แนวทางการปลูกฝังให้เยาวชนเป็นมุสลิมที่ดี :
2. ลูกต้องคบเพื่อนที่ดี และมีคุณธรรม
บุรฮานุดดิน อุเซ็ง
“คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
เด็กๆและเยาวชนที่รัก สำนวนคำพังเพย ที่เราคุ้นเคย สอนเราให้เห็นถึงลักษณะผลของการคบเพื่อน และเป็นการเตือนให้พึงตระหนักว่า เพื่อนนั้นเป็นผู้ชักนำ ดึงตัวเราให้เป็นไปตามลักษณะตัวตนของเพื่อนหรือกลุ่มเพื่อนที่เราคบกันนั้นเอง
การคบเพื่อนนั้นลูกต้องให้ความสำคัญในการเลือกเพื่อน เลือกคนดี เป็นผู้ที่มีอิหม่าน(1) เป็นผู้ที่มีความศรัทธา เป็นผู้ที่มีคุณธรรม หรือการคบเพื่อนหรือกลุ่มเพื่อนที่ล้วนเป็นคนดี หรือ เป็นผู้ที่มีความศรัทธา เช่นหากในกลุ่มเพื่อนที่เราคบเป็นเด็กรักการเรียนหรือกลุ่มเด็กขยันเรียน หรือกลุ่มเด็กๆที่ใฝ่ใน การดี กลุ่มพวกเพื่อนๆก็จะต่างพากันชักชวนๆซึ่งกันและกันเพื่อสู่ความดี พาชักชวนกันเรียน พากันสอนกันซึ่งกันและกัน ดึงหรือฉุดกัน แข่งขันกันในการทำความดีกัน หรือแข่งกันในการแสวงหาความรู้และถ่ายทอดซึ่งกันและกัน ที่สำคัญคือ ก็จะการช่วยกันและกันในการชักชวนในการทำความดี และห้ามปรามในการกระทำความชั่ว
ดังนั้น ลูกๆจึงต้องหลีกเลี่ยงในการคบเพื่อ หรือกลุ่มเพื่อนที่จะเป็นตัวการในการชักนำ ฉุดหรือดึงสู่การกระทำที่ไม่ชอบอันเป็นการกระทำที่ผิดๆ เพราะปกติแล้ว การคบเพื่อนนั้น เพื่อนจะมีอิทธิพลต่อการชักนำสู่การตามใจเพื่อนหรือเอาใจเพื่อน ความไม่กล้าขัดใจเพื่อนหรือมีพฤติกรรมตามเลียนแบบเพื่อน เลียนบุคลิกลักษณะ ต่างๆที่จากเพื่อนนั้นเอง
มีฮะดิษ(2)ซึ่งเป็นจริยวัตร และวจนะของท่านศาสดาฯ มูฮัมมัด ศอลฯ และภาษิตคำสอนอีกมากมาย ที่เป็นทางนำ ข้อคิดให้ลูกๆได้รับทราบ และเป็นแนวทางในการคบหาสมาคมกับเพื่อน และเป็นข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น
“เพื่อน คือคนที่จะฉุดรั้ง กระชากลากเราให้เจริญรอยตามรอยเท้าเขา”
“หากอยากจะรู้ว่าเราเป็นอย่างไร ก็ดูได้จากสหายของเรา”
“หากอยากรู้จักอุปนิสัยผู้ใดสักคน ก็ดูจากจากตัวตนเพื่อน ย่อมเป็นเงาสะท้อนแทน”
ฯลฯ
อบูมูซา รฏิ ฯ เล่าว่าท่านศาสดา มูฮัมมัด ศอลฯ กล่าวว่า
“อุปมาเปรียบเพื่อนที่ดี และเพื่อนที่เลว เสมือนคนที่ถือชะมดเชียง และช่างตีเหล็กที่ใช้เครื่องเป่าลม (ช่างตีเหล็กที่ใช้เครื่องเป่าลม เพื่อเป่าไฟให้ลุกเมื่อเผาเหล็ก) ผู้ถือชะมดเชียง นั้นบางที่เขาอาจให้ท่าน และบางที่ท่านอาจขอซื้อจากเขา และบางทีท่านอาจพบกลิ่นหอมจากเขา และช่างตีเหล็กที่ใช้เครื่องเป่าลมนั้น บางที่เขาเขาอาจทำให้เสื้อผ้าของท่านไหม้ได้ และบางทีท่านอาจได้พบกลิ่นเหม็นจากเขา (เครื่องสูบลมอาจทำให้เกิดสะเก็ดไฟทำให้เสื้อผ้าของเขาไหม้ หรือมีกลิ่นเหม็นเพราะทำจากหนัง)
