กษมา จิตร์ภิรมย์ศรี
บทนำ
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)ได้จัด ”การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในจังหวัดชายแดนใต้ รุ่นที่ 4” ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี จังหวัดปัตตานี ในวันที่ 19 - 23 พฤษภาคม 2556 เพื่อการสร้างความเข้าใจ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านใน3จังหวัดชายแดนใต้ กับ กระบวนการสันติภาพที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมกับเตรียมความพร้อมในบทบาทของกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่จะเป็นตัวแสดงที่มีส่วนสำคัญในการสร้างสันติภาพในพื้นที่
บทความฉบับนี้จะกล่าวถึงการอบรมเชิงปฏิบัติการที่ทำโดย ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี และคณะวิทยากรจากสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ดำเนินการอบรมในหัวข้อ “กระบวนการแก้ไขปัญหาในทางสันติวิธี” ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 แบ่งการอบรมเชิงปฏิบัติการเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก ผศ.ดร.ศรีสมภพ จะเป็นการบรรยายความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่ง ผศ.ดร. ศรีสมภพได้นำเสนอเรื่องสถิติความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่กลุ่มบุคคลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ สถิติเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมกันการวิเคราะห์แนวโน้มของเหตุการณ์ที่จะเป็นไปในอนาคต และสถิติความเชื่อมั่นในกระบวนการสันติภาพ (คลิกอ่านบทวิเคราะห์สถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้) ช่วงถัดมาจะเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการเชิงปฏิบัติการระดมความคิดเห็นของผู้ใหญ่บ้านในรุ่นที่ 4 มาจากอำเภอ หนองจิก, ยะรัง, กะพ้อ และปะนาเระ โดยจะแบ่งความคิดเห็นในรูปแบบคำถามเชิงทัศนคติที่ถามถึง ความคาดหวัง, ความกังวล และบทบาทของกำนันผู้ใหญ่บ้านที่มีต่อกระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนใต้
บทความฉบับนี้จะแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อย่อย โดยจะมี บทนำ, บทสะท้อนความคิดเห็นจากกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในรุ่นที่4, ข้อสังเกตที่เกิดขึ้นในระหว่างอบรมปฏิบัติการ และ บทสรุปของบทความ ซึ่งจะแสดงถึงจุดยืนของบทบาทกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในสถานการณ์ขัดแย้งและกระบวนการสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแสดงที่บทบาทสำคัญใน Track ที่ 3 รวมไปถึงบทบาทในการเชื่อมต่อกับ Trackที่1 และ Trackที่2 ในกระบวนสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้ที่เริ่มการพูดคุยสันติภาพไปแล้วในวันที่ 28 มีนาคม 2556 และ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 29 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา
บทสะท้อนความคิดเห็นจากกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในรุ่นที่4
หลังจากจบการบรรยายจาก ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ก็เข้าสู่การอบรมเชิงปฏิบัติการ นำโดย มูฮำมัดอายุบ ปาทาน และ คณะวิทยากรจากศูนย์วิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ การอบรบเชิงปฏิบัติการณ์นี้ได้แบ่งผู้เข้าร่วมที่เป็นกำนันผู้ใหญ่เป็นกลุ่มย่อยเพื่อให้เกิดการพูดคุยระหว่างกันในกลุ่มภายใต้ประเด็นคำถามดังนี้
1. ท่านมีความคาดหวังอะไรต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้
2. ท่านมีความกังวลอะไรต่อกระบวนการสันติภาพ
3. ในฐานะกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ท่านจะทำอะไรให้กับกระบวนการสันติภาพได้บ้าง
ประเด็นคำถามนี้ได้นำกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเข้าสู่การระดมความคิดเห็นกันภายในกลุ่มตนเองพร้อมกับการนำเสนอและอภิปรายความคิดเห็นของกลุ่มตนเองให้ทุกกลุ่มฟัง
ความคาดหวังต่อกระบวนการสันติภาพ
ประเด็นคำถามแรก กำนัน-ผู้ใหญ่ความคาดหวังอะไรต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการแบ่งกลุ่มย่อยระดมความคิดเห็น 9 กลุ่ม ได้ความคิดเห็นดังนี้
· เกิดความเข้าใจในทุกเรื่อง
· อยากให้หน่วยงานทหารในพื้นที่ที่มาจากต่างจังหวัดกลับฐานของตนเองใน3จังหวัด4อำเภอ
· อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐให้ความไว้วางใจและมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา
· ต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาพูดความจริง
· ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในกระบวนการสันติภาพ
· ให้ยุติความรุนแรง
· ให้ยุติความรุนแรง
· พุทธ+มุสลิมยอมรับในกระบวนการสันติภาพ
· รัฐจะยอมรับเงื่อนไขของฝ่ายตรงข้าม – ฝ่ายตรงข้ามยอมรับเงื่อไขของรัฐบาลไทย
· ประชาชนระดับในรากหญ้ายอมรับในกระบวนการเจรจา
· เหตุการณ์ความไม่สงบจะยุติ
· อยากเห็นชายแดนใต้สงบสุขเหมือน 10 ถึง 20 ปีที่แล้ว อยากให้อดีตกลับคืนมา (อยากมีวิถีชีวิตแบบดั่งเดิม) อยากเห็นภาพในอดีตกลับมาอีกครั้ง
· เกิดความปกติสุขในทุกด้านที่มนุษย์ควรจะมี
· อยากเห็นสันติสุขคืนกลับมา
· ยุติความรุนแรง
· การเจรจาที่ผ่านมา เป็นการเริ่มต้นที่ดี หลายๆประเทศประสบความสำเร็จแล้ว อย่าง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย
· การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีปัญหา
ความกังวลต่อกระบวนการสันติภาพ
ประเด็นคำถามที่ 2 กำนัน-ผู้ใหญ่มีความกังวลอะไรต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการแบ่งกลุ่มย่อยระดมความคิดเห็น ได้ความคิดเห็นดังนี้
· กลัวเหตุการณ์จะบานปลาย เมื่อเจรจาไม่สำเร็จ ในภาพหรือกระแสที่ออกมา มันอาจจะบ่งบอกได้ว่า (จะสงบหรือปานปลาย)
· การไม่สิ้นสุดของกระบวนการสันติภาพ
· เจ้าหน้าที่รัฐไม่ไว้วางใจต่อกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน
· เมื่อเจรจาไม่สำเร็จฝ่ายทหารอาจจะกลับเข้าเป็นฝ่าย BRN เพราะทหารชั้นผู้น้อยจะสับสน
· ให้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
· เราถูกหลอกหรือเปล่า
· กลัวเรื่องผลประโยชน์ เรื่องงบประมาณที่ลงมา3จังหวัดชายแดนใต้
· วันหนึ่งถ้ามีการลดกำลังทหารในพื้นที่ พวกเราจะทำอย่างไร?
· กังวลว่าความสันติสุขจะเป็นช่องทางของนักธุรกิจ
· ปัญหาความรุนแรงจะไม่ยุติ
· กังวลว่าบางปัญหาอาจจะไม่สามารถแก้ให้หมดไปได้ (อย่างเช่นปัญหายาเสพติด)
· อำนาจและผลประโยชน์ในพื้นที่
บทบาทของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านต่อกระบวนการสันติภาพ
ประเด็นคำถามที่ 3 กำนันในฐานะกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ท่านจะทำอะไรให้กับกระบวนการสันติภาพได้บ้างจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการแบ่งกลุ่มย่อยระดมความคิดเห็น ได้ความคิดเห็นดังนี้
· เป็นสื่อกลางระหว่างรัฐกับชาวบ้าน
· สร้างความเข้าใจให้คนในชุมชน
· ช่วยสื่อสารให้กับกระบวนสันติภาพในชุมชน
· หากทราบแนวทางและจุดหมายที่ชัดเจนของการเจรจาแล้ว จะได้ช่วยประสานและให้ข้อมูลชาวบ้าน
· สร้างความรักและความสามัคคีให้เกิดแก่หมู่บ้านและชุมชน
· ให้เจ้าหน้าที่ไว้วางใจกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน
· เป็นสื่อกลางในการแก้ไขปัญหา
· สนับสนุนส่งเสริมการศึกษาโดยการร่วมมือกับรัฐ
· ร่วมมือกับเป็น4เสา
· ขอให้มีความยุติธรรมระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนและให้เกียรติกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีทางรู้ดีเท่าเจ้าของบ้านที่แท้จริง
จากความคิดเห็นของแต่ละกลุ่ม ทางคณะวิทยากรได้ทำการจัดหมวดหมู่และทำรวมกลุ่มความคิดเห็นที่คล้ายกันจากการนำเสนอของทุกกลุ่มในแต่ละประเด็นคำถามข้างต้น เป็นหัวข้อย่อยในแต่ละประเด็นคำถาม เพื่อนำสู่กระบวนให้ผู้เข้าร่วมทุกคนได้ลงความเห็นร่วมกันว่า หัวข้อย่อยในแต่ละประเด็นอย่าง ความคาดหวัง, ความกังวล, และ บทบาทกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านต่อกระบวนการสันติภาพในหัวข้อย่อยใดควรจะเป็นหัวข้อที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดในกระบวนการสันติภาพที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ผลการลงคะแนนมีดังนี้
ความคาดหวังต่อกระบวนการสันติภาพ
1 |
ยุติความรุนแรง-สันติสุขกลับคืนสู่ชุมชน |
40 |
2 |
รัฐ-เจ้าหน้าที่รัฐ เข้าใจและจริงใจต่อการแก้ไขปัญหา |
3 |
3 |
ต้องการมีส่วนร่วมในกระบวนการสันติภาพ |
2 |
4 |
กระบวนการสันติภาพเป็นไปได้อย่างราบรื่น |
1 |
จากการลงคะแนนของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสิ่งที่สะท้อนว่า สิ่งที่กำนัน-ผู้ใหญ่คาดหวังมากที่สุดในกระบวนการสันติภาพก็คือ การยุติความรุนแรง-สันติสุขกลับคืนสู่ชุมชน มีความคิดเห็นของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งลุกขึ้นมาสะท้อนว่าในประเด็นนี้ว่า “ถ้าเป็นไปได้ขอให้ขบวนการไม่ให้ใช้ระเบิดในการก่อเหตุได้หรือไม่? เพราะว่ามีโอกาสสูงที่ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์จะโดนลูกหลงจากระเบิดลูกนั้น ถ้าจะใช้ก็ให้ใช้แค่ปืนก็พอ” เสียงสะท้อนนี้เป็นเสียงที่มาจากชาวบ้านที่มีความชอบธรรมในการดำรงชีวิตในพื้นที่และเป็นผู้ที่ได้ผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงมากที่สุด ดังนั้นอย่างน้อยกำนัน-ผู้ใหญ่ผู้ซึ่งเป็นตัวแทนของชาวบ้านในชุมชนมีความชอบธรรมที่จะสะท้อนความคิดเห็นนี้ไปสู่ BRN นอกจากที่สะท้อน ความคิดเห็นอันดับที่ 2 ไปสู่เจ้าหน้ารัฐในพื้นที่ให้จริงใจในการแก้ไขปัญหา และแก้ไขด้วยความเข้าใจต่อพื้นที่ ส่วนอันดับ 3 เป็นการสะท้อนความต้องการที่จะมีส่วนร่วมที่จะกำหนดชะตากรรมในพื้นที่ตัวเองในกระบวนการเจรจา และ อันดับที่ 4 เป็นความคาดหวังที่อยากให้กระบวนการสันติภาพดำเนินไปได้อย่างราบรื่นเพื่อส่งผลให้พื้นที่กลับคืนสู่ความสงบสุขและสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
ความกังวลต่อกระบวนการสันติภาพ
1 |
ความรุนแรงไม่ยุติ/บานปลาย |
31 |
2 |
สถานการณ์เป็นช่องทางผลประโยชน์ (อำนาจ+งบ) |
13 |
3 |
เจ้าหน้าที่รัฐไม่ไว้วางใจกำนัน |
2 |
4 |
แนวทางปฏิบัติงานของทหาร+เจ้าหน้าที่ความมั่นคง |
1 |
5 |
กระบวนการสันติภาพเจรจาไม่สำเร็จ |
0 |
5 |
การดูแลรักษาความปลอดภัยหากมีการถอนทหารออกไป |
0 |
ความกังวลต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเห็นเป็นเรื่องสำคัญที่สุดคือความรุนแรงไม่ยุติและเหตุการณ์บานปลายมากขึ้น มีผู้ใหญ่บ้านในการอบรมแสดงความคิดเห็นว่า“กังวลว่าการเจรจากับระหว่างตัวแทนรัฐกับตัวแทนขบวนการ BRN จะตกลงกันไม่ได้ สมมติว่าข้อตกลงทั้ง 2 ฝ่ายมี 10 ข้อ ตกลงกันได้แค่ 7 ข้อ และการที่ตกลงกันไม่ได้อีก 3 ข้อจะเป็นต้นต่อของความรุนแรงที่บานปลายมากขึ้นกว่าปัจจุบันนี้” ความคิดเห็นนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนความกังวลในเรื่องความรุนแรงไม่ยุติ/บานปลายออกมาได้ชัดเจนที่สุด
