Skip to main content
 
 
แถลงการณ์
สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
เรื่อง การจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้”
 
***************************
 
            ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรัฐบาลมีแนวคิดจะจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้” ขึ้นที่กรุงเทพ โดยรวมหน่วยงานทั้ง ๑๖ กระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งงานความมั่นคงและงานการพัฒนา และมีแนวคิดที่จะให้กองทัพภาค ๔ เป็นผู้กำกับดูแลฝ่ายพลเรือนทุกเรื่อง รวมทั้ง ศอ.บต. ทั้ง ๆ ที่มี พ.ร.บ. การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.๒๕๕๓ อยู่แล้ว
 
            สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นว่าในระยะเวลา ๘ ปี ที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มากมาย เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ แต่ผลงานไม่เป็นที่ประจักษ์ ว่าสามารถแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ได้ และจากการฟังเสียงประชาชนในพื้นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ และเริ่มขาดความเชื่อมั่นต่อนโยบายของกองทัพในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการประชุมเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๕ มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของรัฐบาลที่จะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเหตุผลประกอบดังนี้
 
            ๑. นโยบายการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.๒๕๕๕ ๒๕๕๗ ได้ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม การรับฟัง และสะท้อนความเห็นจากภาคประชาชนกับภาครัฐ โดยมีสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ และเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยได้แยกงานระหว่างฝ่ายความมั่นคงที่มี พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.๒๕๕๑ กับงานด้านการพัฒนาฝ่ายผลเรือน ที่มี พ.ร.บ. การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.๒๕๕๓ไว้อย่างชัดเจน และดำเนินยุทธศาสตร์สอดคล้องกับนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคณะรัฐมนตรีและสภาผู้แทนราษฎรรับทราบแล้ว จึงเห็นว่ารัฐบาลควรบริหารราชการแผ่นดินให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว
 
            ๒. ไม่เห็นด้วยในการมอบหมายให้แม่ทัพภาค ๔ เป็นผู้กำกับดูแลกิจการในพื้นที่ครอบคลุม ไปถึงกิจการฝ่ายผลเรือนและการอำนวยความยุติธรรม โดยแยกงานการพัฒนาและความมั่นคงออกจากกันเห็นว่าภารกิจของกองทัพมีมากอยู่แล้วควรเน้นการรักษาอธิปไตย และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐให้มากยิ่งขึ้น
 
            ๓. คณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓  น่าจะเป็นศูนย์ปฏิบัติการที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะต้องผลักดันให้กระทรวงต่าง ๆ มีความเข้มแข็งทั้งกำลังคนและงบประมาณ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการรักษาความสงบภายใน รวมทั้งการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ประกอบกับพ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.๒๕๕๓ มีเจตนารมณ์หลักในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมการแก้ปัญหา จึงควรรับฟังเสียงจากประชาชนเจ้าของพื้นที่ ไม่ใช่เป็นการพิจารณาและสั่งการมาจากส่วนกลางอย่างเดียว
 
            ๔. ในกรณีมีการกล่าวอ้างว่า การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมี พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติซ้ำซ้อนกันอยู่ ขอเรียนว่า พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน มาอย่างกว้างขวาง และผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภามาแล้ว เพราะฉะนั้น พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงไม่ได้ซ้ำซ้อนกับพ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจาก พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติรับผิดชอบในด้านการดูแลรักษาความสงบและอธิปไตยของชาติ ส่วน พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ รับผิดชอบเรื่องการเมืองการปกครองและการพัฒนา จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ในทางกลับกันยังเป็นการหนุนเสริม พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติอีกด้วย อีกทั้งประชาชนค่อนข้างพึงพอใจกับการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
            ดังนั้น สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมาจากภาคประชาชน จึงแสดงจุดยืนมายังรัฐบาล เพื่อโปรดพิจารณา                                             
 
สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
วันที่ ๖  สิงหาคม  ๒๕๕๕