มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
เผยแพร่วันที่ 26 มิถุนายน 2555
28 มิ.ย. 55 ศาลจังหวัดยะลานัดฟังคำสั่งคดี
ไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายอัสฮารี สะมะแอ อีกครั้ง
วันที่ 28 มิถุนายน เวลา 2555 09.00 น. ศาลจังหวัดยะลา นัดฟังคำสั่งคดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายอัสฮารี สะมะแอ เสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ในคดีหมายเลขดำที่ ช.13/2552 เพื่อให้ไต่สวนถึงสาเหตุและพฤติการณ์ของการเสียชีวิตของนายอัสฮารี สะมะแอ ที่ได้เสียชีวิตลงหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจที่ 13 จังหวัดยะลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ได้อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก จับและควบคุมตัวนายอัสฮารีกับพวก เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 ระหว่างการควบคุมตัวนั้นนายอัสฮารีและเพื่อนที่ถูกควบคุมตัวด้วยกันได้ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้นายอัสฮารีเสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัว ในเวลารุ่งเช้าของวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 นับแต่ผู้ตายเสียชีวิตเป็นระยะเวลา 5 ปี และศาลจังหวัดยะลาทำการไต่สวนเป็นระยะเวลานานเกือบ 3 ปี ศาลจึงได้มีคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพ โดยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555 ศาลได้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาเนื่องจากสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ยังตรวจสำนวนไม่แล้วเสร็จ จึงขอเชิญท่านที่สนใจร่วมฟังคำสั่งศาลตามวันและเวลาดังกล่าวข้างต้น
อนึ่ง ระหว่างที่มีการดำเนินคดีคดีชันสูตรพลิกศพอยู่นั้น นางแบเดาะ สะมะแอ มารดาของผู้เสียชีวิตได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองสงขลา เรียกค่าเสียหายทางละเมิดจากกระทรวงกลาโหม กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่กระทำละเมิดทำร้ายร่างกายนายอัสฮารีจนถึงแก่ความตายในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก
ต่อมาวันที่ 30 มกราคม 2555 ศาลปกครองสงขลาได้มีคำสั่งให้สำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของกอ.รมน. ชดใช้ค่าเสียหายแก่นางแบเดาะ สะมาแอ ผู้ฟ้องคดี เนื่องจากไม่เชื่อว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นตามร่างกายของนาย อัสฮารีจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ถูกทำร้ายร่างกายและเกิดขึ้นในขณะเจ้าหน้าที่จับกุมและควบคุมตัว และเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำสั่งให้กอ.รมน.ซึ่งสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีชดใช้ค่าเสียหายแก่มารดาของนายอัสฮารี เป็นเงินกว่า 500,000 บาท แต่สำนักนายกรัฐมนตรีอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองสงขลา ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด