ที่เบลเยียมมีการรณรงค์การใช้จักรยานกันอย่างมาก แต่รณรงค์อย่างเดียวคนก็ไม่ทำให้คนใช้มากขึ้นเท่าไหร่หรอก ความสำเร็จของอัตราการใช้จักรยานสูงมากอยู่ที่ “การสร้างสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการขับขี่จักรยาน” เช่น การมีเลนจักรยาน หากถนนที่มีทางเท้าที่กว้างพอ เขาก็ตีเส้นลาดยางมะตอยสีน้ำตาลเป็นเลนจักรยาน หากแคบไปก็ไปใช้ถนนร่วมกับรถยนต์ และที่นี่แต่ละเมืองจะมีโครงการจักรยานสาธารณะ คือสามารถซื้อบัตรเหมือนบัตรATM พอจะใช้ก็ไปเสียบบัตรแล้วเอาจักรยานที่จุดจอดจักรยานออกมาใช้ได้ และจะถูกหักเงินจากบัตรนั้น ขับไปจอดสถานีที่ต้องการ สำหรับกติกาเมืองแอนเวิร์ปนั้น ให้ใช้ได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง หากไปไกลกว่านั้นต้องเปลี่ยนคันใหม่ที่สถานีใหม่ เป็นต้น
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นในยุโรปคือ จักรยานที่นี่มีความหลากหลายมาก อย่างเช่นในรูปนี้ ข้างหน้าเป็นกระบะสำหรับเด็กนั่ง เพราะที่นี่เป็นครอบครัวเดี่ยวสุดๆ (nuclear family) คันนี้เด็กน่าจะนั่งได้ทีเดียวสองคน ครั้นจะไปทำงานก็ต้องพาลูกไปฝากที่ nursery หรือจะไปไหนก็ต้องพาลูกไปด้วยเสมอ การเอากระบะไว้ข้างหน้าก็เพื่อมองเห็นได้ว่าเด็กทำอะไรอยู่ แต่แน่นอนว่าหากเกิดอุบัติเหตุชนกันละก็ เด็กก็อาจจะอันตรายมากกว่า
จักรยานเหมาะกับเมืองหนาวเป็นอย่างยิ่งครับ ปั่นไปไกลก็แค่เหงื่อซึม ที่เมืองไทยผมเคยปั่นจักรยานไปประชุม ไปถึงที่ประชุมร้อนเหงื่อท่วมตัวเหม็นจนต้องพักกว่าครึ่งชั่วโมง ถึงจะมีสมาธิประชุมต่อได้ทั้งๆที่ประชมในห้องแอร์ แต่ยังไง การเดินทางด้วยจักรยานนั้นดีต่อสุขภาพอย่างมากมายครับ โดยเฉพาะสำหรับชีวิตที่ต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ คอย comment หรือ กด like อยู่บ่อยๆครับ