สถานการณ์เป็นช่องทางผลประโยชน์ (อำนาจ+งบ) ที่เป็นอันดับ 2 ได้มีผู้ใหญ่บ้านแสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ตนเองอยากให้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้สงบลงเพื่อตนเองและชาวบ้านจะได้ทำมาหากินได้ แต่เท่าที่ตนเองสังเกตแล้ว เหมือนกับว่าทหารไม่อยากให้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้จบ แถมยังมีเรื่องปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนในพื้นที่ เรื่องผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ปัญหาส่วนตัวในท้องถิ่นมีการฆาตกรรมกันแล้วมีผนวกรวมเข้ากับเหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้”
เจ้าหน้าที่รัฐไม่ไว้วางใจกำนัน เป็นอันดับ 3 เป็นความเห็นที่เหมือนเวทีครั้งที่ 3 (คลิกอ่าน เสียงสะท้อนในการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพ รุ่นที่ 3) แสดงให้เห็นชัดว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่มีการปฏิสัมพันธ์กับทางชุมชนอย่างเป็นประจำ ไม่มีความไว้วางใจในกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ที่เป็นตัวแสดงที่สำคัญและเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อ ประชาชนรากหญ้า กับเจ้าหน้าที่รัฐและภาคประชาสังคมในกระบวนการพูดคุยสันติภาพในระดับ Track 3
มีประเด็นที่มีความน่าสนใจมาก 2 ข้อที่ไม่ถูกเลือกคือความกังวลต่อกระบวนการสันติภาพ/เจรจาไม่สำเร็จ และการดูแลรักษาความปลอดภัยหากมีการถอนทหารออกไป สองข้อนี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเพราะว่า ถ้าหากกระบวนการสันติภาพไม่สำเร็จ และ มีการถอนทหารออกไปจากพื้นที่ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านสามารถดูแลรักษาความปลอดภัยได้ด้วยตนเองหรือไม่? แต่การที่ไม่มีการลงคะแนน อาจจะเป็นคำตอบอยู่ในตัวเองอยู่แล้วก็เป็นได้ ว่าทางกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ไม่มีความกังวลในการดูแลรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านด้วยตนเอง ถึงแม้ว่าจะกระบวนการสันติภาพจะไม่ประสบผลสำเร็จก็ตาม เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความสามารถจัดการและการดูแลตนเองในพื้นที่ของตน โดนไม่จำเป็นต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐในการคุ้มครองความปลอดภัยในพื้นที่ของตนเอง
บทบาทของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านต่อกระบวนการสันติภาพ
1 |
เป็นสื่อกลางระหว่างรัฐ-ชาวบ้าน |
31 |
2 |
มีส่วนร่วมในการเจรจา |
7 |
3 |
พัฒนาและยกคุณภาพชีวิตร่วมกับ4เสาหลัก |
4 |
4 |
สร้างความไว้วางใจ-ให้เกียรติกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน |
3 |
บทบาทของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านต่อกระบวนการสันติภาพที่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านให้ความเห็นว่าสำคัญที่สุดในกระบวนการสันติภาพก็คือ เป็นสื่อกลางระหว่างรัฐ-ชาวบ้านซึ่งบทบาทนี้เป็นบทบาทสำคัญของกำนัน-ผู้ใหญ่ในการทำกระบวนการพูดคุยใน Trackที่ 3 เป็นการสร้างบรรยากาศเตรียมพร้อมกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้และจะเป็นการสร้างตาข่ายนิรภัย ในกรณีการพูดคุยกระบวนการสันติภาพใน Track 1ล้มเหลวหรือประสบอุปสรรคไม่สามารถไปต่อได้
เป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นมากว่าการอบรมในรุ่นที่ 4 นี้ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านค่อนข้างเข้าในบทบาทและตำแหน่งแห่งที่ของตนเองในกระบวนการสันติภาพที่เกิดขึ้นในพื้นที่ มีความเป็นไปได้ว่า กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในรุ่นนี้เป็นกำนัน-ผู้ใหญ่ที่มาจากพื้นที่สีแดงเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดีและสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในการอบรมปฏิบัติการครั้งนี้