ท่านศาสดา มูฮัมมัด ศอลฯ มีวจนะความว่า
“จงระวังจากเพื่อนเลว ดังที่ท่านรู้เรื่องจากเขา” (รายงานโดย อิบนิ อัศซากีร)
ท่านศาสดา มูฮัมมัด ศอลฯ กล่าวว่า
“มนุษย์มีแนวโน้มที่จะได้รับอิทธิพลจากเพื่อนของตนเอง ดังนั้นเราจะต้องระมัดระวังในการเลือกเพื่อน”
ลูกๆที่รัก ดังนั้น การคบเพื่อนที่ดีนั้น จะเป็นผลดีต่อตัวเราเอง เพราะเพื่อนที่ดีจะเป็นผู้ที่นำมาซึ่งความดี หรือชักจูงเราสู่ความดี สู่อนาคตที่ดี ยิ่งคบเพื่อนที่เป็นผู้มีอิหม่าน ผู้ที่มีความศรัทธา ก็จะเกิดผล ชักนำเราไปในทางของผู้มีอิหม่าน เป็นผู้ที่มีความศรัทธาเป็นผู้ที่อยู่บนแนวทางที่อัลลอฮฺทรงโปรดปรานอย่างแน่นอน
ดั่งท่านศาสดา มูฮัมมัด ศอลฯ กล่าวย้ำว่า
“ปกติคนเราทุกคนนั้นย่อมยึดมั่นในวิถีของเพื่อน ดังนั้นจึงควรตระหนัก ระมัดระวังในการที่จะคบ
ผู้ที่จะเป็นเพื่อน”
เด็กๆ และเยาวชนผู้ใฝ่ดีทั้งหลาย ในการพัฒนาบุคลิกภาพ ของลูก แต่ละคน นั้น สภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ชุมชน เพื่อนๆ และผู้คนรอบๆตัว เป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่เด็กๆและเยาวชนจะดูดซึมซับภาพรอบตัว ความประทับใจครั้งแรก ความทรงจำต่างๆที่จะนำสู่การหล่อหลอมสู่การพัฒนาบุคลิกภาพของตนได้ ดังนั้นโรงเรียน สภาพแวดล้อมชุมชน เพื่อน ผู้คนที่ใกล้ชิด จะเป็นแบบพิมพ์แก่ลูกๆได้เป็นอย่างดี
ในสถานการณ์ที่คร่ำเคร่ง และผ่อนคลาย คืออิทธิพลจากเพื่อนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่ดี หรือเพื่อนเลวก็ตาม พฤติกรรมกริยามารยาทของเพื่อนจะถูกดูดซึมซับ เป็นพิมพ์ประทับใจในจิตสำนึกของลูก ซึ่งหากขาดการชี้แนะ หรือขัดเกลา ดูแล หรือนำทางให้ถูกต้องแล้ว สิ่งนี้จะนำสู่การพัฒนากลายเป็นพฤติกรรมของลูกต่อไป และยังเป็นภาพที่จะเป็นทางนำไปสู่ทางที่ชอบ หรือทางที่เราไม่ต้องการ เป็นพฤติกรรมที่ผิดก็ได้
ดังนั้น จึงขอย้ำให้เด็กๆ และเยาวชน ลูกรักทั้งหลาย พึงตระหนักในการละเว้นจากการคบเพื่อนที่ไม่ดี จงคบหาเพื่อนที่ดี มีคุณธรรม ผู้มีอิหม่าน มีศรัทธา แล้วเขาก็จะเป็นผู้ที่จะช่วยส่งเสริมในการกระทำดี หรือบำเพ็ญความดี ห้ามปรามการชั่ว ห้ามปรามการกระทำความผิดอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกันหากในหมู่กลุ่มเพื่อนที่ดี มีเพื่อนไม่ดีมาร่วมเพียงคนเดียวก็จะทำให้ผู้อื่นพลอยเสียหายทั้งหมดด้วย เหมือนปลาตายทั้งข้อง ดังคำกล่าวที่ว่า “ปลาตายตัวเดียว ก็จะมีผลเหมือนปลาตายทั้งข้อง”
