ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เดินหน้านโยบายงานด้านการอำนวยความเป็นธรรม ดูแลสวัสดิการผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบให้สามารถอยู่ในพื้นที่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี
ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 15 พร้อมด้วย นายอิสมาแอ ซาและ ประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นำกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 20 คน เข้าพบ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายฐานิส ศรียะพันธ์รองเลขาธิการ ศอ.บต.(ฝ่ายยุติธรรม) ผศ.ปิยะ กิจถาวร รองเลขาศอ.บต. และนายกิตติสุระคำแหง ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานยุติธรรม ศอ.บต. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีสามีและบุคคลในครอบครัวหายสาบสูญ
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้กล่าวว่าศอ.บต. มีนโยบายหลักในการอำนวยด้านความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเสมอภาคโดยไม่เลือกปฏิบัตินอกเหนือจากนี้หลังจากรับถ่ายโอนภารกิจการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 นั้น ศอ.บต. ถือเป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้ถือเป็นมิติที่ดีที่ประชาชนเดินเข้ามาหาเรา แต่งานด้านการอำนวยความเป็นธรรมเชิงรุกคือ เราในฐานะหน่วยงานภาครัฐต้องเดินเข้าหาชาวบ้าน แต่ในวันนี้ถือว่าประชาชนให้ความไว้วางใจ ศอ.บต. ในกรณีของชาวบ้านทั้ง 10 ครอบครัวที่เข้ามาร้องขอความเป็นธรรมในวันนี้ส่วนใหญ่จากการสอบถามพูดคุยพบว่า ถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบปากคำ บางรายได้หายสาบสูญไปเป็นระยะเวลานาน กว่า 8 ปีในกรณีนี้ต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในการสืบสวน สอบสวนว่าบุคคลที่หายสาบสูญไปนั้นมีสาเหตุเกี่ยวโยงมาจากเรื่องใดบ้าง ส่วนการดำเนินงานของ ศอ.บต.ที่สามารถให้ความช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วนได้คือ การเยียวยากลุ่มบุคคลที่ต้องรับภาระการดูแลครอบครัวของผู้สูญหาย ส่วนใหญ่เป็นภรรยาที่ต้องดูแลบุตรแต่เพียงลำพัง ศอ.บต.ได้เข้าไปดูแลในเรื่องของทุนการศึกษาบุตร และการส่งเสริมอาชีพ การสนับสนุนการมีงานทำของญาติผู้สูญหาย ส่วนกระบวนการตรวจสอบความผิดตามอาญากฏหมายต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง
ทางด้านนาง นาซีเราะห์วาโซ๊ะ ชาวบ้านจาก อ.จะแนะ จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า สามีของตนหายสาบสูญไปกว่า 8 ปีตั้งแต่กรณีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปัจจุบันตนต้องทำหน้าที่ ทั้งพ่อและแม่ หาเลี้ยงลูกแต่เพียงลำพัง ในวันนี้ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ ศอ.บต.ได้ให้ความสำคัญกับกรณีผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม และรู้สึกยินดีที่ทางเลขาธิการ ศอ.บต. ได้เข้ามาดูแลเรื่องทุนการศึกษาบุตรพร้อมทั้งส่งเสริมให้ตนได้ประกอบอาชีพ เพราะถือว่าหลังจากที่สามีหายสาบสูญนั้นตนเองไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร และไม่มีหน่วยงานที่ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ หลังจากวันนี้ไปสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวคงดีขึ้นและลูกก็จะได้เรียนสูงๆ ตามที่คาดหวังไว้
ขอขอบคุณข่าวจาก
วริษา ศิริพฤกษานุกูล สำนักสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ศอ.บต.