Skip to main content
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
เผยแพร่วันที่  23  กรกฎาคม 2555
 
ศาลมีคำสั่งรับฎีกาคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งไต่สวนการตาย
กรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่อำเภอตากใบ
 
            เมื่อวันที่  6  ก.ค. 55  ทนายความของญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส  จำนวน  34 คน ได้ยื่นฎีกาต่อศาลอาญา  ขอให้เพิกถอนคำสั่งไต่สวนการตายกรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมพื้นที่อำเภอตากใบของศาลจังหวัดสงขลา  เนื่องจากเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  ศาลอาญามีคำสั่งรับฎีกาและให้ส่งฎีกาให้ศาลฎีกาพิจารณาต่อไป
 
คดีนี้สืบเนื่องจากญาติผู้ตายทั้ง 34 คน  ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งไต่สวนการตายกรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่อำเภอตากใบของศาลจังหวัดสงขลา ศาลอาญามีคำสั่งไม่รับคำร้อง  ผู้ร้องซึ่งเป็นญาติผู้ตายทั้ง 34 คน  จึงได้ยื่นอุทธรณ์  ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.55  ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญา  เนื่องจากเห็นว่าศาลจังหวัดสงขลารับคดีไว้และทำการพิจารณาพิพากษาไปแล้ว  ศาลอาญาจึงไม่อาจรับคดีไว้พิจารณาอีก  เป็นการต้องห้ามตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 15
 
ผู้ร้องจึงได้ยื่นฎีกาโดยให้เหตุผลว่าคำร้องของผู้ร้องมีวัตถุประสงค์ว่าคำสั่งของศาลจังหวัดสงขลานั้น  ไม่ถูกต้องไม่เป็นธรรมขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว การยื่นคำร้องของผู้ร้องในคดีนี้ไม่ใช่คดีที่ศาลจังหวัดสงขลารับไว้พิจารณาแล้ว  ซึ่งต้องห้ามตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 15  แต่เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย   ที่ผู้ร้องสามารถใช้สิทธิทางศาลได้โดยตรง และเมื่อไม่มีศาลใดมีเขตอำนาจเฉพาะ  จึงต้องยื่นต่อศาลที่มีเขตอำนาจทั่วไป คือศาลอาญา เพราะศาลอาญามีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงได้ทั่วราชอาณาจักร
 
คำสั่งไต่สวนการตายของศาลจังหวัดสงขลากรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม อำเภอตากใบในคดีหมายเลขดำที่ ช.16/2548  คดีหมายเลขแดงที่  ช.8 /2552  ที่ว่าผู้ตายทั้งหมดเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ  โดยไม่กล่าวถึงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย  กล่าวคือ  ไม่ระบุข้อเท็จจริงเรื่องที่ผู้ถูกควบคุมตัวจำนวน  78  คน  ถูกบังคับให้ถอดเสื้อและมัดมือไขว้หลัง  บังคับให้นอนคว่ำหน้ากับพื้นรถยนต์บรรทุก  ทับซ้อนกันเป็นชั้น  ประมาณ  4-5  ชั้น และไม่ระบุชื่อบุคคลผู้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติตามคำสั่ง ซึ่งเป็นผู้สั่งการหรือกระทำการอันเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย  ซึ่งจากคำให้การของประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุจำนวนมาก และพยานหลักฐานต่าง ๆ ในสำนวนได้ปรากฏข้อเท็จจริงทั้งหมดอย่างชัดแจ้ง  รวมตลอดถึงข้อเท็จจริงสำคัญอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมผู้ร่วมชุมนุม  และนำตัวไปที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร  โดยไม่คำนึงถึงหลักนิติธรรม  ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์   สิทธิและเสรีภาพของผู้ถูกควบคุมตัวแต่อย่างใด  คำสั่งของศาลจังหวัดสงขลาย่อมกระทบต่อสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของผู้ตาย และญาติผู้ตาย  ซึ่งได้รับการรับร้องไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย   ขัดกับบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 และบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  จึงสมควรถูกเพิกถอนและมีคำสั่งใหม่ที่เป็นธรรม
 
โดยในตอนท้ายของฎีกา  ผู้ร้องได้ระบุด้วยว่า  คำสั่งของศาลจังหวัดสงขลาที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย  ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่ต้องรับผิดในการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและสิทธิมนุษยชนแต่ประการใด และอาจเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคล โดยการปฏิบัติที่ทารุณ โหดร้าย  และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า