กรณีศึกษาตัวอย่างเป็นเรื่องเล่าของ พ่อตัวอย่างคนหนึ่ง ครั้งหนึ่งเมื่อพ่อต้องการที่จะสอนบทเรียนบางประการแก่ลูก โดยที่พ่อได้นำกล่องใบหนึ่ง แล้วพ่อก็ได้บรรจุลูกแอปเปิลที่ดีและสดจนเต็มกล่อง และในจำนวนทั้งหมด พ่อได้บอกแก่ลูกว่าจะสอดใส่ลูกแอปเปิลเน่าใบหนึ่งปะปนลงในกล่องนั้นด้วย แล้วพ่อก็ได้กล่าวแก่ลูกๆว่า
“ลูกรัก ภายในเวลา 2 –3 วันนี้ ลูกจะได้เห็นว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับแอปเปิล ที่ดี และสดทั้งหมด”
จากนั้น 3 วันต่อมา กลิ่นแอปเปิลเน่าก็ส่งกลิ่นเน่าอบอวลทั่วบริเวณนั้น เขาจึงเรียกลูกๆ มาเปิดดู ปรากฏว่า แอปเปิลทั้งหมดเน่าเสียหายทั้งหมด เขาจึงกล่าวแก่ลูกๆ ของเขาว่า
“ นี้คืออุทาหรณ์ ที่จะสอนให้ลูกเห็นว่า ในการคบเพื่อน กลุ่มเพื่อน พวก หรือหมู่คนใดๆก็ตาม หากมีเพื่อนเพียงหนึ่งคน หรือเพื่อนเพียงคนเดียวที่อยู่ในกลุ่ม หรือพวก หรือหมู่คน เป็นคนไม่ดีก็จะนำมาซึ่งความเสียหาย และมีก็จะมีผลต่อคนอื่นๆทั้งหมดได้ ด้วยประการฉะนี้แล”
ดังนั้น จึงเป็นภาระ หน้าที่ของผู้เป็นพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ตลอดจนครูบาอาจารย์ อุสตัร(3) หรืออุตาซะฮฺ(4) ต้องให้ความสนใจกวดขัน และเข้มงวดเกี่ยวกับการคบเพื่อนของเด็กๆ และเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง ท่านต้องคอยสอดส่อง ดูแลเด็กๆและเยาวชนที่กำลังก้าวผ่านสู่วัยที่ต้องคบเพื่อน ด้วยการแนะนำ ชี้แนะ หรือสอดส่องเลือกเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เพื่อพวกเขาจะได้เติบโตด้วยกัน เพื่อที่พวกเขาจะไดใช้เวลาร่วมกัน มีกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา การร่วมเรียนกัน กวดวิชา ทบทวนบทเรียนด้วยกัน ดูแลการติดต่อสื่อสาร การคบหาสมาคมการชักชวนเล่นเกมส์ กีฬา หรือการเยี่ยมเยียนที่บ้านการและกัน โดยเปิดบ้านต้อนรับเพื่อนที่ดีของกันและกัน ให้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายรับทราบกันอย่างเปิดเผย การแนะสอนให้มีการช่วยเหลือ เผือแผ่ ค้ำจุนซึ่งกันและกัน ในยามตกทุกข์ได้ยาก การเปิดโอกาสให้พวกเขามีโอกาสร่วมทุกข์ ร่วมสุข การให้ของฝากติดไม้ติดมือยามไปเยี่ยมเพื่อน หรือการให้ของขวัญ แก่กันในโอกาสพิเศษบางประการเป็นต้น
อินซาอัลลอฮฺ นะอูซูลิลลาฮฺมินซาลิก
เชิงอรรถ
(1) อิหม่าน แปลว่า ความศรัทธา
(2)ฮะดิษ หมายถึงข้อความอันเป็นคำกล่าวของท่านศาสดามุฮัมมัด ศอลฯ รวมทั้งผู้ใกล้ชิดซึ่งท่านยอมรับหรือไม่คัดค้าน
(3)อุสตัร หมายถึง ครูสอนศาสนา ชาย
(4)อุสตาซะฮฺ หมายถึง ครูสอนศาสนา หญิง