แถลงการณ์สภาประชาสังคมชายแดนใต้
ฉบับที่ 6 / 2555
เรื่อง จุดยืนของสภาประชาสังคมชายแดนใต้
ต่อสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้
สืบเนื่องจากเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีลักษณะสยดสยองและไร้มนุษยธรรมต่อพี่น้องประชาชนและบุคลากรทางการศึกษาอย่างถึงที่สุด จนทำให้สังคมทั่วไปหวั่นวิตกว่าการต่อสู้เพื่อบรรลุเป้าหมายตามอุดมการณ์ของแต่ละกลุ่มในอนาคตจะใช้ความรู้สึกเคียดแค้นชิงชัง ป่าเถื่อนสยดสยองไร้มนุษยธรรมแทนเหตุผลและสติปัญญากันมากยิ่งขึ้น
เพื่อเป็นการยืนยันว่าสติปัญญาและเหตุผลเชิงสร้างสรรค์ที่เปี่ยมไปด้วยความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันยังคงเป็นวิถีทางที่ถูกต้องเหมาะสมต่อการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นปัญหาทางการเมือง สภาประชาสังคมชายแดนใต้จึงขอประกาศท่าทีจุดยืนสนับสนุนการแก้ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ดังนี้
1. เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ ดังต่อไปนี้
1.1 ยกระดับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติ
1.2 ยึดถือนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ปี 2555 – 2557 เป็นแนวทางหลักในการแก้ปัญหา
1.3 ผลักดันกระบวนการสันติภาพให้จริงจังและต่อเนื่อง
1.4 ขยายประชาธิปไตยสู่ประชาชนโดยการกระจายอำนาจให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสังคมของตนเองให้มากขึ้น
1.5 สร้างความเป็นเอกภาพในการทำงานของกลไกรัฐทุกระดับ ทุกสังกัด ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
1.6 เร่งรัดให้คดีความมั่นคงทุกคดีดำเนินไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ตามกระบวนการยุติธรรม
1.7 แก้ไขไม่ให้การบริหารราชการแผ่นดินทุกกระทรวงทบวงกรม มีลักษณะไปกดทับอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ความเชื่อและวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ทุกเชื้อชาติและศาสนา
1.8 ดูแลอย่างเข้มงวดมิให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ว่ากรณีใดๆ
2. เราขอเรียกร้องให้ขบวนการแบ่งแยกดินแดนซึ่งปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังต่อไปนี้
2.1 พึงตระหนักว่าการก่อสงครามที่มีลักษณะเหี้ยมโหดสยดสยองไร้มนุษยธรรมไม่แยกแยะเป้าหมายว่าเป็นผู้ถืออาวุธหรือไม่ อีกทั้งยังกระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไร้ขอบเขตนั้น เป็นการก่อสงครามที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในระยะยาว การต่อสู้ที่เริ่มต้นจากอุดมการณ์เพื่อสังคมของชาวมลายูปาตานีก็จะค่อยๆ กลายเป็นอาชญากรรมที่น่ารังเกียจไปในที่สุด
2.2 พึงตระหนักว่าสิทธิในการปกครองตนเองกับการดำรงไว้ซึ่งบูรณภาพแห่งดินแดนและอำนาจอธิปไตยของรัฐไทยนั้น สามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้ ฝ่ายขบวนการแบ่งแยก ดินแดนควรร่วมมือกับทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการสันติภาพเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง และ มุ่งสู่เป้าหมายตามอุดมการณ์อย่างสันติวิธี
3. เราขอเรียกร้องต่อประชาชนชาวไทยทุกภาคส่วน ทุกเชื้อชาติและทุกศาสนาทั่วประเทศ ดังต่อไปนี้
3.1 ร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้
3.2 คัดค้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งและสนับสนุนการแก้ปัญหาด้วยสันติวีธีในทุกช่องทาง
4. เราขอเรียกร้องต่อพี่น้องเพื่อนครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทุกสังกัด ทุกระดับ ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังต่อไปนี้
4.1 ได้ช่วยกันเสริมขวัญและกำลังใจตนเองให้เข้มแข็งสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียว ยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคที่ถึงเลือดถึงเนื้อนี้ เพื่อการศึกษาของลูกหลานพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเด็ดเดี่ยว
4.2 ให้พี่น้องเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่านได้ใช้ความวิริยะอุตสาหะในระดับสูงสุด เพื่อทำโรงเรียนที่ตนเองปฏิบัติงานให้เป็นโรงเรียนของชุมชน เพราะเราเชื่อว่ามีแต่วิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถสร้างความปลอดภัยแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างยั่งยืน
5. สภาประชาสังคมชายแดนใต้ขอคัดค้านการใช้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ตลอดถึงครูและบุคลากรทางการ ศึกษาเป็นเหยื่อในการบรรลุเป้าหมายทางการเมืองของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐหรือฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดน
6. สภาประชาสังคมชายแดนใต้ขอยืนยันการเป็นพื้นที่กลางให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็น เราเคารพในความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ขอเพียงให้มีเจตนาเพื่อประโยชน์สุขของสังคมโดยส่วนรวมและขอยืนยันว่าจะร่วมกับทุกฝ่ายขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพต่อไป
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ
ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้
18 ธันวาคม 2555