐบาลมุ่งเรื่องการพัฒนา โดยเฉพาะการสร้างเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะจะส่งผลดีในระยะยาว เพราะถ้าทำให้พื้นที่นี้มีความเจริญด้านเศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องความมั่นคงก็จะลดลงไป ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งพัฒนาการศึกษาด้วย แต่เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลา เพราะอย่างที่บอกคือปัญหาภาคใต้เป็นสงครามประชาชน ด้านการทหารจึงต้องมีความเข้มแข็งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้าน และสุดท้ายก็ต้องมีการพูดคุยเจรจาอย่างที่ผมบอก ปัญหาถึงจะยุติแบบถาวรยั่งยืน"

 

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
- ขบวนการสายลับสองหน้าหอกข้างแคร่' จุดไฟใต้
- จากการข่าว' ถึงยุทธวิธี' จุดอ่อนไฟใต้ที่รัฐต้องปรับ