ข้อสังเกตที่เกิดขึ้นในระหว่างอบรมปฏิบัติการ
ข้อสังเกตนี้มาจากการแสดงความคิดเห็นของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในการอบรมเชิงปฏิบัติการ การแสดงความคิดเห็นของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในรุ่นที่ 4 นี้ได้แสดงถึงความความคาดหวัง ความกังวล และ บทบาทของตนเองที่ได้ทำในช่วงก่อนการเริ่มต้นการมีกระบวนการสันติภาพ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจมากก็คือ บางบทบาทที่กำนันผู้ใหญ่บ้านได้ทำลงไปโดยธรรมชาติ หรือ ตามความรู้สึกของตน กลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการบวนการสันติภาพ อย่างเช่น การพูดคุยกับคนที่คิดเห็นต่างในชุมชนของตนเอง แล้วทำให้คนที่คิดเห็นต่างเชื่อใจแล้วเป็นพวกเดียวกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน โดยแท้จริงแล้วกระบวนการนี้ก็คือ “กระบวนการพูดคุยสันติภาพ” นี่เป็นสิ่งที่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านได้กระทำโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นบทบาทของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จึงมีบทบาทสำคัญมากในกระบวนการสันติภาพใน Trackที่ 3
ผู้ใหญ่บ้านคนนั้นได้แสดงความคิดเห็นต่ออีกว่า “หลายครั้งที่ผู้ใหญ่บ้านพูดคุยจนสามารถทำให้คนคิดต่างเข้าใจและมาเป็นพวกผู้ใหญ่บ้านสำเร็จแล้ว แต่ทหารยังไม่หยุดพฤติกรรมตรวจค้นบ้านของชาวบ้านคนนั้น แถมเป็นการตรวจค้นยามวิกาลในช่วงเวลา 1 นาฬิกา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง แถมยังทำให้งานการเมืองของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเสียหาย” นี้เป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาว่า งานทางการทหารและงานทางการเมืองในพื้นที่ไม่ได้กระทำการอย่างสอดคล้องกัน
ผู้ใหญ่บ้านคนเดิมได้เพิ่มเติมอีกด้วยว่า “ตนเองอยากทำเวทีในหมู่บ้านสำหรับพูดคุยกับคนที่คิดเห็นต่าง แต่ไม่มีทุนทรัพย์ แล้วเห็นว่าได้มีโครงการตำบลสันติธรรม[1] ตนเองเลยยื่นโครงการเพื่อขอรับทุนทำเวทีพูดคุยกับคนเห็นต่างในหมู่บ้านตนเอง แต่หน่วยงานบางหน่วยบอกเรื่องที่ผู้ใหญ่บ้านจะทำเป็นเรื่องที่เกินกำลังของผู้ใหญ่บ้าน” จะเห็นได้ว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ใช้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในชุมชนเป็นสื่อกลางในการดำเนินโครงการ แต่กลับบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกินกำลังของกำนัน-ผู้ใหญ่ในการที่จะจัดทำ จึงเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งมากในการในดำเนินโครงการนี้ที่ต้องการกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแสดงที่สำคัญในโครงการ และเป็นการมองข้ามศักยภาพของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในการดำเนินการกระบวนการพูดคุยในระดับรากหญ้า
การแสดงความคิดเห็นในประเด็นความกังวลของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ยังมีอีกหลายความเห็นเช่น “การเจรจามีมาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ยุค นายอานันท์ ปันยารชุนเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็ไม่สำเร็จ ทำให้การเจรจาครั้งนี้ไม่มั่นใจว่าจะสำเร็จ เหมือนกับเป็นภาพประทับในครั้งก่อนๆในอดีตที่ไม่สำเร็จเช่นกัน”, “มีความกังวลว่า การเจรจาครั้งนี้สามารถควบคุมเหตุการณ์ได้จริงหรือเปล่า? ตัวแทน BRNที่มาเจรจาด้วยมาจากไหน? การเจรจาผิดคนก็เหมือนกับหารเกาไม่ถูกจุดที่คัน และการตั้งคำถามทีแสดงถึงความกังวลเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้ต้องมาพิจารณา ถึงการมีส่วนร่วมของชาวบ้านต่อกระบวนการสันติภาพ และ ข้อเรียกร้องที่มาจากสิทธิอันชอบธรรมของชาวบ้านในพื้นที่
ข้อสังเกตที่สำคัญที่สุดของเวทีนี้คือ “พื้นที่ปลอดภัย” ที่จะทำการพูดคุยกัน การพูดคุยนี้รวมไปถึงการทำประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย ผู้ใหญ่บ้านที่เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ บางคนเวลาแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดแต่สุดท้ายก็ต้องตัดบทการแสดงความคิดเห็นของเขาเองด้วยความไม่มั่นใจในความปลอดภัยในเวที และความไม่ปลอดภัยในชีวิตของเขาเมื่อกลับไปสู่หมู่บ้าน ประเด็นพื้นที่ปลอดภัยเป็นประเด็นที่สำคัญมากในกระบวนการพูดคุยสันติภาพ เพราะพื้นที่การพูดคุยกับคนที่เห็นต่างกันเราต้องมีการสงวนพื้นที่ปลอดภัยไว้สำหรับการพูดคุยและพื้นที่นี้ต้องเกิดจากการไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันทั้งสองฝ่าย เพราะฉะนั้นประเด็นพื้นที่ปลอดภัยจึงเป็นประเด็นที่ทำให้การอบรมเชิงปฏิบัติการไม่สามารถถกเถียงกันได้อย่างตกผลึกได้อย่างเท่าที่ควร
บทสรุป
โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการนี้เป็นการฝึกอบรมที่เป็นการเตรียมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านให้พร้อมสำหรับกระบวนการสันติภาพที่กำลังดำเนินอยู่ ให้ตระหนักถึงบทบาทของ และตำแหน่งแห่งที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้านในกระบวนการสันติภาพ เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านมีความสำคัญมากต่อกระบวนการสันติภาพที่ดำเนินอยู่และต่อไปในอนาคต กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดกระบวนการพูดคุยภายในประชาชนระดับรากหญ้า (Track 3) ในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นตาข่ายนิรภัย ที่ช่วยโอบอุ้มกระบวนการสันติภาพใน Track 1 (ตัวแทนรัฐไทยกับตัวแทน BRN) โดยทำการพูดคุยคู่ขนานในTrack 2 กับ 3 ควบคู่กันไป โดยมีข้อเสนอหรือข้อเรียกร้องที่มาจากประชาชนในพื้นที่ ในกรณีการพูดคุยล้มเหลวหรือประสบอุปสรรคไม่สามารถไปต่อได้ ในกรณีประสบปัญหาเช่นนั้น กระบวนการสันติภาพใน Track 1 สามารถนำข้อเสนอที่ Track 2-3 ที่ได้ทำกระบวนการคู่ขนานมาใช้หรือนำมาประกอบการตัดสินใจได้ทันท่วงที (คลิกอ่านเรื่องตาข่ายนิรภัย) เพราะฉะนั้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านให้ทราบถึงกระบวนการสันติภาพจึงสิ่งที่จำเป็นและได้รับการหนุนเสริมทั้งจากทางรัฐและองค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่ เพื่อเป็นการหนุนเสริมกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้ในภาพรวมที่ได้ดำเนินอยู่ในขณะนี้
[1] โครงการนี้ได้จัดขึ้นตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2555-2557 ในยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชนในการร่วมสร้างสันติสุขเพื่อดึงพลังครอบครัวและพลังมวลชนให้เป็นสื่อกลางผ่านผู้นำหมู่บ้านและผู้นำชุมชนในการร่วมกันสร้างความปลอดภัยและความรัก ความสามัคคีให้ชุมชนมีความเข้มแข็งขึ้น จึงได้กำหนดเป้าหมายหลัก คือ การลดเหตุการณ์ความไม่สงบหรือความสูญเสียในพื้นที่หมู่บ้านตำบลที่ภาคประชาชนเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ โดยมีสถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการทำงานในลักษณะพหุภาคีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในหมู่บ้านและตำบล ที่มา เวบไซต์ สถานีวิทยุม.อ. http://psu10725.com/joomla/index.php?view=article&catid=36%3A2011-06-18-10-54-39&id=254%3A2012-10-26-06-22-26&option=com_content&Itemid=71